วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2561

คุยโตโอ้อวด


ไปเยี่ยมชมวิหารเซียนพัทยา ชลบุรี
  ลูกสาวคนเล็ก หมู นัฐพล กับศิริกัญญา ลูกครูนก นกลูกสาวคนโต 
                                                                 และเราถ่ายภาพเซลฟี




......ผมเป็นคนขี้อวดว่าตัวเองเรียนเก่ง เลยโดนกระแหนะกระแหนว่าเก่งจริง หรือแค่โม้ เลยต้องเตือนตัวเองเสมอว่าจะศึกษาเล่าเรียนอะไรให้ตั้งใจเรียนให้มาก กว่าปกติ เรื่องนี้เกิดเมื่อปี 2498 สอบไล่ป.4 ข้อสอบกลางของอำเภอ คะแนนสูงสุด คนที่คะแนนรองก็เพื่อนกัน เขาให้ทุนเรียนต่อมัธยม 6 ปี เสียดายครอบครัวย้ายจาก บ้านเกิดไปอยู่จังหวัดอุดรธานี ผิดเงื่อนไขรับทุน ที่ 2 เลยรับแทน ทราบว่าได้เรียนต่อ จนจบ ป.กศ.สูง โชคดีไป ส่วนเราพ่อคงสงสารส่งให้เรียนจนจบ ม. 6 ความอวดเก่ง ยังไม่หมดเชื้อ สอบได้ที่ 1 ตลอด 6 ปี สมัยนั้นมี 3 เทอม ครองทอปทุกเทอมแหละ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ขี้โม้โอ้อวดได้ไง... .
........จบ ม. 6 อายุ 16 ปีบริบูรณ์ ย่าง 17 ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน เพื่อนไปสอบบรรจุเป็นครูประชาบาล พนักงานเกษตรตำบล เราจบ ม.6 จากโรงเรียนเกษตร มีสิทธิ์ทั้งสองอย่าง ขาดแต่อายุ 18 
ปีบริบูรณ์ถึงสอบบรรจุได้ ก็อกหักสิ เพื่อนไปสอบ ได้บรรจุกันหมด เหลือคนเก่งเคว้งอยู่บ้านคนเดียว เรียนต่อเขาให้โควต้า บางพระ 3 แม่โจ้ 3 เรามีสิทธิ์เลือกก่อน แต่พ่อไม่มีทุนจะส่งให้เรียน ก็ทำเกษตร
ที่บ้าน แทน ทำไร่ทำนาน่ะ โดนเพื่อนบ้านเยาะเย้ยถากถาง พูดไม่ออก เขาบอกว่า เรียนไป ก็แค่นั้น
ไม่ได้ทำการทำงานอะไรหรอก เสียเงินเสียเวลา บางคนถึงกับให้ลูกออก เมื่อเรียนไปแค่ ม.3 เจ็บใจ
นะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันจริงแบบเขาว่า 
........ปี 2504-2510 ช่วงนี้ตกงานอยู่บ้านได้รับคำนินทาเยาะเย้ยจนถือเป็นเรื่องปกติก็หันมาศึกษาวิถี
ชีวิตพื้นบ้าน ต้องทำอย่างไรถึงจะอยู่แบบชาวบ้านเข้าได้ ลูกผู้ชาย ต้องทำอะไรเป็นบ้าน โอกาสฝึก
ช่างฝีมือต่าง ๆที่ละเลยไป 6 ปี ที่เรียนต่อ รีบซ่อม เสริมให้ครบ เช่นการถักทอ ฟั่นเชือก ถักทอสวิง 
แห เครื่องจักสานทุกชนิด ทำ ได้ดีด้วย ขยันด้วย จนคนที่เคยเยาะเย้ยถากถางต้องประเมินกันใหม่ 
เพราะเป็นหนุ่ม ที่มีวิชาความรู้สามัญ ด้วยขยันทำมาหากินแบบหนุ่มชาวบ้านด้วย อย่าเลย รู้ทันน่า
เจอเราคุยแต่เรื่องลูกสาวให้ฟัง มันขยัน มันเก่ง....555
