วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นิทานอีสป100เรื่อง

นิทานอีสป
1.  กบเลือกนาย                                                                    
ในบึงมีกบฝูงใหญ่  แฝงใบบัวบึงพฤกษา                                                
แมกไม้มดแมงนานา  อาหารหาง่ายสบายใจ 
คราหนึ่งกบชุมนุมกัน  ฝันว่ามีนายดีไหม 
คนที่จักช่วยคุ้มภัย  ทุกตัวใคร่จักมีนาย 
พวกกบมันเลือกผู้แทน  มีแผนส่งไปเป็นสาย 
วอนเทพแน่วแน่มิคลาย  หมายมีผู้นำพวกมัน 
เทพโยนขอนไม้มาให้  บึ่งใหญ่สะท้านน่าขัน 
ตูมตูมไม้กระแทกกระทั้น  น้ำนั้นกระเพื่อมตีฟอง 
พวกกบแตกตื่นหลบหนี  ต่างมีความกลัวสยอง
ให้หลังเงียบเสียงแอบมอง  ลองส่งผู้กล้าไปดู 
มันร้องบอกเทพส่งนาย  ท่อนไม้ลวดลายงามหรู 
เกาะเล่นสนุกข้ารู้  วู้วู้รีบมาพวกเรา 
ประชาชาวกบยังหวาด  ขลาดขลาดกลัวกลัวพวกเขา 
มินานชวนกันมาเฝ้า  ขอนไม้เร้าใจใคร่ปีน 
กบน้อยกบใหญ่หัวเราะ  แย่งเกาะลืมไปจำศีล 
แย่งกันกบไทยกบจีน  เหยียบตีนกันมั่วสนุกดี 
ขอนไม้พาลอยไปทั่ว  ไม่กลัวนานไปหน่ายหนี 
นายไม่พูดจาพาที  มิมีฤทธิ์เดชอันใด 
ไปวอนเทพเจ้าอีกครั้ง  หวังนายแบบป้องกันภัย 
มีความสามารถยิ่งใหญ่  ทำได้ชี้ตายชี้เป็น 
เทพไทรำคาญยิ่งนัก  กูจักให้มันได้เห็น 
ส่งนกกระสามาเป็น  นายเช่นพวกมันต้องการ 
นายนกกระสาจับปลา  เดินมาเห็นกบก็หวาน 
จับกินมิช้ามินาน  กบพาลจะหมดสิ้นไป 
อันความไม่รู้จักพอ  มักก่อเหตุร้ายไฉน 
ละโมบโลภมากจัญไร  ดังไฟจักเผาตัวเอง 
2.  กระต่ายป่ากับกบ
กระต่ายที่ป่าละเมาะ  ลัดเลาะทุ่งหญ้าไพศาล 
มันออกหากินสำราญ  เบิกบานหญ้าอุดมสมบูรณ์ 
วัวควายชาวบ้านก็มา  หากินมิเคยสิ้นสูญ 
งอกงามมาเติมเพิ่มพูน  จำรูญจำเริญน่ายินดี 
เสียดายบางคราวคนมา  ผวาตกใจหลบหนี 
บ้างมุดลงรูก็มี  บ้างรี่เข้าป่าไปทัน 
จ่าฝูงจึงเรียกประชุม  กลุ้มนักวิตกผกผัน 
ตกใจแตกตื่นทุกวัน  ชวนกันไปโดดน้ำตาย 
ทุกตัวเห็นพ้องรีบไป  ที่แม่น้ำใหญ่หนึ่งสาย 
เห็นกบกระโดดวุ่นวาย  หมายหนีลงน้ำนั่นเอง 
กระต่ายได้คิดที่จริง  สรรพสิ่งมีภัยข่มเหง 
ทำให้ตกใจหวาดเกรง  นักเลงไม่ฆ่าตัวตาย 
อันความทุกข์ยากลำบาก  มีมากใช่เรื่องเสียหาย 
พบพานแก้ไขกลับกลาย  ดีกว่ายอมพ่ายก่อนทำ 
3.  กระต่ายกับเต่า 
กระต่ายหนุ่มน้อยในป่า  ท่าทางกระฉับกระเฉง 
วิ่งเล่นในป่าตามเพลง  มากหมู่กันเองรื่นรมย์ 
แล่นเหนื่อยหลบตามพุ่มไม้  หลบไว้นอนเล่นสุขสม 
มินานก้อนหินกลมกลม  ชวนชมกลิ้งผ่านไกล้มา 
ที่แท้ก็คือตอเต่า  งี่เง่าต้วมเตี้ยมนักหนา 
ทำไมเอ็งจึงชักช้า  ปัญญาคงโง่เต็มทน 
ดูข้ารูปร่างสะสวย  ร่ำรวยปรีชามิสับสน 
วิ่งเร็วกว่าลมทุกตน  ฉลาดกลชั้นเชิงเชี่ยวชาญ 
เต่าฟังดังลมออกหู  ถึงตูต้วมเตี้ยมแต่หาญ 
ทุกตัวล้วนเกิดมานาน  รู้กาลรู้คุณอุ่นใจ 
เป็นต่ายมิควรหมิ่นเต่า  เราขอท้าทายสู้ไหม 
มาวิ่งขันแข่งกันไป  เส้นชัยสักสิบกิโล 
กระต่ายหัวร่อขบขัน  รับคำด้วยมันโมโห 
ได้เลยคุณเต่าตาโต  พิโธ่เล็กน้อยได้เลย 
เริ่มต้นเชิงเขาตรงนี้  คือที่ออกวิ่งอย่าเฉย 
พรุ่งนี้พร้อมกันดังเคย  กรรมการขอเอ่ยเชิญใคร 
คุณเต่าว่าวานจิ้งจอก  บอกเขาพร้อมกันดีไหม 
วานจงอยู่รอเส้นชัย  จักได้เป็นพยานสำคัญ 
ทุกการเตรียมพร้อมยอมรับ  พร้อมสรรพรุ่งขึ้นขยัน 
เต่ากระต่ายตื่นเช้ามากัน  พร้อมสรรพ์เริ่มแข่งได้เลย 
กระต่ายแคล่วคล่องว่องไว  วิ่งไปราวลมพัดเฉย
ลับหายสายลมรำเพย เต่ามันค่อยคืบคลานไป 
กระต่ายวิ่งเร็วนักหนา  ผ่านมามินานสงสัย 
โน่นแน่แลเห็นเส้นชัย  ดีใจแวะพักข้างทาง 
ร่มไม้ลมพัดเย็นเย็น  ช่างเป็นหดหัวหดหาง 
ปล่อยกายพักผ่อนปล่อยวาง  นึกอ้างสักครู่ค่อยไป 
ลืมหลับสนิทจิตปล่อย  หลับผลอยเนิ่นนานไฉน 
ส่วนเต่าต้วมเตี้ยมคลาไคล  จนได้เห็นกระต่ายหลับนอน 
คลานต่อมิหยุดสุดแรง  แข็งขันอดทนทอดถอน 
พากเพียรกำหนดบทจร  ถึงตอนสุดท้ายเส้นชัย 
กรรมการจิ้งจอกงุนงง  ตรงมาหาเต่าสงสัย 
กระต่ายตายแล้วหรือไร  ทำไมมิยอมวิ่งมา 
มินานกระต่ายวิ่งตาม  ยามนี้ยิ่งแปลกนักหนา 
ทำไมจึงเกิดชักช้า  เสียท่าคุณเต่าติดดิน 
อันความเย่อหยิ่งจองหอง  ลำพองว่าเลิศประเสริฐศิลป์ 
ดูถูกดูแคลนดูหมิ่น  ยินดีตามความพอใจ 
มักเกิดผิดพลาดโดยง่าย  เสียดายความเก่งไฉน 
ปัญญาฉลาดว่องไว  เพียงไร้คุณธรรมนำพา 
ทำการทำกิจผิดพลาด  มิอาจแก้ไขกังขา 
เพราะความประมาทธรรมดา  จรรยาไม่ดีนั่นแล 
4.กระต่ายกับหนู 
     กระต่ายหิวโซตัวหนึ่ง  ถึงคราข้าวยากหมากแพง 
หากินยากยิ่งหน้าแล้ง  อดมือกินมื้อยากเย็น 
ทำให้ผ่ายผอมโหดหิว  ท้องกิ่วโซเซมาเห็น 
รูหนูสงสัยคงเป็น  ที่ซ่อนอาหารของมัน 
ลองมุดเข้าไปจนได้  นี่ไงข้าวเปลือกพร้อมสรรพ์ 
เม็ดถั่วเม็ดงาสำคัญ  ของโปรดทั้งนั้นโชคตู 
มันแอบกินเพราะหิวมาก  ลำบากหลับในรังหนู 
ตื่นมาหิวอีกมองดู  อาหารมากมีสะดวกดาย 
กินอิ่มนอนหลับอ้วนท้วน  ของกินยั่วยวนเหลือหลาย 
ร่างมันโตใหญ่มากมาย  เคลื่อนกายลำบากยากเย็น 
จักออกก็ออกมิได้  ตัวใหญ่คับรูยากเข็น 
พวกหนูมาพบล้อเล่น  เฮ้ยคุณต่ายจอมโจร 
แอบกินอาหารพวกข้า  โลภาอ้วนพีเคยโผน 
โลดแล่นเร็วไวลองโดน  หนูแทะหางเล่นไม่ไป 
รูเล็กที่แกเห็นนั่น  มันทางมุดมาใช่ไหม 
ตอนนี้อ้วนพีตัวใหญ่  เลยออกมิได้สนุกเรา 
ต้องเป็นของเล่นหนูหนู  อยู่นี่ช่วยให้คลายเหงา 
ได้กัดได้ถีบเบาเบา  จนกว่าจักผอมค่อยไป 
อันความโลภโมโทสัน  โทษมันมากมีขอไข 
ชักนำทำผิดพลาดได้  บางคราวเภทภัยตามมา 
พึงรู้จักยั้งชั่งจิต  พึงคิดรอบคอบสอบหา 
ควรหรือมิควรปัญญา  จักได้ไม่พลั้งพลาดแล 
5กระต่ายกับเพื่อน
กระต่ายป่าอารมณ์ดี มีเพื่อนสัตว์ป่าหลากหลาย
ม้าวัวแพะแกะมากมาย ภูมิใจโอ้อวดทั่วไป
กระต่ายแบบฉันเพื่อนมาก เขาอยากเป็นมิตรแน่ไหม
สัตวสัมพันธ์นั่นไง ฉันมีมากมวลแน่นอน
วันหนึ่งยินเสียงหมาป่า ดังมาทั้งยังเห่าหอน
มันกลัวจักอาจม้วยมรณ์ จำไปหาเพื่อนช่วยที
พบม้าเพื่อนเกลอช่วยหน่อย เราคอยนายพาหลบหนี
ม้าบอกธุระฉันมี ลองไปถามไถ่คุณวัว
กระต่ายวิ่งหามินาน พบพานขอร้องน่าหัว
มันบอกกูเองก็กลัว มิหนำมีนัดนวลนาง
งัวสาวสุดสวยเซกซี่ โทษทีกลัวสาวเมินหมาง
ทีหลังมิขัดวัวอ้าง ลองไปหาแพะดูเธอ
เดินทางเทียวหาคุณแพะ แวะไปพบพานเสนอ
กลัวหมาพาหนีหน่อยเกลอ มันร้องใกล้มาทุกที
อยากช่วยเหมือนกันแพะว่า ขนข้ายามนั่งพาหนี
แข็งมากทิ่มตำไม่ดี เพื่อนจักเจ็บตูดทรมาน
ลองถามเจ้าแกะดูนะ ขนมันละเอียดลองขาน
พบมันลองขอไหว้วาน สบายกว่ากันมากเลย
กระต่ายตรงไปหาแกะ ตามแนะฟังเพื่อนเปิดเผย
พวกกูกลัวมิอยากเอ่ย หมามันชอบกัดแกะเรา
ทันใดหมาป่ามาใกล้ กลัวภัยด้วยความขลาดเขลา
ออกวิ่งรวดเร็วมิเบา รอดพ้นความตายปลอดภัย
อันเพื่อนมากมวลที่มี เพื่อนดีพึ่งพาอาศัย
มีน้อยหายากกระไร ส่วนใหม่มักเป็นเพื่อนกิน
ทำการทำกิจน้อยใหญ่ ครวญใคร่ทั้งศาสตร์และศิลป์
ลงมือทำเองยลยิน มักเสร็จได้ด้วยปัญญา
6.  กวางกับเสือ
กวางน้อยหากินในป่า เล็มหญ้าใบไม้ตามประสา
มินานพรานไพรผ่่านมา เห็นท่าไม่ดีหนีไป
นายพรานตามมิลดละ สะกดรอยกวางอยู่ไหน
มินานเห็นหลังไวไว โลดไล่มิยอมเลิกรา
กวางน้อยตกใจยิ่งนัก หักหลบเข้าถ้ำผวา
มิรู้เป็นถ้ำพยัคฆา หน้าตั้งวิ่งมุดเข้าไป
เสือโคร่งก็ตื่นตระหนก ยกคอแอบดูสงสัย
เออหนอนี่มันอะไร หรือภัยวิ่งมาหาเรา
ที่แท้ลูกกวางตัวจ้อย เด็กน้อยช่วยให้คลายเหงา
เอ็งจักเป็นอาหารเรา ย่อเข้าตะครุบทันที
ลูกกวางถึงกาลอวสาน บันดาลคิดหาวิถี
หมดสิ้นคงยากครานี้ มิมีทางรอดใดเลย
อันตรายมากมายนักหนอ ถึงรออยู่นิ่งเฉยเฉย
มัจจุราชเชิญรถมาเกย ยามเผยให้เห็นสะพรึงกลัว
ไม่เลือกเวลาเย็นเช้า พบเข้ายามบ่ายน่าหัว
ยามค่ำยามดึกใช่ชั่ว อย่ามัวประมาทจึงดี
7.  กวางป่ากับพุ่มไม้
กวางหนุ่มถูกพรานล่า หลบหลีกกลางป่าขุนเขา
วิ่งมาพบพุ่มไม้เก่า ใบอ่อนแตกคลุมรำไร
แวะหลบเช่นเคยดีแน่ นายพรานเหลือบแลอยู่ไหน
มิเห็นวิ่งผ่านเลยไป กวางหนุ่มวางใจยินดี
ยืนนานชักหิวมากนัก หักกิ่งไม้เล็มตรงนี้
กำลังแตกใบมากมี ยอดอ่อนรสเปรี้ยวปรีดา
มินานพรานกลับทางเก่า เห็นเข้าพุ่มไม้แลหา
ทำไมใบหล่นแปลกตา ที่แท้กวางหลบนั่นเอง
ส่องปืนนัดเดียวกวางล้ม สมใจเพราะกวางข่มเหง
พุ่มไม้มีคุณมิเกรง มัวกัดกินใบเสียเพลิน
พุ่มไม้ใบมิดปิดบัง มิได้ระวังขัดเขิน
จนใบโปร่งบางง่ายเกิน พรานเห็นดับดิ้นชีวา
อันคนอกตัญญู มิรู้คุณคนอื่นหนา
มักมีเภทภัยบีฑา เพราะว่าบาปกรรมตนแล
8.  กากับนกยูง
