วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ก้อยกะปอม

..............ก้อยกะปอม......................
......เคยโพสก้อยกะปอมแล้วหาไม่เจอ เจอแต่คำบรรยาย เลยต้องซ่อม เขียนใหม่ละกัน 
กะปอมก็คือกิ้งก่า สมัยเด็กเข้าป่าหรือไปเลี้ยงควาย ก็ล่ากะปอมได้มากพอก็มาเผาหรือย่างกินกัน
เลยรู้สึกชอบวิธีทำกินที่ทำกันบ่อย ๆ เช่น เผา ปิ้งย่าง ก้อย เผาจะทำเมื่อได้มาน้อยตัว เผาง่าย ๆ 
แบบซุกถ่านไฟ พลิกให้ไหม้ทั่วถึง ก่อนกินขูดหนังที่ไหม้ออก จะได้เนื้อที่สุกหอมมาก เกลือโรย
สักนิด จะได้อร่อยมาก ๆ การย่างกะปอม ถ้าได้หลายตัวก็ย่าง ถกหนังออก ควักขี้ล้างให้สะอาด 
คลุกเกลือกระเทียมแล้วนำไปย่างให้สุก เนื้อเกรียมหอมมาก ๆ แบบนี้ย่างสด ๆ กินอร่อย ย่าง
อีกแบบเป็นเนื้อตากแห้ง หรือแดดเดียว ย่างสุกแล้วกลิ่นหอมมาก  สมัยไปเรียนมัธยม 1-3 
เลิกเรียนกลับบ้านจับกะปอมตามรายทาง ถึงบ้านแม่ก็ทำกะปอมตากแห้งไว้ให้ ไปเรียนก็เลย
มีย่างกะปอมเป็นกับข้าวคู่กับแจ่วบอง น่าอายไหมเปล่าหรอกเพื่อนมันแย่งกันกิน แถมยังรอ
กลับบ้านพร้อมกันกลายเป็นพวกล่ากะปอม ถึงบ้านก็แบ่งกันไป วันหลังเลยได้หัวเราะ "ข้าก็มี
ปิ้งกะปอมเหมือนกัน"
.....ก้อยกะปอม เป็นเมนูต่อยอดจากปิ้งย่าง ไม่ได้ก้อยสด ๆ แต่ต้องสุกแล้ว ถึงจะนำมาสับ
ให้ละเอียด ได้เนื้อกะปอมสักถ้วย ก็ทำก้อยกะปอมได้แล้ว ใส่อะไรบ้าง รสเปรี่้ยวใช้มะม่วงดิบ
ครึ่งลูกสับเหมือนสับมะละกอทำส้มตำ พริกป่น ข้าวคั่ว  หอมแดง กะเทียมข่า  ใบหอมสด ชีหอม
ชีฝรั่ง น้ำปลารัา(ไม่มีตะไคร้นะ ไม่ได้ลืม)
......คลุกเนื้อกะปอมที่สับแล้วกับมะม่วงในชามใหญ่ ๆหน่อยข้าวคั่ว หอมกะเทียมน้ำปลาร้า 
ชูรส ชิมก่อนก็ได้ค่อยใส่ผักแต่งกลิ่นหอมสุดท้ายใส่พริกป่น ใส่ก่อนไม่ดีแสบมือ ขณะคนก็อย่าชิม
บ่อยนัก ของมีน้อย อร่อยแบบไม่ต้องโฆษณา มีเท่าไรไม่เหลือครับ  ขนาดผักกับจัดไม่ทันเลย
แหละ ผักกระโดนบก กระโดนน้ำ ผักเม็ก ผักกาดหิ่น  เพลี้ยฟาน
......แย้ครับ  เคยกินก้อยแย้วิธีทำก็เหมือนก้อยกะปอม อร่อยไม่แพ้กะปอมหรอก เนื้อ
เยอะกว่าด้วย แต่กลิ่นหอมสู้กะปอมไม่ได้  วิธีทำก็ถกหนังควักล้าขี้ออกให้หมด จะย่างเลยหรือ
ตากแห้งก็ได้ เครื่องปรุงก็แบบเดียวกัน แต่เรียกก้อยแย้
......เนื้ออย่างอื่นที่เอามาทำก้อย เคยลองหลายอย่างครับ หนูนาทำก้อยแบบนี้ได้เหมือนกัน 
แต่เนื้อมันเปียกชุ่มน้ำมัน เลยไม่นิยม ส่วนบ่าง ถอนขนเสร็จ แหวะเอาขี้ออกแยกขี้แก่ทิ้ง ขี้่อ่อน
เก็บไว้ให้ดี ย่างสุกแล้วสับเนื้อให้ละเอียด ขี้อ่อนใส่หม้อต้มน้ำน้อย ๆ สุกแล้วเอาไว้ผสมเนื้อที่สับ
แล้ว ก่อนใส่เครื่องปรุงอื่น ๆ ก็แบบเดียวกับที่ทำก้อยกะปอม แต่ก้อยบ่าง เนื้อไม่เปียกชื้น หอม
สู้กะปอมได้ แถมมีรสขมแบบเพลี้ยวัวเลยแหละ พรรคพวกเลยชอบกันมาก ยกให้เป็นคู่แข่ง
ก้อยกะปอมได้  เพื่อนบางคนมันเอาขี้อ่อน ไปต้มใส่ข่าตะไคร้ น้ำปลาร้า บีบมะนาวหน่อย ซดกัน
รอบวงเลย  เพลี้ยบ่างมันบอก.. โธ่ขี้บ่างชัด ๆ
......จบก้อยกะปอมแถมก้อยแย้และบ่าง พอเป็นกระสาย ให้ได้ทราบกันว่า คนอีสานสมัยก่อน
อยู่กินกันอย่างนี้ คนเขาถึงว่าคนพวกนี้หลงป่าไม่ตายง่ายหรอก 5 5 5
-----------------------------

21 มิถุนายน 2559

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น