........ปี 2510 พ่อแม่ขอให้บวช 1 พรรษา ออกพรรษาจะจัดแต่งงานให้ คงเห็นเราชอบพูดคุยกับสาว
ที่ทำนาติดกัน สาวเจ้าก็ขยันเกินขุดดินทำคันนาเก่งกว่าราอีก จับ คันไถไถนาก็เก่ง ลงดำนาได้แต่
เช้ายันเย็น ใครก็อยากได้เป็นสะใภ้ แม่ว่าถ้าแกได้ เมียแบบนี้รับรองไม่อดตาย แต่เราเฉย ๆ ก็เคย
คุยกันแบบคนรู้จักกันเฉย ๆ พอบวชกลับ ติดลมเพราะชอบการศึกษาเล่าเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
สอบได้ทุกปี นักธรรมตรี โท เอก เปรียญ 2-3-4 แถมสอบเทียบ พ.กศ. และ พ.ม. ได้อีก เลยต้องสึก
ออกมา สอบบรรจุเป็นครูปี 2516 อ้อเป็นครูโรงเรียนมัธยมครับ เขาให้สอนวิชาศีลธรรม .
........ปี 2518 สอบศึกษาต่อ กศ.บ.ตั้งใจจะสอบคณิต-วิทย์ อ่านตำราเข้าใจยาก ไปสมัครสอบเอก
ภาษาไทย ปรากฏสอบได้ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะเรียนภาษาไทย ไหน ๆก็สอบติดแล้วก็เลยเรียนภาษา
ไทย คะแนนสอบต่ำมาก โปรไฟล์วิชาชุด พ.ม. ภาษาไทยสอบได้ 53 %คะแนนสอบคัดเลือกภาษา
ไทย อันดับ 39 จาก จำนวน 40 คนที่รับ อาจารย์แนะแนวเรียกไปพบและแนะนำให้ขยันศึกษาเล่า
เรียน ขอบคุณอาจารย์แนะแนว เพราะทำให้เราตื่นตัวเลิกคิดว่าตัวเองเก่ง ผลก็คือได้ เกียรตินิยม
พ่วงท้าย กศ.บ.(เกียรตินิยม) แบบนี้ไงโก้มากนา
..........จบเอกภาษาไทย ถามว่าสอนภาษาไทยใช่ไหม เปล่าเลยโรงเรียนเขาให้สอน ศีลธรรมตั้ง
แต่แรกบรรจุแล้ว จบเอกไทยก็ตามครูภาษาไทยเยอะแยะ แต่ครูศีล ธรรมไม่มีครูสังคมก็ไม่อยาก
สอนศีลธรรม มีครูจบเปรียญ 2 คน นักเรียน 46 ห้อง แบ่งคนละครึ่งสอนศีลธรรม ภาษาไทยก็ใส่ลิ้น
ชักไว้ .
..........หัวหน้าหมวดวิชาภาษาไทยย้ายเพื่อนครูขอให้รับหน้าที่หัวหน้าหมวด วิชา ก็รับไว้จนกว่า
เขาจะหาคนได้ เพราะเราทำหน้าที่ผู้ช่วยฝ่ายวิชาการอยู่ เกือบ ปี ถึงมีครูจบปริญญาตรีกลับมา 
ก็มอบหมายให้เขารับไป ช่วงที่รับหน้าที่หัวหน้า หมวดวิชาได้ช่วยสอนวิชาวรรณคดีไทย 6-10 
ชั่วโมง สอนกิจกรรมชุมนุมร้อยกรอง รับเด็ก ม. 1 เพียง 12 คน เพื่อทดลองบทเรียนร้อยกรองเรื่อง
กาพย์ ยานี ๑๑ และกลอนแปด ผลเกินคาด เด็กแต่งกาพย์กลอนได้รวดเร็ว ถูกฉันทลักษณ์  ดูใจ
ความดี ส่งแข่งกลอนสดกับพวก ม.ปลาย ได้ รองชนะเลิศ เด็กไม่พอใจเพราะ กลอนที่ชนะเลิศมี
ข้อบกพร่องมาก ต้องปลอบใจด้วยพาไปเลี้ยงข้าวก่อนพากลับ
............กรรมการตัดสินกาพย์กลอน ควรมีความรู้เชี่ยวชาญพอสมควร จะได้ ตัดสินได้ถูกต้อง บท