ยายแก้วเรียกลูกมาพบ นิทานอีสปนี่หนา
มีเรื่องเกี่ยวกับอีกา วางท่าอยากเป็นนกยูง
มันอยู่กลางป่ากลางดง ทุกวันคงอยู่กับฝูง
จิตใจมักอวดชักจูง ลืมทุ่งลืมป่าดงดอน
เห็นนกยูงขนสีสวย งงงวยมนต์ขลังเฝ้าสอน
ตัวข้ามีขนอรชร งอนงามแบบนั้นคงดี
ใครเห็นใครคงอิจฉา เพราะงามสง่าราศี
งามกว่ากาดงพงพี ข้านี้สูงส่งเลิศลอย
มันเที่ยวบินวนเลียบป่า หาขนนกยูงใช้สอย
เก็บมาเสียบแซมไม่น้อย แพรวพรายดังพลอยเลื่อมงาม
มันเที่ยวบินอวดนกอื่น เขาตื่นแปลกใจไถ่ถาม
นั่นตัวอะไรมองตาม ยามมองงุนงงสงกา
มันบินเข้าใกล้นกยูง อยากอยู่กับฝูงเสาะหา
เลียบเคียงเข้าใกล้เสวนา บรรดานกยูงในใจ
เจ้านี่อีกาตัวดำ น่าขำแต่งขนแปลกไฉน
ทำท่าเทียบเราเข้าใจ จิกไล่หลีกพ้นคนจร
โดนจิกด่าตีเจ็บปวด รวดเร้าหลบจากสิงขร
บินมาหาเพื่อนในดอน เดือดร้อนหวังพึ่งพวกตน
พวกกาจำได้หมอนี่ อวดดีอวดเด่นสับสน
รังเกียจพวกพ้องยากจน ลนลานอยากเป็นนกงาม
คงถูกขับไล่ไสส่ง ตรงมาไม่ต้องไต่ถาม
ขับไล่ให้ไกลทุกยาม เขาตามจิกตีด่าทอ
อันคนลืมตนลืมชาติ ประหลาดเย่อหยิงนี่หนอ
ใครเขารังเกียจเหล่ากอ ไม่อยากพบพ้อสัมพันธ์
ดังกาใฝ่หงส์สูงศักดิ์ มักอวดเขาเห็นเป็นขัน
เพื่อนเก่าทอดทิ้งสำคัญ มาดมั่นสูงไปไม่ดี
9.  กากับเหยือกน้ำ
ยังมีอีกาตาดำ เคราะห์กรรมบินไปในนา
ยามแล้งแดดเจิดจ้า ร้อนจัดจนน่ารำคาญ
นานเข้าก็กระหาย สายตาสอดส่องประสาน
ห้วยหนองขาดน้ำมานาน แห้งผากทุกแห่งเสียดาย
แลเห็นกระท่อมกลางนา แวะหาคงไม่เสียหาย
อาจมีตุ่มน้ำผ่อนคลาย หิวมากจวนจักเป็นลม
มีตุ่มแต่ไม่มีน้ำ ช้ำนักอีกาขื่นขม
เห็นเหยือกอีกใบตาคม แวบแวบในห้องชาวนา
เลาะไปเห็นมีน้ำอยู่ นิดหน่อยก้มดูหรรษา
ก้มลงจักดื่มสักครา เสียดายอยู่ลึกเกินไป
มันคิดตรึกหาวิธี พลันมีความคิดแจ่มใส่
บินหาหินคาบเอาได้ วางใส่ลงเหยือกทดลอง
หลายรอบหลายก้อนน้ำล้น จนดื่มได้ตอบสนอง
ไหวพริบปัญญาดังทอง คุณค่ามากพ้นคณนา
สั่งสมเอาไว้ดีนัก ประจักษ์ยามสบปัญหา
หากแม้นมากมีปัญญา สามารถช่วยได้แน่เอย
10.  ไก่แจ้กับเหยี่ยว
ไก่แจ้หนุ่มน้อยสองตัว ชอบมั่วแก่งแย่งกันเสมอ
ถึงอยู่ด้วยกันยามเจอ เธออย่ามาแย่งฉันซี
ลานบ้านมันเขตของฉัน เธอนั้นที่หลังกำแพง
ต่างตัวต่างก็ไม่ยอม พร้อมรบอย่ามากำแหง
ที่สุดก็ต้องออกแรง ทิ่มแทงด้วยเดือยจิกตี
ตัวเล็กด้อยพลังพ่ายแพ้ เจ็ดปวดนักแลถอยหนี
แอบอยู่ไต้ถุนรอรี เจ็บนี้ปวดนักร้าวราน
ไก่แจ้ตัวใหญ่ชนะ ประกาศก้องกูกล้าหาญ
ชนะศึกแย่งแดนสำราญ เบิกบานโลกนี้ของกู
โก่งคอขันเอ๊กอีเอ๊กเอ๊ก เด็กเด็กหายไปไหนสู
คนเก่งคนชนะมาดู ยืนอยู่ที่ขอบกำแพง
บัดดลเหยี่ยวใหญ่ผ่านมา แลหาเห็นไก่กำแหง
กำลังอวดเก่งอย่างแรง เหยี่ยวโฉบสำแดงฤทธี
จับไก่ไปกินโดยง่าย มันตายเพราะอวดไม่หนี
ตัวพ่ายออกมายินดี ไม่มีคู่แข่งสบายใจ
อันการแก่งแย่งทำการ รำคาญคนชนะจะไข
มักอวดเย่อหยิ่งกระไร มักได้ดูหมิ่นดูแคลน
บ่อยครั้งตั้งใจประมาท พลาดพลั้งเสียหายหลายแสน
ดังไก่เสียชีพเสียแดน แม่นมั่นเย่อหยิ่งนั่นแล
11.  ไก่ชนกับหมาจิ้งจอก
มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันถึงเล้าไก่แลหา
ช่องทางจักเข้าไปคว้า หาไก่มากินสักตัว
เสียดายเขาทำมั่นคง มันงงเดินวนเวียนหัว
พวกไก่ต่างแตกตื่นกลัว เห็นรั้วมั่นคงผ่อนคลาย
ไก่ชนตัวหนึ่งบินร่อน เกาะคอนบนรั้วใจหาย
จิ้งจอกกระโจนลวดลาย หมายจักจับมันทันใด
มันโจนหลบลงที่เล้า เพื่อนเขาล้อเลียนสงสัย
จักจิกจิ้งจอกแล้วไซร้ แล้วใยหลบหนีลงมา
ไก่ชนบอกไม่ทันเห็น ยากเย็นหลบจิ้งจอกหนา
เมื่อก่อนมันเคยกัดข้า คมเขี้ยวน่ากลัวจริงจริง
ยอมรับว่ายังขี้ขลาด มิอาจสู้มันชายหญิง
ขออภัยยังไม่อยากทิ้ง คอฉันให้มันคาบไป
อันการยอมรับความขลาด ฉลาดระวังสงสัย
ผ่อนหนักผ่อนเบาเภทภัย ดีกว่าอวดกล้าอวดดี
บ้างก็ประมาทเลินเล่อ ยามเจอเรื่องยากหลบหนี
ปมาโทมัจจุโนปทังชี้ สัจจธรรมจำไว้ดีแล
12.  ไก่ได้พลอย
 ไก่เอ๋ยเจ้าไก่แจ้ งามแท้ท่วงท่าสง่าเสมอ
ขนงามเลื่อมสลับได้เจอ ขานขันละเมอจำเรียง
เพราะพริ้งเอ๊กอีเอ๊กเอ๊ก ดังเสกมนต์เสน่ห์เสนาะเสียง
ไก่สาววิ่งหาคลอเคียง จำเรียงจ๊ะจ๋าชื่นใจ
ชวนกันผันผายขุดคุ้ย เขี่ยลุยหากินตรงไหน
ร่องรอยขุดหาคลุ้งไป ฝุ่นได้ตลบอบอวล
มินานสาวไก่กระต๊าก หายากเพชรพลอยน่าสรวล
เม็ดงามน้ำดีเนื้อนวล ควรค่านับหมื่นทีเดียว
กุ๊กกุ๊กทุกคนมาดู งามหรูดูดีสีเขียว
เขากลึงงดงามตามเกลียว รีบเทียวมากันไวไว
เจ้าหนุ่มวิ่งมาหยุดอยู่ แลดูยังคงสงสัย
งดงามมีค่าอันใด ไม่อาจเทียบข้าวเปลือกเลย
จักกินก็กินไม่ลง คงเก็บไว้ดูเฉยเฉย
ไร้ค่าไร้คุณสาวเอย ข้าเคยพบพานมากมาย
ฝูงไก่ผ่านเลยหากิน ไม่ยินไม่ยลลับหาย
อันคนบางคนหญิงชาย คล้ายคล้ายกับไก่ได้พลอย
พบพานสิ่งดีมีค่า กลับมีปัญญาถดถอย
แลเห็นมองเป็นเผือกกลอย ค่าน้อยเลยมองข้ามไป
ต่อผู้ปรีชาฉลาด สามารถค่าควรขานไข
รู้เลือกรู้สรรค์เร็วไว ใช้สอยคุ้มค่าของดี
13.  คนเดินทางกับต้นไม้ใหญ่
กลุ่มคนเดินทางกลางทุ่ง มุ่งหาร่มไม้แลเห็น
ลิบลิบตรงโน้นคงเย็น หลบเร้นบังเงาเบาแรง
สบายใจสนทนาพาที หัวหน้าท่าทีกำแหง
ยโสโอหังชี้แจง ต้นไม้มันด้อยราคา
หนามแหลมใบขมไร้ดอก ยากบอกสรรพคุณนั่นหนา
กิ่งก้านคดเคี้ยวไปมา แลหาคุณมันไม่มี
ต้นไม้รำคาญเลยบอก อ้ายหอกคนไร้ศักดิ์ศรี
กตัญญูกตเวที เครื่องหมายคนดีทุกคน
ได้รับบุญคุณจากใคร รู้ไว้เป็นดีมิสับสน
ตอบแทนเป็นศรีแก่ตน แต่คนอย่างเธอแปลกไป
อาศัยร่มเงาฉันแล้ว ผ่องแผ้วดวงจิตสงใส
กลับมานินทาฉันไย อย่างนี้เรียกอกตัญญู
14.  คนตกเบ็ดกับลูกปลา
ชายหนุ่มนักตกปลา นั่งที่ท่าแต่เช้าจนสาย
เห็นปลามีมากมาย มันแหวกว่ายมากมวลมี
แต่ปลามิติดเบ็ด จนเอวเคล็ดน่าหน่ายหนี
นั่งรอดูท่าที บ่ายคล้อยแล้วชักเหนื่อยใจ
กำลังจะกลับบ้าน สายเบ็ดพาลตึงสงสัย
วิดเบ็ดขึ้นทันใด ติดปลาตัวจ้อยนิดเดียว
ปลาน้อยร่ำร้องวิงวอน ฟังก่อนท่านผู้ฉลาดเฉลี่ยว
ตัวข้ายังเด็กเล็กเชียว เนื้อน้อยไม่พอต้มแกง
ปล่อยข้าไปเถอะเจ้านาย ภายหน้ายามข้ากำแหง
เติบโตมีเรี่ยวมีแรง จักมาให้จับอีกนาย
เจ้าหนุ่มบอกว่าน่าฟัง แต่ยังมิเชื่อโฉมฉาย
ตัวเล็กตัวใหญ่วุ่นวาย ภายหน้าหวังจับยากเย็น
จับได้ตัวเล็กก็ปลา ได้มาดีแล้วที่เห็น
อดทนลำบากลำเค็ญ จับได้แค่นี้พอใจ
อันการหวังน้ำบ่อหน้า จักหาพบเห็นฤาไฉน
มักจักพลาดพลั้งมากไป ที่ได้ดังหวังน้อยแล
15.  คนเรือแตกกับกวี
ซีโมนิดกวีแห่งเอเธนส์ เป็นผู้เชียวชาญเชิงศิลป์
กาพย์โคลงแต่งเป็นอาจิณ ใครยินใครอ่านชื่นชม
บ้านอยู่ที่เกาะซีออส สุดยอดคนดีกวีสม
รวยลาภรวยเกียรติชนนิยม คารมเพราะพริ้วแพรวพราว
คราวหนึ่งไปเที่ยวเอเซีย อินเดียท่องไปไม่หนาว
ชมบ้านชมเมืองเรื่องราว วีรกรรมวีรชนสนใจ
แต่งบทสดุดียกย่อง ผู้ครองแผ่นดินถิ่นไหน
ล้วนเป็นคนดีศิวิไลซ์ กวีไขเกียรติยศขจรขจาย
เจ้าเมืองชอบใจให้ลาภ ซาบซึ้งโคลงกลอนเหลือหลาย
เงินทองมากมีมากมาย เสียดายห่างบ้านนานมา
จองเรือเดินทะเลเร่ร่อน จักจรคืนกลับเคหา
ที่กรุงเอเธนส์แก้วตา ภรรยาครอบครัวคอยรอ
เรือพบพายุกระหน่ำ เคราะห์กรรมเรือแตกแลหนอ
ผู้คนตื่นกลัวยืนออ บ้างขอเก็บเงินเก็บทอง
เพชรนิลจินดาหายาก ค่ามากยิ่งทรัพย์ทั้งผอง
วุ่นวายหีบห่อจับจอง ข้าวของพะรุงพะรัง
แลเห็นกวีนิ่งอยู่ มิรู้ถอดใจไร้หวัง
ฤๅว่าตะลึงลืมคลัง สมบัติเขายังมากมาย
เขาบอกท่านกวีรีบเข้า เก็บเอาเพชรนิลไว้ขาย
เงินทองกระจัดกระจาย ภายหน้าจักได้ใช้กัน
กวีใหญ่ส่ายหน้าไม่ครับ ไม่รับเงินทองพร้อมสรรพ์
ขอเพียงท่อนไม้สักอัน โอบมันลอยคอในสายชล
สมบัติเรามีในหัว มิกลัวอดตายอย่าฉงน
เตรียมตัวพี่น้องทุกคน เรือวนเวียนล่มจมไป
หลายคนหนักหีบสมบัติ น้ำพัดยากว่ายจริงไฉน
จมน้ำชีวันบรรลัย เพราะใจโลภหลงเงินทอง
บางคนขึ้นฝั่งพบโจร เลยโดนปล้นจี้ทั้งผอง
แก้วแหวนที่หวังครอบครอง เลยต้องหมดตัวพอดี
ส่วนเซโมนิดถูกปล้น ถึงค้นก็ไม่หน่ายหนี
ทรัพย์สินเงินทองไม่มี โจรไว้ชีวีเมตตา
นายโจรจำโมนิดได้ กวีใหญ่เอเธนส์นี่หนา
เคยอ่านผลงานท่านมา ปรีดาได้พบท่านกวี
ขอโทษล่วงเกินท่านไว้ เพียงได้พบเห็นเป็นศรี
จัดเลี้ยงขออภัยไมตรี ยินดีถ้วนหน้าประชาชน
ของขวัญหลั่งมามอบให้ อยากได้ผลงานการกุศล
บทกวีคำกลอนสอนผู้คน แจกทุกตนทรัพย์กวีคือปรีชา
อันกิเลสโลภหลงปลงลำบาก อยากได้มั่งมีวาสนา
สั่งสมเพชรนิลจินดา จวบจนมรณามิปล่อยไป
ส่วนทรัพย์ปัญญาพาฉลาด สามารถทำการงานไหนไหน
หนักเบาเสร็จสรรพเร็วไว หาได้เงินทองมวลมี
โจรปล้นวิชชายากนัก ไม่หนักส่งเสริมเติมศรี
