วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

แกงหอยจูบ


.แกงอ่อมหอยจูบ
...................
...........หอยจูบ หอยขม กับคนอีสานรู้จักกันมาแต่เด็ก พ่อแม่พาเสาะหามาทำอาหาร ลูกสาวทุกคนรู้จัก ขัวหอย (หน้าแล้งหอยฝังตัวใต้ดินริมคันนา ใช้เสียมเซาะหา เรียกว่า ขัวหอย) หน้านามีน้ำขังในนา
หอยมันออกมา หางมเอาก็พอได้  ในลำห้วยมักมีตอไม้ขอนไม้แช่น้ำ หอยจูบก็ชอบเกาะ บางคราวตอเดียวก็พอแกง เวลาไปช้อนอีฮวกตามมุมคันนาที่ยังไม่ได้ปลูกข้าว เจอหอยก็เก็บเอาเหมือนกัน แต่วิธีของกระผม ใช้ผ้ามุ้งพลาสติค ที่เขาใช้ช้อนปลาในเขื่อนอุบลรัตน์ มันใหญ่ดี เอาไปช้อนใต้กอสวะในลำห้วย
ปักหลัง 4 มุม ดึงขอบมุ้งไว้ จากนั้นก็ย้ายกอสวะออกไป หมดแล้วก็ยกมุ้งขึ้น 55 หอยเต็ม แถมปลาดุก
ปลาหมอ ปลาไหล ก็เก็บเอาหมดนั่นแหละ รู้อยู่แล้วนี่ว่าต้องมีรายการแถม

...........หอยจูบ ชื่อแปลกดี ทำไมมีชื่อหลายชื่อ หอยจูบพอเข้าใจ คนอีสานเราเรียกกันมาช้านาน หอยชนิดนี้เอามาแกงทั้งเปลือก ก้นหอยต้องต่อยให้สามารถจูบปากหอยให้เนื้อหลุดเข้าปากกินกันได้ ถ้าไม่ต่อยก้นหอยก็ใช้ไม้จิ้มหอยช่วย ดังนั้นที่เรียกหอยจูบก็พอเข้าใจ ส่วนที่เรียกหอย ขม ไม่แน่ใจว่าเพราะขี้หอยมันขมรึเปล่า ความจริงทุกหอยขี้ขมทั้งนั้นแหละ แกงอ่อมหอยขม เรา นิยมแกงแบบจูบกิน กินกันแฟนคือยายที่บ้าน และจูบกันละที ตา จูบแล้วยายจูบบ้าง ต่างคนต่างจูบ หรือไม่ก็จูบ มัน พร้อม ๆ กันอร่อยมากเลย 
......เตรียมหอยให้แกงแล้วจูบได้ต้องต่อยก้นหอยให้ขาดซะก่อน เดิมเห็นใช้มีดสับรองเขียงไม้กว่าจะได้หอยสักหม้อแกงก็นานพอสมควร ส่วนผมมันประเภทแหกคอก ไม่เอาละมีดสับก้นหอย กลัวพลาดสับนิ้วเอา เลยใช้กรรไกรตัดเหล็ก ตัดสังกะสี ตอนนั้นเรียนทำครุถังจากปี๊บน้ำมันก๊าด เลยมีมีดกรรไกรคมดีมาก ขนาดสังกะสีมันตัดได้สบาย ประสาอะไรกับก้นหอย เอามาลองหนีบดู แม่ยายเห็นแกด่าว่าบ้า ไม่มีใครเขาทำหรอก แต่ตอนหลังเห็นแม่ยายแกลองดูเหมือนกัน ครับ ตัดก้นหอยเสร็จล้างให้สะอาดดีแล้วก็พร้อมจะทำแกง แต่ที่จะพูดถึงวันนี้เป้นการแกงหอยจูบที่ไป ซื้อเขาต้มสุกแล้ว แถมแคะเอาแต่หัวหอยวางขายถุงละ 25 บาท ไม่ต้องจูบยากแล้ว 
....เนื่องจากวันอาทิตย์ 3 กรกฎาคม 2559 จะไปงานที่วัดพระศรีมหาธาตุ ตอน 6 โมงเย็น กลัวรถติดเลย
ไปแต่เช้า ถือโอกาสแวะเยี่ยมลูกที่หมู่บ้านภัสสร จตุโชติ สุขาภิบาล 5 ลูกสาวอยาก กินแกงอ่อมหอยจูบ เลยให้ไปหาเครื่องแกงอ่อมมาให้ ได้หัวหอยสุกแล้ว 1 ถุง 25 บาทนอกนั้น ก็ผักคาด ผักขม ผักชีลาว มะเขือเปราะแมงลัก ใช้ได้
.....ตำเครื่องแกง พริกแห้ง 3 เม็ด หอมแดง 3 หัว ปลาช่อนแดดเดียวกินไม่หมด อยู่ในจาน1 ชิ้นเสียดาย ใส่ในครกบดเป็นเครื่องแกง กระปิ 1 ช้อนชา ช่วยทำให้ปลาร้าหอมนัวเสร็จก็ใช้ เป็นเครื่องแกงได้ ตั้งหม้อแกง ใส่น้ำถ้วยตวงเดียว ใส่พริกแกงที่ตำไว้ลงไป นำปลาร้า1 ทัพพี คน ๆ ๆ น้ำเดือด(ถ้าแกงหอยที่ต่อยก้นแล้วจะใส่หม้อแกงก่อนมะเขือ) ใส่มะเขือเปราะลงก่อนเพราะหอยสุกแล้ว เอาหัวหอยที่ล้างสะอาดแล้วเทลงไป รอให้เดือดครู่หนึ่งค่อยใส่ผักขม ผักคาดลงไป ผักพวกนี้สุกง่าย ตามด้วย แป้งข้าวเบือ 1 ช้อน (ทำจากข้าวเหนียวแช่ให้นิ่ม ใส่ครก บดให้เป็นแป้ง) คนจนแป้งเหนียว หยุดไฟ เติมผักชี ลาวและแมงลัก จบขั้นตอน ชิม ปรุงรส ตักไปลุยกันได้
....อาหารเที่ยงวันนั้นมีส้มตำ 1 จาน ไก่ย่าง 1 จาน แกงอ่อมหอยจูบ 1 ถ้วย ข้าวเหนียว 2 กระติ๊บ สมาชิก 4 คน ล้อมวง ช่วยกันจัดการใช้เวลาไม่นาน แกงหอยหมดก่อน ส้มตำถัดมา ไม่หมดคือไก่ย่างอิ่มแล้ว ก็แยกกันไปทำธุระ กลับมาบ้านก็ไม่ลืมเขียนแกงอ่อมหอยจูบนี่แหละ

-------------------
ขันทอง ตรวจทาน 1/8/59



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น