กลอนที่ให้ชนะวันนั้นมีทั้ง สัมผัสเลือน สัมผัสลัด ละลอกทับ ละลอกฉลอง ดีอย่างเดียวคือใจความ 
เด็กเรายังรู้เลยว่าบกพร่องอย่างไร ทำไม กรรมการไม่รู้ เราก็ไม่กล้าท้วงเดี๋ยวจะเป็นการหักหน้า
กรรมการที่เรียกผู้ทรงคุณวุฒิจากอุดมศึกษา
............ฝึกเขียนร้อยกรอง สนใจฝึกจริงจังเมื่อจบ กศ.บ.(เกียรตินิยม)ถึงไม่ได้สอนภาษาไทย ก็
ควรมีผลงานภาษาไทยไว้อวดเขาบ้าง แรก ๆ เขียนกาพย์ยานีเล่น ๆ เอานิทานโจ้กพื้นบ้านมาแต่ง
ราวสามสิบเรื่อง พิมพ์ใส่คอมไว้ เพื่อน ๆมาอ่านเล่นขอ ปรินท์ไปอ่านกัน ขอให้ทำเป็นเล่ม ไม่กล้า
ทำหรอก เดอร์ตี้โจ้กทั้งนั้น ที่สุดก็หาย ไปหมด เหลือแต่นิทานธรรมดา ๆ อย่างอีสป 100 เรื่องเป็น
ต้น จากกาพย์ก็กลอน ชอบเขียนเป็นนิราศ ยาวเกิน 100 บทกลอนทั้งนั้น เช่น นิราศสมุย นิราศไทร
โยค นิราศดอยอ่างขาง โคลงก็ชอบเขียนเช่น นิราศภูกระดึง นิราศเมืองเหนือ ในที่ สุดเลยมีผลงาน
ที่เขียนเป็นร้อยกรองมากมาย 
............มีเทคนิคอะไรไหมที่จะทำให้เราเขียนคำร้องกรองได้ดี ตอบไม่ยากแต่ทำอาจยากหน่อย 
ร้อยกรองทุกชนิดเหมือนกันหมดคือ เขียนมาก ๆ จะเกิดความถนัด ไม่ติดขัดเมื่อจะแต่ง อย่าคิดพึ่งพรสวรรค์ถ้ารู้ว่าเราไม่มี พรขยันชนะพรสวรรค์ได้เชื่อเถอะ ผมฝึกแต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน แต่
ละชนิดต้องเกิน 1000 บท ถึงจะเชื่อว่าตัวเองแต่งได้ ณ วันนี้เกินกำหนดที่ตั้งไว้แล้วทั้งหมด เลยคุย
โม้ได้ว่าแต่งคำร้อยกรองได้ทุกชนิดไม่มีติดขัด 
...........มีผลงานเผยแพร่บ้างไหม คงหมายถึงพิมพ์เผยแพร่ ไม่มีหรอก ที่เผยแพร่ทางเวบไซท์ ทาง
เฟซ พอมีบ้าง จะพิมพ์เป็นหนังสือคงได้หลายสิบเล่ม(เรื่อง) เอาไว้ให้ลูกหลานเขาอยากทำเลือก
ไปทำแล้วกัน เพราะส่วนตัวเองแล้วไม่พิมพ์หรอก เพราะ ค่าใช้จ่ายจัดพิมพ์ไม่มี พิมพ์ก็คงพิมพ์แจก 
ขายไม่ออกหรอก สมัยนี้คนอ่านร้อยกรองแนวโบราณหายาก งานเขียนที่แต่งด้วย กาพย์ กลอนโคลง
และฉันท์ มีมากจนจำไม่ได้ จะจดจำได้ก็พวกที่อัพโหลดไปไว้ที่เวบไซท์ อยู่ในคอมนับไม่ถ้วน เอา
มาให้ดูแล้วกัน
---------------------------
เวบขุนทองเขียนกาพย์กลอน ข้อเขียนร้อยกรองเยอะมาก
http://newjarinya.blogspot.com/2017/10/2.html
เวบขุนทองเขียนร้อยแก้ว ตั้งใจจะรวมเรื่องเล่าต่าง ๆแต่มีร้อยกรองแทรกอยู่บ้าง
https://mykht.blogspot.com/
เวบขุนทองเว้าพื้นบ้าน เนื้อหาตามนั้น แต่มีร้อยกรองปนอยู่นิดหน่อย
http://khuntong52.blogspot.com/2017/06/26.html

วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เล่าเรื่องกาพย์ยานี



ไปหาซื้อขนมตาล น้ำตาลสด หมู่บ้านตาลสด บางคล้า เจอตลาดนัดที่วัดปากน้ำโจ้โล่ 
เห็นโบสถ์สวยดี ถ่ายรูปไว้ดูเล่นครับ


ล่าเรื่องกาพย์ยานี

........กาพย์ หมายความถึงคำพูด ถ้อยคำ อย่างที่ผู้เฒ่าพูดคุยกัน "เป็นกาพย์เป็นกลอน" พจนานุกรมไทยก็ให้ความหมายไว้ว่า
.......กาพย์ น. คําร้อยกรองประเภทหนึ่ง มีหลายชนิด เช่น กาพย์ฉบัง กาพย์สุรางคนางค์ กาพย์ยานี กาพย์ขับไม้. (ส. กาวฺย).กาพย์กลอน น. คําร้อยกรอง.
.........รู้จักกาพย์ จากหนังสือเล่มเล็ก ๆ ในงาน "งันเฮือนดี" เป็นสำนวนอีสาน กาพย์ปู่ สอนหลาน กาพย์พระมุนี กาพย์-ผญา อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก เพราะไม่มีความรู้เรื่องคำ ร้อยกรองอีสาน ก็ได้รู้ว่ามีคำกาพย์อีสานมาแต่โบราณ ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ศึกษาจริงจัง แค่ รู้จักว่ามีกาพย์อีสานมานานแล้ว เท่านั้นเอง
..........จะคุยเรื่องกาพย์ แบบเล่าประสบการณ์จากการแต่งกาพย์ ไม่ใช่ตำรานะขอออกตัว ไว้ก่อน ดังนั้นเลยไม่ค่อยจะมีหลักเกณฑ์หรอก ว่ากันทื่อ ๆไปเลย เนาะ ผมแต่งกาพย์ยานี 11  ก่อน กาพย์อย่างอื่น เพราะใช้คำประหยัด แค่บาท ละ 11 คำ สองบาท 22 คำ ก็ได้ 1 บทแล้ว ใช้คำน้อย น่าจะเหมาะกับคนขยันน้อยอย่างเรา โตจนเป็นครู โท แล้วยังแต่กาพย์ กลอนไม่เป็น บรรจุใช้วุฒิ พม. เขาให้สอนศีลธรรม เหมา ม.ต้น 18 ห้อง ส่วน ม.ปลายยก ให้เพื่อนอีกคน มหาเปรียญ 6 ไป เรา แค่ เปรียญ 4 รับ ม.ต้น ดีแล้ว นี่แหละทำให้ไม่สนใจเรื่อง กาพย์กลอน เอาแต่เทศน์ให้เด็กฟังทุกวัน
.........ต่อมาสอบไปเรียนต่อได้เอกภาษาไทย จบมาเขาให้สอนภาษาไทย วิชาที่คนอื่นไม่ชอบ วรรณคดีไทยนั่นไง เลยเป็นความจำเป็นต้องสอนร้อยกรองไปด้วย ต้องอ่าน ทบทวน กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ หยิบกาพย์ยานี 11 ก่อน ฝึกด้วยการเขียนลงกระดาษข้อสอบเก่า อยู่ห้อง วิชาการ เครื่องโรเนียวมีกระดาษเขาทิ้งเป็นกล่อง ๆ นานทีมีพ่อค้ามาขอซื้อ เราเลือก ที่มันพอ ใช้ได้มาเย็บ 10-20 แผ่น เอาไว้เขียนเล่น ก็สนุกดีนะ ลงมือฝึกจริงก็พอเขียนได้
..........เขียนบทเรียนสำเร็จรูปการแต่งร้อยกรอง ทำเป็นภาคนิพนธ์ส่งครูวิชาการประพันธ์ ที่ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ใช้กาพย์ยานีเป็นหัวข้อเรื่อง เขียนจนกระทั่งว่ากาพย์ยานี 11 ปากเปล่าได้ จบมาเอามาใช้กับนักเรียน ม.1 เด็กสามารถโต้วาทีด้วยกาพย์ได้ เป็นเด็กชุมนุมร้อยกรอง มีสมาชิก 12 คน ขอหมวดวิชาภาษาไทยเขาให้จัดเด็ก ม.1 ให้ อ้อเราเป็นผู้ช่วยฝ่ายวิชาการครับ ไม่ต้องสอนกิจกรรมอะไรก็ได้ แต่อยากลองวิชา ผลเกินคาด เล่นกาพย์เบื่อ ขอกลอน ครูภาษาไทย มาเห็นชอบใจ เขามีกิจกรรมทางวิชาการระดับจังหวัด มีรายการโต้กลอนสดด้วย เราส่งเด็กไปแข่ง ม. ต้นได้เหรียญทอง ครูภาษาไทยไม่ได้ส่งทีม ม.ปลาย มาขอเด็กเราไปลงแข่ง เด็กเราไม่กลัว ม.1 สู่กับ ม.5-6 ได้รองชนะเลิศก็ดีใจมากแล้ว
........มัวแต่โม้เนาะ เมื่อไรจะถึงกาพย์ยานี ซะที ขออภัย นิสัยเดิมกำเริบ แต่งกาพย์ก็ต้องรู้แผน ผังบังคับก่อน แล้วแต่งตาม จะรู้จากไหนล่ะ เปิดตำราก็ได้ แต่ผมไม่เปิดหรอก ไม่มีหนังสือส่วน ตนเอง ไปห้องสมุดก็อยู่ห่างไป เลยใช้บทท่องจำใช้สอบวิชาชุดครู ยังจำได้อยู่ 