สั่งสมปัญญาแหละดี โบราณท่านชี้เป็นมงคล
16.  คนเลี้ยงแพะกับลูกเสื่อ
กระทาชายนายหนึ่งเลี้ยงแพะ ต้อนแวะริมทางเสมอ
ทุ่งหญ้างอกงามที่เจอ เพื่อนเกลอเลี้ยงแพะสบายดี
วันหนึ่งเข้าไปในป่า หาไม้ทำคอกวิถี
เข้าไปป่าลึกมากมี ตัดไม้มัดชี้เต็มเกวียน
ขากลับจับได้ลูกเสือ แปลกเหลือหลงมาพาเหียร
วิ่งมาหาคนวนเวียน จวนเจียนจักปล่อยทิ้งไป
นำมาเลี้ยงดูที่บ้าน มินานแข็งแรงไฉน
มักสอนเสือทำจัญไร ลักแพะมาให้ฆ่ากิน
ชาวบ้านแพะหายบ่อยบ่อย ไม่น้อยเสียหายทรัพย์สิน
มิเคยมีใครยลยิน มีโจรใจหินย่องเบา
เวรยามชาวบ้านเร่งรัด จัดรั้วแน่นหนาพวกเขา
ปืนผาหน้าไม้หยิบเอา มาเฝ้าแพะแกะปลอดภัย
เสือหิวขโมยลำบาก หิวมากหาช่องทางไหน
ที่แท้แพะบ้านตนไง มีให้จับกินมากมาย
นับนานเจ้าของสังเกต เหตุมีแพะแกะมันหาย
ที่แท้เสืออันตราย แยบคายแอบจับกินเอง
อันคนคิดคดไม่ซื่อ ถือเอาประโยชน์ข่มเหง
เอาเปรียบคนอื่นนักเลง มิเกรงกลัวเวรกลัวกรรม
สุดท้ายอันตรายหวนกลับ ทุกข์ทับตนเองน่าขำ
การดีผลดีจงจำ การชั่วจักช้ำใจแล
17.  คนเลี้ยงวัวกับวัวที่หายไป
แม่วัวตัวหนึ่งหายไป อยู่ไหนคนเลี้ยงตามหา
ลัดเลาะไปตามราวป่า ก็ยังมิเห็นแม้เงา
พอดีมาถึงต้นไทร นึกได้เทพแห่งป่าเขา
คงช่วยเปลื้องทุกข์ให้เรา จำลองบนบานดูที
แวะไปกราบไหว้ต้นไทร ท่านผู้เกรียงไกรทรงศรี
ลูกช้างขอพึ่งบารมีี้ ช่วยชี้แม่วัวหายไป
อยากเห็นเจ้าโจรตัวฉกาจ บังอาจลักวัวสงสัย
แม้นเจอจักจับมัดไว้ เฆี่ยนให้สักห้าสิบที
บัดดลพระไทรบันดาล ให้พานพบวัวที่หนี
พร้อมกับโจรร้ายทันที ราชสีห์กำลังกัดวัว
คนเลี้ยงหวาดกลัวตัวสั่น พรั่นพรึงตอนมันกัดหัว
ท่านเทพได้โปรดข้ากลัว ไม่เอาอีกแล้วเรื่องโจร
ขอเพียงรอดจากป่านี้ บัดพลีระบำรำโขน
แถมวัวตัวใหญ่จักโอน ถวายท่านเทพเจ้าปราณี
อันเทพบันดลบันดาล หากท่านให้จริงนวลฉวี
สูเจ้าคงขอมากมี หาได้สิ้นสุดเพียงพอ
ได้ของที่ชอบแย้มยิ้ม อิ่มอกพึงใจเจียวหนอ
ได้สิ่งน่ากลัวตัวงอ ขอผ่านไม่เอาไม่เอา
18.  ความรักของนางแมว
ความรักเหมือนโคถึก พลังคึกดูห้าวหาญ
กล้าคิดกล้าสาบาน กระทำได้ทุกเรื่องไป
นางแมวสีสวาด มันฉลาดมิสงสัย
แต่แปลกหนอดวงใจ เฝ้าหลงรักนายผู้ชาย
แม้ฉันเป็นผู้หญิง รักเป็นจริงได้ดังหมาย
จักต้องได้แปลงรูปกาย มิง่ายแมวเฝ้าตรึกตรอง
จำต้องพึ่งเทพฤทธิ์ ประสิทธิ์อาคมสมสนอง
เสกให้เป็นหญิงรูปทอง ผุดผ่องรูปพรรณพิไล
แมวหง่าวดั้นด้นเสาะหา เทวาท่านอยู่หนไหน
บุกป่าฝ่าดงพงไพร จนได้พบพานเทวดา
วิงวอนกล่าวอ้างเหตุผล จนเทพเสกให้หรรษา
สาวแมวยินดีอำลา กลับมาที่บ้านสมใจ
เป็นคู่สู่สมชายหนุ่ม รักรุมเร่าร้อนยิ่งไฉน
คลอเคลียมิห่างไกล สาวแมวรักใครยอดชาย
ผ่านไปนานวันเทพา สงกานางแมวมิหาย
นิสัยคงไม่กลับกลาย จำต้องทดลองมันดู
นางแนวกำลังเคลียคลอ พะนอชายหนุ่มเห็นหนู
มันวิ่งผ่านเข้าประตู ลืมตัวกลายร่างทันที
เป็นแมวไล่จับหนูหริ่ง วิ่งไล่รอบห้องอย่าหนี
เมี้ยวเมี้ยวไล่กวดเร็วรี่ หนูหลบหายวับกับตา
วิมานรักพังทลาย ร่างกลายเป็นแมวแล้วหนา
นิสัยดั้งเดิมเป็นมา ลำบากยากจักเปลี่ยนไป
ต้องฝึกอดทนอดกลั้น ผูกพันจงเจตน์แก้ไข
แน่วแน่จึงจักผ่านได้ ขันติมั่นไว้ดีแล ฯ
19.  จำอวดกับชาวเมือง
เศรษฐีกรุงโรมใจดี มีใจจักเฉลิมฉลอง
เทศกาลรื่นเริงตามทำนอง ป่าวร้องมีละเล่นนานา
อีกทั้งระบำจำอวด ประกวดเล่นกันหรรษา
มุขใหม่ดีเด่นบอกมา ถ้าเก่งจักมีรางวัล
ตลกจำอวดมากมาย หญิงชายสมัครแข่งขัน
ถึงคราประกวดประชัน เล่นกันครึกครื้นรื่นรมย์
หลายสิบคณะผ่านไป ยังมิมีใครเหมาะสม
จักได้รางวัลไปชม มีแต่มุขแบบธรรมดา
ครั้นมีชายหนุ่มหนึ่ง บอกตนมุขแนวแปลกหนา
ซ่อนหมูไว้ในอุรา ให้ร้องออกมาตลกดี
เขาเดินไปกลางวง คนงงหมูไม่เห็นมี
หนุ่มล้วงอกแล้วชี้ ซ่อนไว้ตรงนี้คอยดู
แกล้งร้องอู๊ดอู๊ดเหมือนมาก คนต่างหลากจิตเสียงหมู
บางคนขอค้นอยากรู้ ไม่เห็นไม่มีแน่นอน
ปรบมือยกย่องเขาเก่ง เซ็งแซ่ทุกทิศสลอน
ยกมือยกนิ้วบ้างวอน ขอฟังอีกทีเป็นไร
มีเสียงคัดค้านบอกว่า ของข้าแน่กว่าฟังไหม
ว่าแล้วกระโดดขึ้นไป ทำเสียงอู๊ดอู๊ดอีกที
เหมือนกว่าคนแรกแน่นอน แต่ตอนเขาค้นจักหนี
จับได้ล้วงพุงเจอดี เพราะมีลูกหมูของจริง
คนชมโห่ฮาดังลั่น บ้างขันมากมายชายหญิง
ดิ้นหลุดมาได้ออกวิ่ง กลัวเขาไล่ทุบวุ่นวาย
คนเรานี่มันก็แปลก มิแยกมันต่างกันหลาย
ของจริงของปลอมมากมาย สมบัติมันแตกต่างกัน
ชื่นชมของปลอมออกหน้า ถึงคราของจริงขบขัน
มันแปลกแต่จริงคนนั้น เขาว่ามันบ้าจริงฤา
20.  ชาวนากับงูเห่า
ชาวนาใจดีหนึ่งคน วางตนเมตตาสงสาร
ช่วยคนช่วยสัตว์มานาน ชาวบ้านยกย่องว่าดี
วันหนึ่งไปตรวจนาข้าว ยืดยาวหญ้ารกวิถี
สองข้างคันนามากมี แบบนี้ต้องถางมากมาย
ถางหญ้ามินานพานพบ งูเห่าหลบอยู่ใจหาย
มันคงลอกคราบผิวกาย อันตรายผิวบางลมเย็น
จนทำให้มันเป็นเหน็บ เจ็บปวดนอนนิ่งที่เห็น
ชาวนาเห็นงูลำเค็ญ อยากเป็นผู้ช่วยเมตตา
โอเจ้านอนขดคงหนาว ถึงคราวอบอุ่นแล้วหนา
โอบอุ้มแนบอกปรีดา หลับเถิดลูกยาสบายใจ
งูเห่านอนซบอบอุ่น โลหิตหมุนเวียนดีไฉน
คืนสภาพปกติเร็วไว เพราะมีไออุ่นชาวนา
ดีใจเห็นงูขยับ หวังจับจักปล่อยแลหา
ตรงที่วางงูเมตตา ทำท่าจักวางโดยพลัน
งูเห่าตกใจฉกกัด ชาวนาสะบัดหุนหัน
งูเลื้อยหลบหายตรงนั้น ชาวนาตัวสั่นปวดใจ
พิษแผ่กระจายจนทั่ว หน้ามืดตามัวปวดไฉน
ที่สุดสิ้นลมจากไป เพราะได้เมตตาเห่าดง
อันคนจิตใจเป็นพาล สันดานแก้ยากหากหลง
ทำคุณเมตตามั่นคง พึงปลงจิตไว้ก่อนเลย
อาจได้โทษตอบแทนกลับ ฉบับงูเห่าเปิดเผย
แทนคุณชาวนาดังเคย เอ่ยไว้ในนิทานแล
21.  ชาวนากับสัตว์เลี้ยง
ชาวนาคนหนึ่งอยู่บ้าน พายุพัดผ่านเหน็บหนาว
ติดอยู่หลายเดือนยืดยาว เสบียงร่อยหรอลำเค็ญ
จำต้องเชือดแกะเอาเนื้อ น่าเบื่อพายุที่เห็น
ทำไมหยุดยากหยุดเย็น หลายวันเนื้อแกะหมดไป
เสียดายจำต้องฆ่าแพะ ชำแหละเอาเนื้อเถือไข
เป็นเสบียงยามวาตภัย ผ่านไปอีกเดือนหมดลง
เหลือวัวอีกตัวต้องฆ่า พายุมันชวนพิศวง
ยังพัดอีกนานมั่นคง จงใจทำร้ายชาวนา
สุนัขสองตัวเลี้ยงไว้ ได้เห็นเรื่องราวปรึกษา
สัตว์เลี้ยงที่รักถูกฆ่า แล้วหมาจักรอดฉันใด
ขืนอยู่ก็คงตายแน่ เว้นแต่จักหลบดีไหม
พวกเรามาลองเสี่ยงภัย ไปตายดาบหน้าเถอะเรา
สองหมาพากันหลบหลีก ปลีกตัวไปในขุนเขา
เลยรอดภัยหนักเป็นเบา ดีกว่านั่งรอความตาย
ยามรู้อุปสรรคปัญหา ปัญญาแก้ไขไม่สาย
หนักเบาแก้ได้ไม่วาย ผ่อนคลายด้วยสติปัญญา
22.  ชาวนากับสิงโต
ชาวนาเห็นราชสีห์ หลงมาที่บ้านของเขา
สัตว์ใหญ่ดีใจมิเบา ปิดประตูกั้นทุกทิศทาง
มันเดินวนเวียนไปมา หาทางออกล้วนถูกขวาง
ชักหิวเห็นวัวเป็นกวาง ล้มวัวกัดกินสบายใจ
วันหลังก็จับแพแกะ กัดแทะอร่อยไฉน
ชาวนาเพิ่งเห็นเภทภัย รีบปล่อยมันไปโดยดี
นั่งบ่นเสียดายสัตว์เลี้ยง เมียเถียงไม่เชื่อนวลฉวี
ใครบอกให้ขังตัวกาลี อัปรีย์กินหัวแกเอง
การคบคนพาลหรือโจร เหมือนโอนเภทภัยข่มเหง
มิเคยรู้จักกริ่งเกรง นำมาแต่เหตุอันตราย
23.  ชาวไร่กับนกกระเรียน
ชาวไร่ปลูกถั่วปลูกงา เวลางอกงามดีไฉน
ติดดอกติดผลทั่วไร่ หนักใจนกกามากมี
ทำหุ่นไล่กาหลายตัว มันยังมิกลัวมิหนี
ไปหาซื้อแร้วเร็วรี่ มาดักหลายที่คอยรอ
รุ่งขึ้นไปดูกู้แร้ว ตามแนวที่ดักจริงหนอ
มีนกติดแร้วมากพอ ทำเป็นอาหารหลายวัน
มีนกกะเรียนหนึ่งตัว กลัวตายวิงวอนว่าฉัน
มิเคยกินถั่วงานั้น อย่าฆ่าเราเลยท่านนาย
ชาวไร่บอกเราจับได้ ในเขตหวงห้ามมันสาย
มิเคยปล่อยให้รอดตาย ทำลายพืชพันธุ์ของเรา
อันคนเกลือกกลั้วคนพาล สันดานดีชั่วเก่งเขลา
ดูยากแยกยากไม่เบา ถูกเหมาเป็นพาลด้วยกัน
24.  ชาวสวนกับลูก
ชาวสวนมีลูกสามคน ถึงจนแต่ขยันทำงาน
ฐานะพออยู่สำราญ บ้านช่องมีเป็นของตน
นานเข้าชาวสวนคิดหนัก ยามจักล่วงลับสับสน
เป็นห่วงลูกยาทุกคน ผูกกลสั่งสอนแยบคาย
เรียกลูกมาพร้อมหน้ากัน วันนี้พ่อดีใจหลาย
ลูกรักทุกคนเป็นชาย แม้นพ่อตายไปจงฟัง
สมบัติอยู่ใต้ร่องสวน ชวนกันไปดูด้านหลัง
ขุดเอาขึ้นมาระวัง พ่อสั่งจำไว้ให้ดี
มินานชาวสวนสิ้นใจ ทุกคนจำได้วิถี
สมบัติฝังดินคงมี พ่อชี้ร่องสวนทุกคน
ต่างคนต่างขุดร่องสวน ยวนใจสมบัติสับสน
ขุดมาสามรอบกังวล จนใจไม่เห็นเงินทอง
แปลกนักพ่อไม่โกหก ตกใจไม่พบทั้งผอง
หยุดคุ้ยมานึกตรึกตรอง ยังมองไม่เห็นช่องทาง
เรือกสวนพืชพันธุืแตกกิ่ง ทิ้งดอกออกช่องสะสาง
เต็มสวนงดงามทุกอย่าง เก็บขายได้เงินทุกวัน
เงินทองไหลเข้ามิขาด สามารถเก็บออมพร้อมสรรพ์
มินานรู้เลศสำคัญ พ่อสอนให้ขยันทำการ
ความฉลาดความโง่ก็ดี หากมีความขยันอาจหาญ
ตั้งใจประพฤติทำงาน บันดาลสำเร็จผลดี
ขอเพียงซื่อสัตย์สุจริต รู้คิดมิยอมหน่ายหนี
งานหนักงานเบาทุกที มีทำไม่เลือกเจริญแล
25.  เด็กกับลูกเกาลัด
อ้ายหนูผมจุกคนหนึ่ง ตะลึงขวดโหลขนม
แม่ใส่เกาลัดเปิดดม สุกแล้วหอมหวนโอ้โฮ
แกล้วงกอบเต็มกำมือ แล้วยื้อติดปากขวดโหล
ดึงดันอยู่นานอาโก ผ่านมาเห็นเข้าชอบใจ
อ้ายจุกเอ็งอย่าโลภมาก ลำบากปล่อยมือดีไหม
หยิบทีสามลูกพอได้ หยิบหลายหลายครั้งง่ายดี
ได้คิดทำตามอาโก พิโธ่หยิบง่ายดีหลี
อันคนความคิดโลภมี มักเป็นอุปสรรคการงาน
จักทำการใหญ่ลำบาก โลภหากขวางกิจประสาน
ค่อยคิดค่อยทำควรการ มินานเสร็จสมอารมณ์แล
26.  เด็กจับตั๊กแตน
เด็กน้อยตัวจ้อยผมจุก ซุกซนคะนองเสมอ
ใจร้ายกับสัตว์ที่เจอ มิเผลอรังแกร่ำไป
เจ้าตูบโดนเตะประจำ ทำร้ายสุขนักสงสัย
เดินผ่านงัวควายชอบใจ หักไม้เฆี่ยนตีรื่นรมย์
วันหนึ่งเจ้าจุกลุกเดิน เพลิดเพลินกลางสนามสุขสม
โลดไล่ตั๊กแตนเล่นลม ชื่นชมจับได้มากมาย
ใส่ถุงขังไว้หลายตัว ใจมัวมืดมนเหลือหลาย
พอใจข่มเหงสัตย์กลาย เป็นคนใจร้ายใจดำ
สักครูแมลงป่องน้อย ตัวจ้อยจุกเห็นก็ขำ
กระโดดตะครุบเต็มกำ จำเรียงแมงป่องท้าทาย
เหวยเหวยเจ้าเด็กเกเร อุเหม่มึงอยากฉิบหาย
มาต้องตัวข้าตาลาย จักหาที่ตายหรือไร
ตัวข้าผิดแผกตั๊กแตน แม้นต้องตัวข้าสงสัย
เอ็งอาจร่ำร้องร่ำไร ร้องไห้ปางตายเชียวนา
ตั๊กแตนมากมายที่จับ หายวับระวังกังขา
หลบไปข้ายังเมตตา หาไม่ข้าสู้ไม่กลัว
อันคนผู้มีอำนาจ อาจข่มคนด้อยชวนหัว
พวกมันหวั่นหวาดมืดมัว เพียงชั่วขลาดเขลาเบาปัญญา
หากพบคนจริงคนเก่ง ข่มเหงมิได้ดอกหนา
ขืนพาลสุ่มสี่สุ่มห้า จักพาอับจนจริงแล
27.  เด็กเลี้ยงแกะ
มีเด็กเลี้ยงแกะหนึ่งคน ชอบกลเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
ชอบลวงคนอื่นวุ่นว่าย พอใจหลอกได้ยินดี
คราวหนึ่งต้อนแกะไปเลี้ยง มองเมียงไปตามวิถี
ทำเลใกล้ป่าพอดี อีกด้านก็เป็นทุ่งนา
ปล่อยแกะแล้วออกเดินเล่น ลมเย็นกลางทุ่งแลหา
ผู้คนกำลังเมื่อยล้า ถ้าได้ตื่นเต้นคงดี
จักได้ลืมความเหน็ดเหนื่อย คิดเรื่อยจนเห็นวิถี
จึงร้องช่วยด้วยน้องพี่ หมาป่าไล่แกะฉันไป
ชาวนานับสิบยินเสียง สำเนียงเด็กร้องสงสัย
หมาป่ากัดแกะเภทภัย จำต้องไปช่วยด้วยกัน
หยุดงานวิ่งมาจักช่วย ฉวยได้มีดไม้พร้อมสรรพ
มาถึงถามหาหมามัน อยู่ไหนพวกฉันจัดการ
เด็กน้อยปรบมือหัวร่อ คุณพ่อคุณพี่ขอขาน
ฉันเห็นเหน็ดเหนื่อยทำงาน เลยหาเรื่องสนุกให้ทำ
เห็นวิ่งหน้าตั้งคงสนุก หมดทุกข์หายเหนื่อยน่าขำ
หมาป่าหนีแล้วแหละกรรม มันคงหวาดกลัวรีบไป
หลายคนก่นด่าเด็กผี พาทีโกหกสงสัย
พ่อแม่มิสอนหรือไร หลอกให้เสียการเสียงาน
หลายวันเลี้ยงแกะเช่นเคย ละเลยมัวเล่นสนุกสนาน
หมาป่ามันมาพบพาน ฝูงแกะไล่กัดล้มตาย
เด็กน้อยวิ่งไปทุ่งนา ลุงป้าช่วยด้วยฉิบหาย
หมาป่ากัดแกะวุ่นวาย ช่วยด้วยย่ำแย่จริงเจียว
ชาวนาหัวร่ออ้ายหนู อย่ามาหลอกกูให้เสียว
มิเชื่อน้ำคำมึงเชียว พวกเราเกี่ยวข้าวต่อไป
หมดท่าเสียแกะมากมาย วอดวายเสียสัตย์ขานไข
โป้ปดมดเท็จจัญไร ใครเขาจักเชื่อน้ำคำ
อันคนที่เสียสัจจะ ตระบัดบ่อยจนถลำ
ถึงคราวพูดจริงจักช้ำ มิมีคนเชื่อวาจา
28.  ต้นไทรกับต้นอ้อ
คราวหนึ่งพายุไต้ฝุ่น พัดหมุนผ่านมาป่าใหญ่
รุนแรงขนาดต้นไทร หักโค่นในน้ำพัดวน
มินานมาติดพงแขม แซมกอริมฝั่งฉงน
ลมแรงพัดมาใยทน หลุดพ้นอยู่ได้ทั้งมวล
จึงเอ่ยปากถามคุณแขม แย้มหน่อยยามลมพัดหวน
เมื่อคืนข้าโดนมันป่วน ดินร่วนถอนรากถอนโคน
ล้มลงลอยน้ำลำธาร ยากจัดทัดทานหิ้วโหน
ลดเลี้ยวเร่รอนกระโจน ฟองน้ำฟาดโยนไปมา
กระทั่งพบพานพวกท่าน ขอวานช่อยตอบปัญหา
เหตุใดพวกท่านนานา มีพายุยังปลอดภัย
พงแขมแย้มคำบอกเล่า ลมเบาลมแรงมิสงสัย
พวกเรารู้แจ้งแก่ใจ ทำให้ต้นอ่อนลู่ลม
ลมพัดผ่านได้โดยง่าย สบายอยู่ดีสุขสม
หาไม่ก็คงล่มจม นิยมเช่นนี้มานาน
อันคนที่แข็งกระด้าง มักร้างไมตรีที่ขาน
แตกหักเสียกิจเสียการ ทุกข์ทนลนลานมาเยือน
สวนผู้นอบน้อมถ่อมตน ผู้คนรักใคร่หาใดเหมือน
ช่วยกิจมิเคยละเลือน มีเพื่อนพวกพ้องสบายใจ
29.  ต้นสนกับต้นฉำฉา
ในป่านานาพันธุ์ แมกไม้มันมากมวลมี
ทุกพรรณงอกงามดี ทรงคุณค่าต่างกันไป
ต้นเล็กคลุมดินเด่น ร่มเงาเย็นมิสงสัย
ต้นสูงบังแดดไว้ ธรรมชาติเอื้ออวยกัน
คุณค่าแมกไม้มี ความเด่นดีเทพเสกสรร
ลางเป็นหยูกยากัน แก้โรคได้สรรพคุณ
ทำสีสารพัด บ้างกำจัดกลิ่นเฉียวฉุน
ไล่มดแมลงคุณ หลายชนิดทำได้ดี
บางพวกงามตรงแก่น ค่าหมื่นแสนตามวิถี
คราวหนึ่งในพงพี ไม้สนป่าอ้างอวดตน
คุยข่มไม้ฉำฉา เองด้อยค่าในไพรสณฑ์
กิ่งก้านเปราะเสียจน ต้องลมพัดหักง่ายดาย
ทรงพุ่มก็เกะกะ กิ่งก้านระมักเสียหาย
เนื้อในมิมีลาย แกด้อยค่าเสียจริงเจียว
ดูฉันซิแข็งแรง ลำต้นแกร่งเนื้อในเหนียว
รูปทรงพุ่มดูเพรียว ยามต้องลมเอนลู่งาม
เสียงสนเพราะพริ้งนัก เธอรู้จักในโลกสาม
เสียงสนเพราะทุกยาม โอ้สนเราค่าควรการ
ฉำฉาชื่นชมคำสน ฉันจนปัญญาไขขาน
เป็นจริงดังว่ามานาน แต่วานฟังคำฉันที
ถึงฉันด้อยค่าพอใจ เภทภัยมักห่างวิถี
เติบโตสุขเกษมเปรมปรีดิ์ สุขดีตามสภาพพึงใจ
ยามที่ชาวบ้านเข้าป่า หาดูเสาเรือนต้นไหน
คานตงขื่อเคร่าต้นอะไร เหมาะที่จักใช้การงาน
ทุกคนคงเล็งต้นสน ตัดจนหมดป่าข้าขาน
ข้าคงมิอิจฉาพวกท่าน เชิญให้เบิกบานต่อไป
อันคนที่ค่าสูงส่ง ฐานะมั่นคงเป็นไฉน
มักมีศัตรูเภทภัย แผ้วพานมิเว้นคืนวัน
ส่วนพวกต่ำต้อยด้อยศักดิ์ มักอยู่สุขสบายพร้อมสรรพ
ศัตรูมิค่อยเห็นสำคัญ ต่างกันต่างค่าคุณคน
30.  เต่ากับเป็ดป่า
คุณเต่าตัวหนึ่งช่างคิด มีจิตทะเยอทะยาน
มันคิดคำนึงห้าวหาญ บินผ่านบนฟ้าวิถี
คงเป็นหนึ่งเดียวในโลก สบโชคสง่าราศี
ใครใครคงชมว่าดี มีเต่าเก่งกล้าชำนาญ
แต่ปีกเราไม่มีหรอก ต้องบอกนกกาไขขาน
คบหาเป็นเพื่อนวอนวาน เขาช่วยคงเสร็จสมใจ
มันคอยผูกมิตรเป็ดป่า เวลานับนานไฉน
มีเพื่อนคุณเป็ดจนได้ แล้วมันก็กล่าววิงวอน
นี่แน่ะคุณเป็ดเพื่อนรัก เพื่อนมักบินบนช่วยสอน
ยามอยูบนฟ้าคงร้อน เพราะใกล้ตะวันกว่าเรา
เป็ดว่ามิร้อนดอกแก ยามแลลงมาขุนเขา
ทุ่งนาป้าไม้งามเงา งามเงื่อนสวรรค์จำลอง
เต่าว่าฉันอยากจะเห็น ยากเย็นวอนเพื่อนสนอง
พาขึ้นบินบนอยากมอง มันสวยแค่ไหนเพื่อนยา
มันหาไม้มาหนึ่งท่อน เป็ดวอนคาบให้ดีหนา
สองตัวช่วยกันนำพา หามเต่าบินบนสมใจ
หนักนักบินสูงลำบาก สัตว์ป่าหากเห็นสงสัย
เฮ้ยเต่าเหาะเหิรยังไง แปลกใจมาดูพวกเรา
คุณเต่าภูมิใจนักหนา สัตว์ป่าพวกนี้มันเขลา
อ้าปากด่าพวกงี่เง่า ฉันเต่าผู้มีปรีชา
ปากหลุดท่อนไม้ร่วงหล่น กระทบบนแผ่นหินผา
กระดองกระจายมรณา อนิจจาความโง่ไม่ปราณี
ถึงได้ลาภรวยยศศักดิ์ ก็มักจำต้องห่างหนี
มิอาจครอบครองนานปี อนิจจังวตสังขารแล
31.  ท้องกับตัว
อดีตกาลนานมา เขาว่าอวัยวะคนเรา
สามารถพูดคุยกันเบาเบา มีเรื่องบอกเล่ากันมา
คราวหนึ่งเขามีเรื่องกัน ยืนยันใครทำงานหนา
งานหนักงานเบาเจรจา ผมว่าฉันร้อนกว่าใคร
บังแดดแผดเผากลางแจ้ง หัวแย้งคิดยากไฉน
หูฟังสื่อเสียงใดใด ตาใคร่อยากรู้ดูเอา
ปากพูดบอกกล่าวคนอื่น ฟันฝืนขบเคี้ยวงานเขา
ขาแบกพาเดินไม่เบา มือเจ้าหยิบจับทุกอัน
ท้องว่าข้าก็มิรู้ นอนอยู่นึกไปก็ขัน
พวกสูต้องช่วยทั้งวัน งานฉันจึงจักดำเนิน
สรุปทุกคนงานหนัก ได้พักคือท้องน่าเขิน
เอาเปรียบคนอื่นเหลือเกิน แต่นี้ไปเชิญตามสบาย
ทุกส่วนประท้วงหยุดงาน ประสานยากนักใจหาย
หัวไม่ยอมคิดวุ่นวาย ขาไม่ยอมกรายไม่เดิน
แขนไม่ยอมจับอาหาร ฟันพาลไม่เคี้ยวขัดเขิน
ท้องขาดอาหารหิวเกิน ดำเนินสามวันตาลาย
ทุกส่วนหิวโหยหมดแรง จำต้องแจ้งความเสียหาย
ประชุมของจงกลับกลาย สื่อสายสัมพันธ์ดังเดิม
อันกลุ่มประชุมร่างกาย ล้วนมีความหมายส่งเสริม
สนับสนุนต่อกันพูนเพิ่ม ต่อเติมให้มีพลังงาน
หากมีอึดอัดขัดแย้ง ดังแกล้งตัดทอนประสาน
ย่อหย่อนพลังทำงาน การง่ายกลับยากนั่นแล
32.  เทพารักษ์กับคนขับเกวียน
ชายหนุ่มขับเกวียนกลับบ้าน ผ่านป่าขุนเขาดงหนา
ข้ามห้วยหลายแห่งผ่านมา หนทางทุรกันดาร
มินานก็เจอหล่มลึก โคถึกออกแรงสงสาร
เกวียนมิเขยื้อนเนิ่นนาน จวบจวนค่ำมืดน่ากลัว
เสือสางออกมาหากิน ดับดิ้นแน่ตูยามสลัว
ภูตผีที่มองมิเห็นตัว คงออกหากินมากมาย
หวาดหวั่นไหว้วอนเทพา ช่วยข้าด้วยเถิดใจหาย
หากมืดกลางดงคงตาย น่ากลัวเหลือหลายเจ้าประคุณ
ชายหนุ่มวิงวอนเทพเจ้า โปรดเข้ามาช่วยเอาบุญ
ขอบนข้าวของเจือจุน ข้าวปลาอาหารมากมี
เทพารักษ์ปรากฏกาย วุ่นวายบนบานบายศรี
อ้อนวอนเสียเวลานาที ทำไมไม่โกยโคลนเธอ
เอาท่อนไม้มารองเข้า ตัวเจ้าแบกคานให้เสมอ
ตีวัวให้ลากอย่าเซ่อ ออกแรงดันด้วยช่วยกัน