..........วิเคราะห์ แจกแจงดู ยานี 11 จำนวนคำที่ ใช้ วรรคอยู่แถวหน้า 5 คำ แถวหลัง 6 คำ วางรูปแบบบรรทัดละ 1 บาท 2 บาทเรียก 1 บท ตัวอย่างที่ยกมามี 3 บท ชื่อยานี 11 มาจาก จำนวนคำในแต่ละบาทนั่นเอง 
...........สัมผัสบังคับ บทหนึ่งมีสองแห่ง คือ (1)คำท้ายวรรคที่ 1 ส่งให้คำที่ 3 ในวรรคที่ 2 และ(2)คำท้ายวรรคที่ 2 ส่งไปให้คำท้ายวรรคที่ 3 บังคับแต่ละบทมีแค่นี้
..........แต่ยาวกว่า 1 บท ต้อง มีส่งต่อจากบทแรกไปยังบทถัดไป โดยคำท้ายบทแรก ส่งไปให้ คำท้ายวรรคที่ 2 บทถัดไป ส่ง-รับแบบนี้ไปเรื่อยจนจบความ แบบนี้ไง


                                     

............รู้แผนผังบังคับแล้วก็แต่งได้ แต่เพราะไม่เพราะอีกเรื่องหนึ่ง เพราะการแต่งกาพย์เพราะมีเรื่อง
ต้องรู้เพิ่มอีกคือความร่ำรวยถ้อยคำ นึกหาคำ ไหลมาไม่หยุดยังกะน้ำลำธาร ใช้ได้ และเรื่อง
จังหวะ สัมผัสนอก และสัมผัสใน เนื้อหาสำคัญก็จริงแต่ไม่มีวิธีแนะนำ ต้องหาประสบการณ์เอง
อ่านมาก ๆ จะได้แนวคิดพัฒนาเนื้อหา ส่วน 3 เรื่อง พอจะบอกกันได้
........จังหวะกาพย์ยานี วรรค 5 คำ จังหวะ 2 - 3 เพราะกว่า 3-2
.........วรรค 6 คำ 3 - 3 เท่านั้น อย่างอื่นไม่เพราะ
.........สัมผัสนอก ก็ให้ตรงตามแผนผังบังคับ ดีที่สุด อนุโลมได้ไหม วรรค 1 ไปวรรค 2 กำหนด
คำที่ 3 รับ เคยเห็น คำที่ 1-4 คำใดคำหนึ่งรับสัมผัส ได้ แต่ใช้คำเดียวนะ มีมากกวา 1 ไม่ได้เขา
เรียกสัมผัสเลื่อนเปื้อน ไม่ดี
.........สัมผัสใน มีก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร ส่วนมากอยากใส่สัมผัสใน เพราะคิดว่าจะช่วยให้เพราะ
มากขึ้น ก็ไม่ผิดหรอก แต่ใส่ให้เป็น สัมผัสในที่เป็นสัมผัสพยัญชนะ(สัมผัสอักษร) ไม่ค่อยมีปัญหา
ใส่ได้ใส่เข้าไป แต่สัมผัสในที่เป็นสัมผัสสระ ต้องระวัง อย่าให้เสียงไปซ้ำกับสังผัสบังคับเข้า ทำ
ให้กาพย์ชำรุดเสียหายได้
........น่าจะพอแล้วนะหลักเกณฑ์ของกาพย์ยานี 11 มาดูตัวอย่างกาพย์ยานี แบบต่าง ๆ ดังนี้
.........1. แต่งกาพย์ยานี 11 วรรคหน้า 5 คำ หลัง 6 คำ จดจำมาแค่นี้ ลุยเลย ได้กาพย์แบบนี้