ชายหนุ่มทำตามที่แนะ แหละแล้วเกวียนเคลื่อนพร้อมสรรค์
ดีใจจักกราบเทพพลัน หายวับไปแล้วเสียดาย
ยามมีอุปสรรค์ปัญหา พึงใช้ปัญญาหลากหลาย
ช่วยตนนั่นดีมากมาย ดีกว่ากราบไหว้วิงวอน
33.  เทวดากับคนขับเกวียน
อดีตกาลนานมา ชายหนุ่มบ้านป่าขับเกวียน
เข้าป่าหาฟืนพากเพียร วนเวียนบ่ายคล้อยกลับมา
บังเอิญเกวียนติดหล่มลึก นึกดูใจหวาดผวา
ค่ำมืดในพงพนา สัตว์ป่าดุร้ายน่ากลัว
ยิ่งคิดก็ยิ่งวิตก จึงยกมือไหว่ท่วมหัว
บนบานข้านี้มืดมัว ดีชั่วจักกลับอย่างไร
ขอวอนเทพพรหมจงช่วย บอกด้วยจักทำไฉน
เกวียนข้าจักหลุดออกไป พ้นภัยกร่อนค่ำขอวอน
พระไทรเจ้าที่รำคาญ บนบานอยู่ได้จึงสอน
เจ้าหนุ่มบ่าแบกแพรกงอน แส้ต้อนวัวเดินเข้าซี
ลองทำตามเทพท่านบอก หลุดออกง่ายดายวิถี
ก่อนค่ำออกจากพงพี ดีใจกลับบ้านได้ทัน
อุปสรรคนานาแม้นพบ จักจบด้วยแรงแข็งขัน
ลงมือแก้ไขโดยพลัน อย่าฝันการวอนเทพไท
จงอย่างอมืองอเท้า ใครเขาจักช่วยจริงไหม
ช่วยตัวตนเองดีกระไร เภทภัยผ่านพ้นด้วยดี
34.  เทพารักษ์กับคนตัดไม้
ชายหนุ่มบ้านป่าชาวไร่ ตัดไม้ทำฟืนค้าขาย
ขยันซื่อสัตย์สมชาย ลำบากกายใจซื่อตรง
งานหนักเงินน้อยอดออม ยอมทำการหนักพิศวง
ขับเกวียนเข้าไปในดง คงหาตัดฟืนคืองาน
วันหนึ่งอาวุธหลุดมือ ก็คือเครื่องตัดนามขวาน
หล่นลงตรงกลางลำธาร เนิ่นนานนั่งเฝ้าเศร้าใจ
อยากลงว่ายน้ำมิเป็น ลำเค็ญนักทำไฉน
ลองวอนเทพท่านท้าวไทร โปรดได้เมตตาปราณี
พระไทรสงสารปรากฏ กำหนดงมขวานสดสี
ขวานทองใช่ไหมเล่มนี้ หนุ่มชี้ไม่ใช่ของตน
งมใหม่ขวานเงินจงดู ของสูใช่แน่ฉงน
หนุ่มบอกไม่ใช่ลองค้น ลนลานกราบไหว้เมตตา
พระไทรงมขวานของแท้ หนุ่มบอกใช่แน่นี่หนา
คือขวานเล่มจริงของข้า เทวาได้ช่วยเอ็นดู
พระไทรรู้มันสัตย์ซื่อ บอกให้จงถือเอาหนู
สองเล่มยกให้จงรู้ ชื่นชูเจ้าซื่อสัตย์จริง
กลับบ้านเขาลือกันทั่ว ชายชั่วสนใจสุงสิง
แอบถามทำไมช่วงชิง ยิ่งขวานเงินทองได้มา
ชายหนุ่มเล่าเรื่องหมดสิ้น ชายชั่วยินดีนักหนา
วางแผนตัดฟืนในป่า ถึงคราโยนขวานทิ้งไป
ทำท่าละห้อยสร้อยเศร้า วอนเขาท่านเทพอยู่ไหน
รีบมาช่วยข้าเร็วไว พระไทรปรากฏกายมี
งมเอาขวานทองส่งให้ คงใช่ของเจ้าดูถี
ชายชั่วรับคำเล่มนี้ ชี้ชัดคือขวานข้าเอง
พระไทรหัวเราะชอบใจ เจ้าไม่สัตย์ซื่อข่มเหง
จิตใจชอบกลนักเลง มิเกรงมิกลัวเราเลย
ขวานทองเราก็มิให้ เจ้าได้ทิ้งขวานเฉยเฉย
มิช่วยงมให้ดังเคย สังเวยโลกมากลากไป
เสียการเสียขวานเสียชื่อ เขาลือมากคงสงสัย
หวังลาภลาภก็หายไกล ยากจักไขว่คว้าคืนมา
35.  นกกระจาบกับชาวนา
นางนกกระจาบฟักไข่่  มันใช้กอข้าวอาศัย 
รวงข้าวจะสุกทั่วไป  ดีใจลูกน้อยเกิดมา 
ชาวนาเดินตรวจรวงข้าว  เรื่องราวคุยกัันนั่นหนา 
ลูกนกกระจาบยินว่า  ข้าวสุกควรเก็บเกี่ยวกัน 
ตอนเย็นแม่นกกลับรัง  ฟังข่าวลูกนกแข่งขัน 
ชิงเล่าเรื่องราวทุกวัน  คราวนี้หนักหนาแน่นอน 
จึงบอกลูกน้อยจงฟัง  แม่สั่งจำไว้ที่สอน 
ข่าวคราวชาวนาทุกตอน  เขาเล่าถึงเรื่องอันใด 
ถัดมาแม่นกก็รู้  หนูน้อยบอกมิสงสัย 
เขาจักเกี่ยวข้าวแน่ใจ  กำลังไหว้วานเพื่อนกัน 
ชวนมาลงแขกเกี่ยวข้าว  เรื่องราวแบบนี้ไม่ขัน 
อพยพเถอะแม่คงทัน  วันนี้พวกเราจากไป 
แม่นกบอกว่ารอก่อน  ตอนนี้มิน่าสงสัย 
คงมิมีเหตุเภทภัย  ใจเย็นไว้ก่อนลูกยา 
ผ่านไปอีกสองสามวัน  พลันทราบเรื่องราวอีกหนา 
พวกเขาไม่รอใครมา  จักเก็บเกี่ยวข้าวกันเอง 
แม่นกตกลงอพยพ  เพราะพบอาจถูกข่มเหง
ชาวนาคงมิยำเกรง รังแตกกระจายแน่นอน
อันคนที่เป็นผู้ใหญ่ รู้เหตุทุกข์ภัยสังหรณ์
อาศัยเหตุผลทุกตอน ตัดสินให้ควรแก่การ
36.นกมีหูหนูมีปีก
    อดีตกาลนานมา ป่าใหญ่ส่ำสัตว์หลากหลาย
คราวหนึ่งเกิดเรื่องวุ่นวาย แย่งเขตทำมาหากิน
สัตว์ป่ารังเกียจพวกนก ฉกชิงผลไม้โผผิน
อวดดีมีปีกโบยบิน ประกาศสงครามรบกัน
พวกนกเกณฑ์พลนกสู้ พันตูทั่วป่าพร้อมสรรพ์
ค้างคาวหารือโรมรัน น่าเบื่อพี่น้องล้มตาย
คอยดูข้างไหนได้เปรียบ ลองเทียบน่าชนะไม่สาย
จึงช่วยพวกนั้นจักง่าย ตกลงแบบนี้พวกเรา
สงครามสัตว์ป่าดำเนิน บังเอิญพวกนกบนเขา
นับแสนรุมล่าไล่เอา สัตว์ป่าถอยร่นหลบไป
ค้างคาวบินหาทัพนก ยืดอกอวดปีกขานไข
พากเราคือนกเกรียงไกร เต็มใจช่วยรบราวี
มินานสัตว์ป่ารวมพล ปรับกลการรบมิหนี
เสือสิงห์ช้างป่าต่างมี เสียงกัมปนาทก้องดง
นกกาตกใจบินหลบ ลิงพบค่างตีพิศวง
มากมียากจักร่อนลง ค่ำคืนถูกล่าล้มตาย
สงครามผกผันนกถอย ค้างคาวคอยดูใจหาย
ชวนกันไปพบท่านนาย ราชสีห์แม่ทัพเชิญดู
พวกข้ามากันพร้อมสรรพ เสริมทัพสัตว์ป่ามีหู
ยินดีร่วมขจัดศัตรู ให้รู้ฤทธิ์เดชอย่างเรา
สงครามผ่านไปนานวัน พวกมันสองฝ่ายโง่เขลา
เพิ่งรู้สงครามมัวเมา ยากเอาชนะคะคาน
ตกลงเจรจาสงบศึก นึกถึงค้างคาวไขขาน
พวกนี้ฝ่ายนกหรือหนูท่าน ก่อนกาลรบช่วยนกกา
แล้วไยมารบช่วยหนู มันอยู่ฝ่ายใดแน่หนา
อวดปีกยามไปพบข้า บอกว่าเป็นนกแน่นอน
ราชสีห์พวกมันไปพบ ประจบอวดหูสลอน
เป็นสัตว์สี่เท้านามกร ค้างคาวออกรบกับเรา
ตกลงพวกนกมีหู พวกหนูมีปีกโฉดเขลา
สองหัวสองใจงี่เง่า มิน่าจักคบพวกมัน
ขับไล่ไปอยู่ในถ้ำ คืนค่ำหากินพร้อมสรรพ์
กลางวันเวลานอนนั้น ห้อยหัวคือโทษสมควร
อันคนไม่มีสัจจะ ละมิตรทิ้งญาติยากหวน
มักจักโดดเดียวเรรวน ลำบากเพราะขาดคุณธรรม
37.  นกอินทรีกับหมาจิ้งจอก
ราชาแห่งนกอินทรี มีคู่ทำรังอยู่สูง
บนยอดต้นไม้ยางยูง ห่างฝูงนกกาปลอดภัย
มินานก็มีลูกน้อย ค่อยค่อยเติบโตเจริญวัย
อีกวันสองวันกินได้ ออกไปหาเยื่อคงมี
จิ้งจอกตัวหนึ่งตั้งท้อง มันจ้องหาตามวิถี
โพรงไม้ตรงไหนบ้างมี เร็วรี่เร่ร่อนจรมา
เห็นโพรงใต้ต้นไม้ใหญ่ พอใจยึดเป็นเคหา
มินานก็คลอดลูกยา หมาน้อยหกตัวพอดี
ฝ่ายนกยินเสียงหมาน้อย รอคอยปลอดแม่มันหนี
ออกไปหากินเข้าที อินทรีย์โฉบไปหนึ่งตัว
ซ่อนไว้หวังจักฝากลูก พันผูกรักใคร่ชวนหัว
ทีลูกคนอื่นไม่กลัว ทำมั่วจะจับกินกัน
จิ้งจอกกลับมาลูกหาย แทบอกแตกตายลูกฉัน
อยู่ไหนเคยเห็นทุกวัน แม่นั้นเจียนขาดใจตาย
มินานก็ได้ยินเสียง จำเรียงจากไหนใจหาย
แหงนดูเสียงจากด้านปลาย คล้ายคล้ายจากรัังอินทรี
เข้าใจจึงวอนคุณท่าน สงสารข้าน้อยด้อยศรี
คืนลูกให้เถิดปราณี ประทานชีวีให้ผู้เยาว์
ฝ่ายนกอยู่บนยอดไม้ กระหยิ่มในใจไม่เขลา
ตอบว่าข้าเองโฉบเอา เก็บเขาทำเหยื่อลูกยา
คืนให้ลูกข้าก็อด ไม่หมดลูกแกนั่นหนา
ยังเหลือนับดูตั้งห้า เอ็งอย่าเสียดมเสียดาย
จิ้งจอกเจ็บใจเขาหมิ่น สิ้นคิดเยาะเย้ยเสียหาย
หาที่ซ่อนลูกทุกราย สบายใจแล้วจัดการ
คาบฟืนสะสุมโพรงไม้ คาบไฟมาจุดประสาน
ควันโขมงพุ่งขึ้นมินาน รมรังนกมารอินทรี
อินทรีร่อนร้องหยุดก่อน ลูกอ่อนข้ามิอาจหนี
หาไม่คงสิ้นชีวี ยินดีคืนลูกเจ้าไป
ขอโปรดดับฟืนดับควัน ข้านั้นผิดขออภัย
อันคนผู้ที่เป็นใหญ่ พึงใช้เมตตาปราณี
เห็นคนเขาด้อยต่ำกว่า เมตตายอมรับศักดิ์ศรี
เขาก็หวงแหนชีวี มิควรกดขี่ร่ำไป
หากแม้นเขามิทนอด ถูกกดมากนักมิไหว
เขาลุกขึ้นสู้เมื่อใด จักเกิดเภทภัยไม่ดี
38.  นายพรานกับไก่ฟ้า
ยังมีนายพรานคนหนึ่ง ใจถึงท่องไพรดงหนา
เที่ยวดักจับสัตว์นานา ได้มาทำเป็นของกิน
แกชอบดักจับนกไก่ วางไว้บ่วงบาศช่องหิน
ริมผานกไก่โบยบิน ผ่านมาดักดิ้นจับเอา
คราหนึ่งพรานป่าวางข่าย โปรยปรายเหยื่อล่อบนเขา
ไก่ฟ้าบินผ่านเห็นเงา ดังเหยื่อที่เจ้าชอบใจ
ถลาบินร่อลงลงพื้น ยืนมองด้วยความสงสัย
อาหารมากมายเหตุใด กองอยู่กลางไพรแปลกตา
เพราะความหิวโหยเป็นเหตุ สังเกตมิเห็นปัญหา
มันรี่เข้าไปไม่ช้า เสียท่าติดข่ายนายพราน
ยิ่งดิ้นยิ่งพัดรัดแน่น น่าแค้นเจ็บใจไขขาน
เออกูนี่เสียสันดาล ใจพาลมักเห็นแก่กิน
จึงต้องประสบเภทภัย ทันใดนายพรานใจหิน
เข้ามาจับไก่บนดิน ได้ยินไก่ฟ้าวิงวอน
นี่แน่ะพรานผู้เป็นใหญ่ เกรียงไกรรู้ทั่วสิงขร
เมตตาปล่อยข้าบทจร จักต้อนเพื่อนเพื่อนลงมา
หลอกติดบ่วงบาศของทาน สำราญสุดง่ายจริงหนา
ขอเพียงวอนท่านปล่อยข้า เมตตาไม่ลืมพระคุณ
นายพรานฟังแล้วก็ขำ จงจำเอาไว้ใคร่หนุน
ตัวเจ้าไม่รู้บาปบุญ เจือจุนผองเพื่อนไม่เป็น
ดีแต่จักหลอกลวงเขา หวังเอาประโยชน์ที่เห็น
ปล่อยไปเป็นโทษลำเค็ญ ดังเช่นโรคร้ายกระจาย
จำต้องปลงชีพบัดนี้ มิมีทางรอดแลหาย
ที่สุดไก่ฟ้าตกตาย เพราะใจมุ่งร้ายพวกมัน
อันคนใจคดคิดผิด มีจิตสกปรกผกผัน
หมายผิดต่อพวกเดียวกัน สักวันฉิบหายแน่นอน
39.  นายพรานผู้ขมังธนูกับราชสีห์
ในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล ส่ำสัตว์เบิกบานเป็นวิสัย
อุดมอาหารพงไพร สัตว์ใหญ่สัตว์เล็กยินดี
อยู่มาไม่นานเกิดอาเภท มีเหตุอันตรายในวิถี
เก้งกวางล้มตายวายชีวี ด้วยมีพรานไพรใจทมิฬ
เทียวออกล่าสัตว์เข่นฆ่า ไร้ความเมตตาใจหิน
มันบอกทำมาหากิน ยามยินแล้วน่าเจ็บใจ
วันหนึ่งนายพรานออกล่า สัตว์ป่าหลบซ่อนอยู่ไหน
ป่าแตกต่างหลบหลีกภัย วิ่งเข้ากลางไพรหลบกัน
จ้าวป่าหลบนิ่งรอดู พอรู้เตรียมตัวพร้อมสรรพ์
จะโดดงับคอพรานพลัน พรานลั่นบอกช้าก่อนนาย
เดียวส่งทูตไปขอพบ พูดจบสู้กันไม่สาย
ว่าแล้วพรานวาดลวดลาย ยิงธนูถูกข้างสิงโต
มันร้องเจ็บปวดวิ่งหนี เสียทีพรานไพรโมโห
จิ้งจอกตัวจ้อยพาโล ร้องโถจ้าวป่าผู้เกรียงไกร
ข้าเห็นท่านสู้พรานป่า ท่านฆ่ามันแล้วฤๅไฉน
ศัตรูพวกเราท่านไล่ ขับไสมันแล้วเก่งเกิน
ราชสีห์กัดฟันเจ็บปวด มันอวดมันเก่งมันเขิน
ประมาทศัตรูบังเอิญ ไม่รู้หนักเบาแทบวาย
แถมยังถูกหมาเยาะเย้ย ตามเคยนะอ้ายฉิบหาย
ธนูมันปวดแทบตาย เจ็บกายเจ็บใจไปนาน
40.  ปลาทูนากับปลาโลมา
ปลาทูนากับโลมา ต่างว่าตัวเก่งเหลือหลาย
พละกำลังมากมาย แหวกว่ายรวดเร็วทันใจ
ทูน่าว่าฉันเก่งกว่า เพราะว่ารูปทรงตรงไหน
เพรียมกลมสมส่วนกระไร มิอ้วนเทอะทะเหมือนเธอ
โลมาว่าฉันแข็งแรง แข่งกันเล่นน้ำเสมอ
กล้ามเป็นมัดมัดที่เจอ มิใคร่อวบอ้วนไร้แรง
สองต่างถกเถียงใครเก่ง เร่งรัดประลองกล้าแข็ง
ว่ายน้ำสู้กันแจกแจง กติกาเรียบร้อยลองดู
สองเก่งว่าเร็วยิ่งนัก ยากจักแซงได้อดสู
โลมาโดนกระแทกปลาทู เล่นโกงโลมากระเด็น
ทางโค้งตกที่หาดทราย มากมายเร่าร้อนที่เห็น
ปลาทูเสียหลักลำเค็ญ กระดอนมาตกใกล้กัน
สองต่างทุรนทุราย เจียนตายพูดคุยน่าขัน
พวกเราประกวดประชัน ทิฐิอวดเก่งอวดดี
สุดท้ายประสบเภทภัย ไม่แตกต่างกันบัดสี
คงจักสูญสิ้นชีวี ไม่มีคนเก่งซักคน
41.  ปลาโลมากับลิงขี้คุย
สมัยก่อนกลาสีเรือ เมื่อออกทะเลไปไกล
มีลิงและหมาเอาไว้ เป็นเพื่อนยามเหงากลางชล
คราหนึ่งล่องเรือไปไกล นับได้หลายวันชวนฉงน
เหตุใดลมมันพัดวน ท้องฟ้ามืดมัวหวั่นใจ
เรืออ้อมปลายแหลมกรีก ยากหลีกลมแรงยิ่งไฉน
มินานประสบวาตภัย พายุซัดใส่เรือจม
ต่างคนต่างเอาตัวรอด กอดฟูกลอยคอบุญถม
หลายคนจมน้ำสิ้นลม ลิงรอดแหวกว่ายวนเวียน
โลมาผ่านมาแลเห็น โลดเล่นแหวกว่ายฉวัดเฉวียน
ให้ลิงขี่หลังพากเพียร จักพาเข้าฝั่งปลอดภัย
เพราะนึกว่าช่วยเด็กน้อย ลอยคอมุ่งตรงนึกสงสัย
เป็นคนเอเธนส์แน่ใจ คงรู้ชื่อพิรุสดี
จึงถามว่าพ่อหนุ่มน้อย ตอบถ้อยเรามาดูถี
ใช่คนเอเธนส์ไหมนี่ สงสัยเลยถามพ่อนาย
ลิงน้อยได้ทีขี้โอ่ พิโธ่ของจริงโฉมฉาย
พ่อแม่พี่น้องมากมาย ล้วนอยู่เอเธนส์ทุกคน
ตระกูลฉันขุนนางเก่า พวกเราได้รับฝึกฝน
ผู้ดีทั้งนั้นทุกตน โลมาท่านถามทำไม
อ้อเป็นผู้ดีเอเธนส์ รู้เห็นพิรุสดีไหม
อยากรู้มันคืออะไร ลิงจ้อคุยใหญ่ทันที
แน่นอนนั่นคือเพื่อนข้า เคยพากันเทียวแอบหนี
ยิงนกตกปลานานปี เพื่อนซี้ฉันเองแหละเธอ
โลมาอ้ายนี่มันบ้า ท่าเรือชื่อนี้เสมอ
พบคนเอเธนส์เมื่อเจอ ถามถึงเขารู้ทุกคน
หมอนี่มันขี้โกหก ตกลงดำน้ำล่องหน
ลิงจมแหวกว่ายน้ำวน สุดท้ายชีพดับลับไป
อันการคุยโวโอ้อวด มักชวดโชคอย่าสงสัย
บางคราวถึงกับมีภัย ใครเขามิเอื้ออาทร
42.   พรานใหม่กับคนตัดไม้
พรานหนุ่มทดลองเข้าป่า ปืนผาหน้าไม้พร้อมสรรพ
จักลองวิชาสำคัญ ร่ำเรียนจากครูพรานไพร
บุกป่าฝ่าดงพงหนาม เลาะตามหุบผาเนินไศล
เนิ่นนานพบคนตัดไม้ จึงได้แวะถามพี่ชาย
ตัดไม้แถวนี้นานเปล่า ช่วยเล่าสัตว์ป่ามากหลาย
เสือสิงห์มีบ้างไหมนาย อยากยิงสัตว์ใหญ่คงดี
อ๋อหากินแถวนี้มานาน ลานตาเก้งกวางหมูหมี
สัตว์ใหญ่ตัวหนึ่งแถวนี้ ราชสีห์เพิ่งจับคนไป
รอยเท้ายังอุ่นอยู่นั่น พรานมั่นจงอย่าสงสัย
รีบตามเลยท่านเร็วไว คงจักได้ยิงแน่นอน
พรานหนุ่มด้อมด้อมมองมอง จ้องดูรอยเท้าทอดถอน
หันกลับอีกทางบทจร ฝ่ายคนตัดไม้สงกา
อ้าวนายทางนี้ราชสีห์ มันหนีไปโน่นแหละหนา
พรานหนุ่มบอกที่ฉันเข้ามา ดูรอยบาทามันไป
พอแล้วดูแค่นี้แหละ แพะแกะทางโน้นสงสัย
คงมีให้ยิงถมไป ฉันไปแหละนะท่านนาย
อันคนอวดกล้ากำแหง กล้าแกร่งกำลังเหลือหลาย
เพราะยังมิสบอันตราย จึงกล้าอวดอ้างคุยโว
ยามใดประสบภัยพิบัติ ชอบทำฮึดฮัดโมโห
หลบหลีกไปอวดคุยโต มิกล้าประจันอันตราย
43.  พวกหนูประชุมปรึกษากัน
ที่บ้านกลางสวนชวนฉงน ตายายสองคนเจ้าของ
แต่หนูมากมายจับจอง ทุกห้องมันอยู่สบาย
ตาเฒ่าก็แสนรำคาญ บ้านรกรุงรังเหลือหลาย
มันกัดมันแทะวุ่นวาย ขี้หนูกระจายทั่วเรือน
จึงหาแมวโพงมาเลี้ยง ส่งเสียงข่มขู่ดูเหมือน
ได้ผลหนูกลัวทั้งเดือน บางตัวลืมเลือนจับตาย
สังคมพวกหนูวิกฤต มันคิดหนทางหลากหลาย
ประชุมปรึกษาวุ่นวาย เลวร้ายแย่ลงทุกที
ออกมาหากินลำบาก หากแมวมันเห็นวิ่งหนี
หลบทันก็รอดชีวี ไม่ดีจับได้ต้องตาย
มันกัดขบกินดิบดิบ พวกพ้องมากมวลฉิบหาย
มิกล้าหากินวุ่นวาย ใครมีอุบายช่วยกัน
บางหนูบอกจ้างมือปืน ค่ำคืนแมวมาน่าขัน
ยิงโป้งตายแน่ยืนยัน ใครกันจักเป็นมือปืน
หนูเก่งทรงภูมิความรู้ ดูก่อนลำบากยากฝืน
แมวมันออกมาค่ำคืน เต็มกลืนไม่ยินเสียงมัน
พอรู้แมวมาถึงแล้ว ไม่แคล้วถูกจับน่าขัน
หากมีกระพรวนสักอัน ผูกคอแมวนั้นคงดี
มันมาเมื่อไรยินเสียง เพียงพอให้เราหลบหนี
ทุกหนูชื่นชมเปรมปรีดิ์ แบบนี้ได้ผลแน่นอน
เซ็งแซ่ปรบมือให้เก่ง สมชื่อนักเลงสั่งสอน
ฉลาดเป็นกรดบทตอน ประชากรหนูจักสบาย
เฒ่าหนูประกาศช้าไว้ อย่าเพิ่งดีใจสหาย
ความคิดเข้าท่าคุณชาย แต่หมายจักทำยากเย็น
กระพรวนฉันพอหาให้ แต่ใครจักอาสาเข็น
ไปผูกคอแมวให้เป็น ดังเช่นสัญญาณเตือนภัย
เงียบกริบทั้งห้องประชุม ต่างกลุ่มมิต้องสงสัย
แนวคิดเสนอใดใด ทำได้มีค่าควรชม
แผนงานโครงการดีเลิศ ประเสริฐอ่านดูงามสม
พอลงมือทำกลับตรม แผนล้มหมดท่าไม่ดี
44.  พิราบกับกา
พิราบผัวเมียหนึ่งคู่ พวกมันอยู่ในกรงขัง
เศรษฐีได้มาจากวัง เลี้ยงไว้ด้วยความชื่นชม
เม็ดถั่วนานาอาหาร บันดาลมาไห้เหมาะสม
น้ำท่าบริบูรณ์ภิรมย์ สุขกายสบายจิตนับนาน
ต่อมามีลูกผูกพัน พวกมันรู้สึกสุขสานติ์
ฉลองเอิกเกริกเบิกบาน กาดำรำคาญสิ้นดี
จึงบอกว่าสองเอ็งเอ๋ย มิเคยดำริวิถี
ดำเนินครอบครัวมากมี ปัญหาควรรู้เข้าใจ
ตอนนี้สองเจ้าต้องโทษ ดังโจทย์จองจำจริงไหม
ถูกขังอยู่กรงคือภัย จักไปจักมายากเย็น
อาหารก็รอเขาให้ ทุกข์ใจลำบากยากเข็ญ
อิสระเสรีหลีกเร้น ดังเช่นไม่มีหัวใจ
สองเจ้าทุกข์ทนข้นแค้น ก็แสนยากเย็นยิ่งไฉน
ลูกน้อยเกิดมาดังไฟ สุมให้เร่าร้อนทับทวี
เพราะรักเพราะหลงลูกน้อย สองเจ้าต้องคอยส่งศรี
เลี้ยงดูอาหารไม่มี จักออกนอกกรงยากเย็น
ลูกเจ้าก็คงลำบาก มิยากตรึกดูรู้เห็น
เภทภัยเคราะห์กรรมลำเค็ญ คงเป็นแบบนั้นแน่นอน
พวกเจ้ายังเฉลิมฉลอง มาตรองคดีที่ข้าสอน
รู้ทันปัญหาคราจร เร่าร้อนจักคลายเบาบาง
45.  พ่อกับลูก
ตาสิงห์ยายแก้วกลอยใจ บ้านใต้บ้านเหนือรู้ดี
ลูกเต้าห้าคนต่างมี อายุที่ไล่เลี่ยกัน
คนโตอายุสิบห้า คนหล้าสิบเอ็ดเสร็จสรรพ์
เสียดายไม่ค่อยสัมพันธ์ แข่งขันเอาชนะคะคาน
มอบหมายช่วยกันทำกิจ เริ่มคิดก็มักหักหาน
เกี่ยงกันไม่ช่วยทำงาน สานกันไม่ติดล้มไป
หลายครั้งงานล่มเสียหาย เสียดายเวลาไฉน
สอนยากสอนเย็นกระไร ลองใช้มาแล้วหลายทาง
ตาสิงห์นึกหาวิธี แบบนี้คงได้สะสาง
ประชุมลูกชายนายนาง พลางสั่งหักกิ่งไผ่มา
ส่งพ่อคนละสองท่อน ตัดทอนแค่ศอกนั่นหนา
มัดรวมสิบท่อนเจรจา ลูกยาลองหักดูที
คนโตออกแรงแข็งขัน มันมิหักเลยยาหยี
น้องสองน้องสามก็ดี ต่างชี้มิอาจหักมัน
ห้าคนลองแล้วไม่หัก ประจักษ์แจ้งใจพร้อมสรรพ์
พ่อรับมาแก้ออกพลัน ส่งให้หนึ่งอันลองดู
ทุกคนหักได้โดยง่าย ความหมายฟังพ่อหนูหนู
สัพเพสังสังฆภูตาชู สามัคคีสู่วุฒิสาธิกา
ร่วมแรงร่วมใจพลังเกิด ประเสริฐอุปสัคหนักหนา
เอาชนะง่ายดายทุกครา ข้าศึกมิอาจรอนราน
หากขาดรู้รักสามัคคี มิมีพลังอาจหาญ
เรื่องเล็กผิดพลาดเสียงาน พบพานศึกพ่ายยับเยิน
ดังไม้กิ่งเล็กรวมมัด หักยากรวบรัดขัดเขิน
แยกกิ่งหักง่ายเหลือเกิน เชิญลูกตั้งใจไตร่ตรอง
ทุกคนเข้าใจพ่อสอน งามงอนเห็นควรสนอง
ชวนกันหันมาปรองดอง หายข้องขุ่นเคืองร่วมกัน
ช่วยกิจทำการเล็กใหญ่ ทำได้สนุกสุขสันต์
ครอบครัวร่มเย็นโดยพลัน คุณานันต์รู้รักสามัคคี
46.  พ่อค้าเกลือกับโคต่าง
วัวต่างของพ่อค้าเกลือ เบื่อนักลากของไปขาย
พ่อค้าบังคับมากมาย ยากหมายจักเว้นทำการ
วันหนึ่งต้องเดินทางไกล ไปยังเมืองไกลไพศาล
ต่างเกลือเต็มหลังไม่นาน เดินทางผ่านไปใกล้บึง
บังเอิญฝนตกทางลื่น ยากฝืนพลัดตกไปถึง
ท้องน้ำท่วมหลังตะลึง พ่อค้าดึงมันขึ้นไป
ต่างหลังรู้สึกเบามาก หลากจิตลาคิดสงสัย
ทบทวนดูเหตุอันใด ทำไมมันเบานักแล
ครั้งนี้ต่างหลังตกน้ำ ดำมุดโดยไม่แยแส