..............กาพย์ยานีกำหนด...............จดจำบังคับแผนผัง
............สิบเอ็ดคำระวัง......................ใส่ให้ครบครันจึงดี
.............กาพย์อ่านจังหวะ 2-3 และ 3-3 วางคำคร่อมจังหวะ อ่านยาก จนไม่อยากอ่านอย่าลืม
จังหวะกาพย์สำคัญไม่น้อย
..........2.แต่งกาพย์ไม่เคร่งฉันทลักษณ์
............ลองแต่งกาพย์ยานีสิบเอ็ด..............ให้เสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง
............ห้าบทหนาอย่าโกง.........................สบายสบายไม่ต้องกังวล
.......การนับคำในร้อยกรอง นับเสียงพยางค์เท่ากับหนึ่งคำ ถึงจะอนุโลมได้บางคำ ก็ไม่ควรใช้บริการ
พรรษายังน้อย ว่าตามกฏข้อบังคับไปก่อน แก่พรรษาแล้ว แต่งผิด คนเห็นยังว่าเป็นแบบใหม่...55
..........3. สัมผัสในแพรวพราว
..............แต่งกาพย์ซาบซึ้งถึง................คะนึงครวญรวนเรเสน่หา
............ถึงคนรักสลักจิตสนิทอุรา.............แก้วกานดาอย่าลืมปลื้มเปรมใจ
.........สัมผัสในช่วยให้อ่านเพราะก็จริง แต่ก็ทำให้ใจความเป๋ไปได้ง่ายเหมือนกัน ใช้ให้เป็น
........ติโน่น เตือนนี่ แบบครูคนอื่น ๆน่าแหละ แต่งให้ดูบ้างสิ มีน้ำยาแค่ไหน อันนี้พูดแทนคน
ที่อ่านแล้วหมั่นใส้ ครับผม จะแต่งให้อ่านดู เอาเรื่องมีสาระหน่อยแล้วกัน การนับถือพุทธศาสนา....
...........กระผมเป็นชาวพุทธ...............จิตพิสุทธิ์สรณัง
.......ไตรรัตน์จงเจตน์ตั้ง.....................เป็นที่พึ่งถึงโดยคุณ
........สัพพะปาปัสสะ..........................บาปจักละมิใช่บุญ
.........ทำให้เกิดเรื่องวุ่น.....................พลอยกังวลหม่นหมองใจ
.........กุศลสัมปทา.............................ทำมากพาจิตสดใส
.........อิ่มเอมเปรมหทัย......................จิตผ่องแผ้วปราศนิวรณ์
.........สามเรื่องพุทธศาสตร์................ที่ปวงปราชญ์รับคำสอน
.........สืบทอดทุกบทตอน...................อนุศาสน์มานับนาน ฯ
........พอแหละเนาะ กาพย์ยานี เอาไว้เขียนกาพย์อย่างอื่นมั่ง ...


ขุนทอง ศรีประจง 
22-ส.ค.-61