แปลกจริงน้ำหนักเบาแท้ ใช่แน่ตกน้ำจริงจริง
วันหลังต่างเกลือมาอีก หลบหลีกผู้คนชายหญิง
ลาโง่หลบได้ออกวิ่ง ชิงลงแช่น้ำลำธาร
ต่างหลังเบาเบาสบายสบาย มันทำหลายครั้งอาจหาญ
เสียหายชักไม่ได้การ พ่อค้าพบพานเลศนัย
วันหลั่งต่างนุ่นมาแทน อัดแน่นเต็มที่พิสัย
ลาจักลากจูงดึงได้ พาไปตามเส้นทางเดิม
ลาลากจูงต่างตามนาย สบายใจมันยังฮึกเหิม
ถึงที่ลำธารจักเติม น้ำเพิ่มให้ต่างเบาสบาย
พอถึงวิ่งลงจุ่มน้ำ น่าช้ำนุ่นกลับแปลกหลาย
อุ้มน้ำหนักขึ้นมากมาย แทบตายหลังแอ่นลำเค็ญ
แต่นั้นมามันก็เข็ด งานเสร็จเรียบร้อยที่เห็น
อันคนชอบโกงมักเป็น ยากเร้นกลโกงได้นาน
ยามใดเขารู้เห็นเหตุ จับเลศกลได้ประสาน
แก้เผ็ดเสียกิจเสียการ นิทานบอกไว้ดีแล
47.  แพะกับคนเลี้ยง
ชายหนุ่มรับจ้างเลี้ยงแพะ แวะวนชายป่าหญ้าเขียว
มีแพะเกเรตัวเดียว เทียวแอบหลบหนีร่ำไป
บางคราวตามหาจนทั่ว มืดมัวแล้วมันอยู่ไหน
เลาะหากลางดงพงไพร จนค่ำจึงได้พบพาน
กลับค่ำนายจ้างก็ด่า มิกล้าเอ่ยคำไขขาน
กล้ำกลืนเอาไว้นับนาน แพะดื้อก็ยังเกเร
วันหนึ่งมันหนีแต่เช้า เข้าป่ามิยอมหันเห
ตามหาโซซัดโซเซ เหนื่อยล้าจนแทบหมดแรง
แลเห็นวับวับเรียกหา รีบกลับเอ็งอย่ากำแหง
ข้าเหนื่อยเดินจนเท้าแพง อย่าแกล้งหลบหนีอีกเลย
ต้อนกลับมันยังเลี่ยงหลบ พบแล้วยังวิ่งหนีเฉย
หยิบหินปาใส่ดังเคย แม่นจริงโดนขาล้มลง
ต้องอุ้มมันกลับทับก่อน ให้นอนใส่ยาพิศวง
บาดแผลเล็กน้อยยังงง ทำไมเดินยากจริงเจียว
จึงบอกแพะน้อยปิดไว้ อย่าได้บอกนายหวาดเสียว
หาไม่โดนด่าแน่เชียว แพะน้อยหัวร่อชอบใจ
ก็แผลมันเจ็บเดินยาก ลำบากแกรู้ใช่ไหม
นายเขาเป็นคนตาไว เห็นได้รู้เองแน่นอน
ไม่เห็นจำเป็นต้องฟ้อง ไม่ต้องมาบอกมาสอน
ประจักษ์พยานมันย้อน ยันยิ่งคำบอกใดใด
48.  แพะกับลูกแกะและหมาป่า
แม่แพะเลี้ยงดูลูกแกะ แม่แพะรักใคร่นักหนา
ราวกับลูกในอุรา หลายวันเวลาผ่านไป
คราหนึ่งพาแกะเล็มหญ้า ชายป่ายามเช้าสดใส
พลันเห็นหมาป่าตัวใหญ่ มาใกล้ทักทายสวัสดี
หนูน้อยลูกแกะแปลกหนา ใยมาอยุ่ไกลวิถี
ฝูงแกะอยู่ใกล้แค่นี้ ไปซีไปหาพวกเธอ
ที่นี่เขาฝูงแพะ จำไว้เป็นแกะเสมอ
พ่อแม่พี่แกะนะเออ มาซีฉันจักพาไป
แกะน้อยรู้ทันหัวร่อ พอทีอย่ามาขานไข
หมาป่าเจ้าเล่ห์แน่ไซร้ จักใช้อุบายหลอกลวง
ถึงฉันเป็นแกะตัวน้อย แม่แพะคอยดูห่วงหวง
เหมือนแพะพี่น้องทั้งปวง ฉันอยู่ด้วยสุขสบายดี
ฉันรักแม่แพะเหมือนแม่ จริงแท้มิคิดหลีกหนี
อย่ามาหลอกล่อพอที ฉันรู้แกมิจริงใจ
49.  มดกับนกเขา
มดง่ามตัวหนึ่ง ไต่มาถึงฝั่งห้วยหนอง
กำลังกระหายใคร่ลอง ดื่มน้ำสักหยดอดนาน
มันไต่กิ่งไม้ลงไป จวนได้ดื่มน้ำฮึกหาญ
ทันใดลมแรงพัดพาน กิ่งหักหักพลัดตกลง
มันจมลำน้ำกิ่งไม้ จำให้ต้องปล่อยประสงค์
ลอยคอเข้าฝั่งมั่นคง เสียดายพลัดตกมาไกล
นกเขาบนพุ่มพฤกษา สายตาแลเห็นสงสัย
มิช่วยคงม้วยด้วยใจ เด็ดกิ่งไม้แห้งแล้วโยน
มันลอยอยู่ใกล้มดน้อย มดลอยมาเกาะยึดโหน
คลื่นน้ำซัดมาพาโดน ซัดกิ่งเข้าฝั่งปลอดภัย
มดคลานเข้ามาหาฝั่ง ระวังนกเขาอยู่ไหน
หวังจักกล่าวคำขอบใจ  ทันใดเหลือเห็นนายพราน 
จดจ้องส่องปืนปลายไม้ เภทภัยนกเขามันหาญ
ผู้มีพระคุณถูกราน จำต้องช่วยตามกำลัง
มันรี่เข้ากัดง่ามเท้า พรานเขาเขี่ยดินสิ้นหวัง
ร้องโอ๊ยตกใจเสียงดัง นกเขาบินหลบเลี่ยงไป
อันความเมตตาปราณี ดีงามมิต้องสงสัย
สะสมมากมวลเอาไว้ จักได้กุศลผลดี ฯ
50.  มดง่ามกับจักจั่น
ยามเช้าหน้าฝนแจ่มใส แดดได้ส่องแสงสดศรี
ฝนตกวันวานยังมี ร่องรอยน้ำฝนฉ่ำเย็น
มดง่ามคึกคักขยัน ชวนกันทำการลากเข็น
ข้าวเปลือกลำบากยากเย็น ขนไปทำเป็นโกดัง
สะสมอาหารเก็บไว้ ยามมีภัยแล้งภายหลัง
อดอยากยากแค้นระวัง มีคลังอาหารสบายใจ
นับพันนับหมื่นชื่นจิต ช่วยกิจทำการดีไฉน
ร้องรำทำเพลงเดินไป มินานเสร็จได้สมควร
ยังมีจั๊กจั่นผอมโซ โผเผผ่านมาน่าสรวล
มาขอข้าวกินมดชวน พาทีมากมวลเจรจา
โอท่านจักจั่นผู้เจริญ ยามเดินโซเซแลหา
อยากกินข้าวน้ำปูปลา หน้าร้อนข้าวน้ำบริบูรณ์
ตัวท่านไปทำอะไรอยู่ มิรู้โอกาสสิ้นสูญ
ควรเก็บอาหารจำรูญ เพิ่มพูนเก็บไว้เสบียง
จักจั่นตอบคำหน้าร้อน เขาวอนให้ข้าส่งเสียง
ร้องเพลงเพราะพริ้งเพราะเพียง เทพพรหมสำเนียงเพราะเพลิน
จนสิ้นหน้าร้อนยามฝน ข้าวงอกจนสิ้นขัดเขิน
จักเก็บก็ยากเหลือเกิน จำเดินมาวอนเมตตา
มดง่ามหัวร่อข้องจิต ท่านคิดแต่เรื่องหรรษา
ร่ำร้องไม่รู้เวลา หาข้าวหาน้ำไว้กิน
เมือหิวจักโทษใครเล่า เพราะเจ้าสมควรติฉิน
ละเลยการงานใครยิน มักสิ้นเมตตาปราณี
อันคนควรรู้จักกาล ทำงานยามควรเสริมศรี
เรี่ยวแรงมากควรทำดี สะสมไว้มีพลัง
หาทรัพย์ทำงานการกิจ รู้คิดรู้หามนต์ขลัง
ยามเจ็บยามแก่ระวัง อาศัยใช้ตั้งเติมตน
หากไม่สะสมสินทรัพย์ จับจ่ายเกินตัวสับสน
ภายหน้าอาภัพอับจน มืดมนใครจักช่วยแล
51.  มัดแขนงไม้
ชาวนามีลูกห้าคน หน้ามนเป็นหญิงเสียสาม
ชายสองต้องสอนทุกยาม บอกให้รักใคร่สามัคคี
เสียดายสอนได้ไม่จำ เวรกรรมมันน่าหน่ายหนี
ทะเลาะกันได้ทุกที แม้แต่ยามกินยามนอน
อยู่มาวันหนึ่งนึกได้ ไปหาไม้เรียวจักสอน
วิธีแบบอย่างสหกรณ์ เอาคนละชิ้นมาดู
พ่อถือไม้เรียวยืนรอ นวลลออมาแล้วอ้ายหนู
ดีมากนี่ไม้ของกู หักง่ายแล้วโยนทิ้งไป
ทีนี้ส่งของพวกแก เป็นแส้ห้าเส้นใช่ไหม
เอ้ามัดรวมกันมั่นไว้ ส่งให้ลองหักทีละคน
เออมันไม่หักเลยนี่ เพราะมีหายอันสอดสนธิ์
รวมกันแข็งแรงเป็นพล จึงยากจักหักง่ายดาย
ฉันใดพวกเธอพี่น้อง หากปองรักกันมั่นหมาย
พลังสามัคคีมากมาย ยากใครจะอาจทำลาย
52.  ม้ากับลา
พ่อค้ามีม้ากับลา สินค้าต่างลาไปขาย
หนักหลังบรรทุกมากมาย ส่วนม้าตัวเปล่าเดินไป
พ่อค้าหวังมันคงสุข มิทุกข์ต่างหลังสงสัย
กลัวม้าซูบผอมรายได้ ขายต่ำราคามิดี
ของหนักจึงตกแก่ลา ฟันฝ่าไปตามวิถี
เหน็ดเหนื่อยวอนม้าจงมี น้ำใจวานช่วยแบ่งเบา
ช่วยหน่อยหนาเพื่อนมันหนัก ข้าชักขาสั่นใช่เขลา
ม้าบอกทุกหนักมิเอา เจ็บป่วยเดี๋ยวด้อยราคา
จากนั้นมันก็เมินเฉย มิเคยเหลียวแลเลยหนา
ปีนเขาหนักนักเจ้าลา พลัดตกจากผาสิ้นใจ
พ่อค้าขนเอาสินค้า บรรทุกหลังม้าหนักไฉน
จำทนลากชักกันไป ทำไมถึงต้องเป็นเรา
หากแม้กูช่วยลาบ้าง ช่วยต่างยามป่ายปีนเขา
คงมิพลาดพลั้งหนักเบา ควรช่วยลาด้วยเพื่อนกัน
อันคนมักเห็นแก่ตัว มืดมัวด้วยเหตุโมหัน
คิดได้เมื่อทุกข์ตามทัน มันสายเสียแล้วแหละคุณ
53.  แม่เนื้อกับนายพรานป่า
แม่เนื้ออยู่ในป่าใหญ่ เที่ยวไปทุ่งหญ้าเสาะหา
เลาะเล็มใบไม้เดินมา ทุ่งหญ้าระบัดใบงาม
เพลินเล็มหญ้าอ่อนสนุก ลืมทุกข์คืบคลานมาถาม
นายพรานถือหน้าติดตาม แกะรอยยามนี้จวนตัว
จะวิ่งทุ่งโล่งโจ่งแจ้ง ดังแสร้งให้ยิงน่าหัว
ฝีมือนายพรานน่ากลัว เขาลือกันทั่วแม่นยำ
เหลือเห็นเซิงซุ้มเถาวัลย์ ใบมันปกคลุมน่าขำ
คงพอหลบได้จดจำ ค่อยค่อยหมอบทำคอยที
พรานป่าเห็นกวางลิบลิบ หยิบหน้าไม้ถือรอรี
วิ่งมาหาดูตรงนี้ ไม่มีหายไปอย่างไร
นายพรานถึงป่าลึกแล้ว กวางแผ้วผ่องจิตแจ่มใส
นึกว่าตัวเองปลอดภัย กัดกินใบไม้รอบตัว
สักครู่นายพรานย้อนกลับ วับวับเลือนรางสลัว
มองเห็นกวางไพรพันพัว มัวกินใบไม้ลืมตน
โก่งหน้ายิงกวางล้มตาย เสียดายกวางไพรสับสน
ประมาทลืมตัวอับจน มืดมนทำลายกำแพง
ใบไม้ปิดบังมันไว้ กลับไปกัดกินกำแหง
ม่านกั้นเปิดเผยสำแดง ดังแกล้งให้พรานเห็นเอง
ฉันใดใครเขาปกป้อง อย่าปองทำร้ายข่มเหง
ผู้มีพระคุณยำเกรง นักเลงไม่อกตัญญู
54.  แมลงวันกับไหน้ำผึ้ง
มีสาวผิวขาวสดใส แบกไหน้ำผึ้งผ่านมา
หนุ่มหนุ่มร้องทักกานดา ชายตากรุ้มกริ่มพิมพ์ใจ
ดีใจชายรักชายหลง เดินตรงมิมองหนไหน
สะดุดท่อนฟืนทันใด ไหหล่นตกแตกกระจาย
น้ำผึ้งนองพื้นไปทั่ว สาวกลัวตกใจวิ่งหาย
แมงวันตอมกลิ่นมากมาย วุ่นวายดูดดื่มกินเพลิน
น้ำผึ้งติดปีกติดขา ไปมาก็ดูขัดเขิน
ที่สุดก็ตายยากเดิน บังเอิญติดอยู่มากมาย
ที่แท้เพราะมันโลภมาก ความอยากน้ำผึ้งเหลือหลาย
ลืมตัวลืมกลัวลืมตาย วุ่นวายแต่การดื่มกิน
ประมาทเลินเล่อเผลอไผล ภัยมามิเห็นโผผิน
เมามัวลืมตัวอาจิน จนสิ้นชีวิตปลิดปลง
55.  แมวกับไก่
แมวจับพ่อไก่อ้วนได้ ตั้งใจจักกินให้หิวหาย
แต่เกรงเขาด่าวุ่นวาย ว่าเป็นแมวอันธพาล
มันคิดเหตุผลให้ตน จนต้องฆ่าไก่ไขขาน
เพราะเจ้ารบกวนชาวบ้าน แกขันหนวกหูทุกวัน
ไก่เถียงเสียงฉันเพราะออก เพียงบอกเวลาสร้างสรรค์
ชาวบ้านรู้โมงยามกัน เพราะฉันต่างหากนะเออ
ก็ใช่แกมีแรงขัน เพราะนั่นกินอาหารเสมอ
ฉันเองก็เป็นเหมือนเธอ ต้องกินไก่ก่อนจึงดี
ส่วนเรื่องบอกกาลเวลา หาไก่ตัวอื่นแถวนี้
ช่วยขับขานขันช่วยชี้ บอกโมงบอกยามได้การ
แล้วมันก็กัดกินไก่ สมใจตามเหตุที่ขาน
อันธรรมชาติคนพาล ข้ออ้างมันมีมากมาย
อย่าคบร่วมมือร่วมกิจ อย่าคิดคบหาเป็นสหาย
อยู่ห่างจักมิวุ่นวาย สบายใจกว่ากันแน่นอน
56.  แมวกับหนู
แมวแก่เรี่ยวแรงถดถอย จับหนูได้น้อยนักหนา
อดอยากหลายวันเวลา นึกหาอุบายคงดี
หากเรานอนนิ่งเหมือนตาย มิยอมโยกย้ายหลีกหนี
เก็บเล็บดังสิ้นชีวี คงมีหนูยอมมาดู
ตอนนั้นคงจับมันง่าย อุบายวิธีจับหนู
ปัญญาเรามันชั้นครู เสร็จตูแน่นอนพวกแก
มีหนูหัวหน้าเห็นเข้า เฝ้าดูมันไม่แยแส
กลับร้องเรียกเพื่อนมาแล นี่แน่หนูหนูพวกเรา
อ้ายนี่มิใช่กระต่าย แต่มันตัวร้ายใช่เขลา
เข้าใกล้มันจะตะปบเอา มันแมวเจ้าเล่ห์แสนกล
อันผู้มีสติปัญญา รู้ทันท่าทีเห็นหน
มองออกอุบายแยบยล มิค่อยเสียท่าง่ายดาย
สุวิชาโนภวังโหติ อริยะสงฆ์ท่านส่องฉาย
ผู้รู้เรียนดีมากมาย ย่อมเจริญแน่นอนนะโยม
57.  ยายแก่กับหมอ
ยังมียายแก่คนหนึ่ง ถึงคราวเคราะห์ร้ายถามหา
มีโรกรุกลามถึงตา เป็นฝ้ามืดมัวลำเค็ญ
ยายวานลูกหลานพาไป หมอใหญ่อยากรู้อยากเห็น
วานช่วยรักษายากเย็น จักเซ่นเงินทองข้ามี
หมอตรวจดูรู้เหตุ สังเกตมองเห็นวิถี
ตกลงรักษาหายดี บ่งชี้ค่ายามันแพง
ยายบอกข้ามีสมบัติ พอจัดให้ตามแถลง
ตกลงยายฉันจักแจง แต่งยาไปดูทุกวัน
ยามหมอมาถึงที่บ้าน ลานตาสมบัติพร้อมสรรพ
แบบนี้คงรักษากัน นานครันจึงจากหายดี
ใส่ยาขากลับหยิบของ เงินทองติดมือทุกที
สมบัติร่อยหรอมากมี รักษาแบบนี้เนิ่นนาน
สมบัติหมดแล้วใส่ยา รักษาให้หายกล่าวขาน
บัดดีหายแล้วขอวาน ท่านจ่ายค่ายาให้เรา
ยายเห็นสมบัติหมดเกลี้ยง รู้เพียงหมอยาหยิบเอา
จึงบอกไม่จ่ายดอกเจ้า เงินเราไม่มีให้ทาน
หมอยาพิโรธด่ายาย ใจร้ายจักไปฟ้องศาล
เขาขัดยายไปให้การ วานบอกเรื่องราวเป็นไป
ข้าแต่ศาลที่เคารพ ข้าพบเคราะห์ร้ายไฉน
ก่อนนั้นตาดีเห็นไกล ในบ้านสมบัติมากมาย
ต่อมาตามัวกลัวบอด อยากรอดขอให้ตาหาย
ไปหาหมอมามากราย ตายายก็ยังไม่ดี
คุณหมอคือคนรักษา ใส่ยาตรงตามวิถี
บอกว่าตายายยังมี หายแล้วชี้ให้มองดู
ข้ามองไปทั่วทั้งบ้าน รำคาญมันน่าอดสู
เคยเห็นสมบัติเชิดชู ไม่รู้ไม่เห็นแปลกตา
แบบนี้มันคงไม่หาย จักให้จ่ายเงินนั่นหนา
หากมันหายดีไม่ว่า ข้าคงเห็นแก้วเงินทอง
ศาลพิเคราะห์เหตุผล รู้กลเป็นไปสิ่งของ
ตายายหายดีเห็นพ้อง ต้องจ่ายค่ายาเขาไป
ส่วนหมอต้องทำจนจบ ตายายมองพบสดใส
สมบัติเคยมีอย่างไร ให้ยายมองดูรับรอง
จากนั้นค่อยมารับโทษ ฐานโปรดลักเอาสิ่งของ
ตัดสินกันตามครรลอง ทำนองทำดีได้ดี
ทำชั่วก็ต้องรับชั่ว อย่ามัวโลภหลงวิถี
คน่เห็นแก่ไดมากมี ทำชั่วบาปกรรมตามมา
58.  ราชสีห์กับลาและหมาจิ้งจอก
ราชสีห์ลากับหมาจิ้งจอก ร่วมกันออกล่าเนื้อสบสันติ์
ได้กวางหนึ่งตัวสำคัญ แบ่งปันแบบไหนจึงดี
ราชสีห์บอกให้เจ้าลา รีบมาจัดการอย่าหนี
ลาแบ่งสามกองพอดี ขนาดสูสีตามควร
จึงบอกสีหะเชิญท่าน ประธานเลือกก่อนสงวน
เป็นสิทธิ์ผู้ใหญ่บรบวร ผู้น้อยตามหลังมิเป็นไร
ราชสีห์มิค่อยชอบนัก มันมิรู้จักเป็นไฉน
หัวหน้าลูกน้องแบบใด แบ่งให้เท่ากันมิสมควร
ตะปบลาน้อยย่อยยับ ดับชีพหนึ่งศพแย้มสรวล
ถึงตาจิ้งจอกเชิญชวน ช่วยแบ่งให้ทีจักรอ
จิ้งจอกเลือกแบ่งสองส่วน หนึ่งล้วนเนื้อหนังนั่นหนอ
เหลือไว้นิดเดียวก็พอ บอกว่าข้าขอนิดเดียว
ราชสีห์พอใจยิ้มร่า เอ็งมีปัญญาฉลาดเฉลียว
ร่ำเรียนจากที่ไหนเชียว รอบรู้ยุติธรรมชำนาญ
จิ้งจอกบอกว่าลานั่น สำคัญยิ่งคนบอกขาน
ได้รู้แจกแจงควรการ ประมาณพอเหมาะพอดี
เคราะห์กรรมลำเค็ญผู้คน เล่ห์กลมากมวลวิถี
เรียนรู้ศึกษามากมี จักได้ปัญญาชำนาญ
รู้เหตุรู้ผลกลไฉน หนักไปหรือเบาสืบสาน
ยามสบปัญหาแผ้วพาน แก้ไขมินานพ้นไป
59.  ราชสีห์กับวัวสี่ตัว
จ้าวป่าคือราชสีห์ มันมีพลังเหลือหลาย
จับเหยื่อสัตว์ป่ามากมาย กลัวตายเมื่อพบหน้ามัน
คราหนึ่งพบกลุ่มวัวหนุ่ม ชุมนุมสี่ตัวพร้อมสรรพ์
แปลกดีไม่วิ่งหนีกัน หันหน้าเตรียมพร้อมทุกตัว
พวกมันหันหน้าสี่ทิศ ท้ายชิดโผล่เพียงส่วนหัว
ระแวดระวังมิกลัว จ้าวป่าจำต้องหลีกไป
หลายคราช่วยกันดังนี้ ราชสีห์หมดทางแก้ไข
เลยอยู่กันรอดปลอดภัย ร่วมมือร่วมใจกันดี
อยู่มาวันหนึ่งเกิดเรื่อง เคืองกันเพราะราชสีห์
เจอเราหลบไปทุกที มันกลัวใครแน่นะเออ
ต่างบอกมันกลัวฉันเอง มันเกรงพลังฉันเสมอ
เขาแหลมอีกด้วยถ้าเจอ ฉันขวิดพุงทะลุแน่นอน
มิมีใครยอมเชื่อใคร จำแยกทางไปทอดถอน
ต่างตัวต่างออกเดินจร ลำพังตัวเดียวสะดวกใจ
จ้าวปาจึงสบโอกาส มิพลาดง่ายดายไฉน
จับวัวตัวเดียวกลางไพร ไม่ช้าหมดสิ้นทุกตัว
อันความร่วมแรงรวมใจ ยิ่งใหญ่พลังถ้วนทั่ว
อุปสรรคหักหาญไม่กลัว ฟันฝ่าไปได้ง่ายดาย
ยามใดเห็นแปลกแตกต่าง แยกข้างแยกพวกแยกสาย
อ่อนแรงเกราะพลังพังทลาย ย่อมง่ายศัตรูจู่โจม
60.   ราชสีห์กับหนู
อดีตกาลนานมา ราชาแห่งไพรราชสีห์
รูปร่างกำยำล่ำพี ยินดีพักผ่อนหลับนอน
แลดูเถื่อนถ้ำอำไพ เร้นลับอยู่ในสิงขร
หินงอกหินย้อยอรชร แง่งอนเงื่อนง้ำชวนชม
หอมกลิ่นบุปผามาลัย เอื้องไพรลำดวนฉุนฉม
สุคันธ์จันจวงลอยลม จิตจมจนเคลิ้มหลับไป
มินานสะดุ้งผวา แลหาด้วยเหตุไฉน
ตะปบหนูน้อยทันได ใยเอ็งเหยียบย่ำตัวกู
ข้าคือเจ้าแห่งป่า เอ็งมาหมิ่นเกียรติอดสู
จะไปจะมาไม่ดู เหยียบหัวย่ำหูมิเกรงเลย
จะกินมิพอยาไส้ จะไล่โมโหมิเหย
จำจักบี้บดชดเชย หายแค้นเอ็งเอ๋ยจงตาย
หนูน้อยออดอ้อนสิงโต อย่าเคืองโมโหมากหลาย
ข้าน้อยผิดพลั้งวุ่นวาย ซุกซนมักง่ายล่วงเกิน
อภัยข้าน้อยปล่อยเถิด ประเสริฐควรค่าสรรเสริญ
เป็นบุญเป็นคุณจำเริญ จักเชิญเทอดไว้บูชา
หากท่านมีกิจน้อยใหญ่ จะขอรับใช้เรียกหา
แทนคุณที่ท่านเมตตา ขอให้สัญญาลูกผู้ชาย
ขำก๊ากเจ้าหนูตัวจ้อย ตัวน้อยคุยโตเหลือหลาย
เอ็งหรือจักช่วยผ่อนคลาย ปัญหาให้หายคุยโต
เอาเถอะข้าไม่ถือสา รีบไปเดียวข้าโมโห
เปลี่ยนใจกินหนูพุงโร อย่ามัวโยเยรีบไป
หนูน้อยขอบคุณขอบคุณ หมุนตัววิ่งเร็วไฉน
เกือบตายซะแล้วปลอดภัย โชคดีเขาปล่อยเป็นบุญ
หลายวันเวลาผ่านไป ปัจจัยแห่งป่าเกื้อหนุน
ส่ำสัตว์ร่มเย็นเป็นคุณ อบอุ่นถ้วนหน้าสุขสบาย
จวบจนวันหนึ่งพรานป่า เข้ามาวางบ่วงซ่อนสาย
ดักเนื้อเก้งกวางกลับกลาย เจ้านายราชสีห์ติดไป
ด้วยพละกำลัิยังเหลือ เมื่อดิ้นสุดแรงสงสัย
มิหลุดมิขาดเหตุใด บ่วงบาศใยเหนียวเหลือเกิน
มันรัดเจ็บปวดครวญคราง หมดทางนึกไปให้เขิน
ราชาแห่งป่าสง่าเดิน ติดบ่วงดำเนินดังใด
หนูน้อยผ่านมายินเสียง เพียงเพราะอยากรู้เหตุไฉน
เสียงดังโครมครามเร็วไว วิ่งมาแอบใกล้มองดู
ที่แท้สัตว์ใหญ่ติดบ่วง ดวงตาเบิกโพลงอ้ายหนู
ที่แท้ท่านนายของตู รู้กิจควรทำลงมือ
เข้าไปบอกท่านขอรับ ช่วยจับตึงเชือกยึดถือ
มั่นไว้จักช่วยให้ลือ ไว้ชื่อหนูน้อยฟันคม
กัดแทะเกลียวเชือกไวว่อง หลายร่องจำเพาะเหมาะสม
บ่วงขาดราชสีห์ชื่นชม นิยมหนูน้อยขอบใจ
อันคนตัวเล็กมีคุณ อุดหนุนควรค่ายิ่งไฉน
รูปชั่วตัวดำถมไป ปัญญาใหญ่ยิ่งควรการ
ผู้น้อยผู้ใหญ่ไม่ต่าง รู้ช่างชั้นเชิงอาจหาญ
ช่ำชองช่างเชียวชำนาญ ร่วมงานร่วมใจได้คุณ
61.  ราชสีห์กับหมาจิ้งจอก
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยายแก้วเล่านิทานขานไข
อีสปมีเรื่องสอนใจ จำไว้เป็นคติเตือนตน
มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง มันพึ่งหลงทางสับสน
ขึ้นเขาวนเวียนวกวน จวบจนเข้าเขตอันตราย
ป่าลึกเขตราชสีห์ พอดีพบเข้าใจหาย
มันหมอบกับพื้นกลัวตาย มิวายเหลือบตาแอบมอง
ราชสีห์เดินผ่านไปเฉย มิเคยชายตาสนอง
ออกเดินถัดมาริมคลอง เจอตัวที่สองตกใจ
ครานี้ลองยืนนิ่งนิ่ง เออจริงชักหายสงสัย
จ้าวป่ามียศเกริกไกร ไม่สนสัตว์เล็กอย่างเรา
ราชสีห์ผ่านไปอีกที ครานี้จักมิขลาดเขลา
ออกเดินต่อมาเห็นเงา เจ้าป่าสง่างามยืนมอง
จิ้งจอกเดินเข้าไปหา ราชาแห่งสัตว์ทั้งผอง
ทักทายถามไถ่ทดลอง จ้าวป่ายิ้มให้ใจดี
บอกทางจากป่าดงดิบ ไกลลิบตรงไปวิถี
ยอดเขาลูกโน้นแหละมี เพื่อนบ้านเจ้าอยู่มากมาย
อันความกล้าหาญอดทน ตริตรองเหตุผลสืบสาย
เรื่องยากเรื่องยุ่งอาจคลาย เป็นง่ายเพราะสติปัญญา
62.  ราชสีห์ชันสูตรลมหายใจ
ราชสีห์ผู้เป็นใหญ่ อยู่กลางพงไพรวิถี
วันหนึ่งอยากรู้คดี ลีลาแห่งลมหายใจ
ตัวเองมิเคยทราบกลิ่น ยากสิ้นมันเป็นไฉน
จำเป็นจำต้องท่องไป ถามใครเขาวานบอกดู
รุ่งขึ้นออกเดินชมป่า ผ่านมาทักแกะนี่หนู
ข้าเองหายใจใคร่รู้ บอกตูกลิ่นเป็นยังไง
แกะน้อยหวาดกลัวตัวสั่น ตัวมันงุนงงสงสัย
เดินมาดมดูใกล้ใกล้ บอกไปว่าเหม็นเหลือเกิน
ราชสีห์พอฟังก็โกรธ กล่าวโทษแกะไปไม่เขิน
จับกินเสียแล้วออกเดิน บังเอิญพบหมาหนึ่งตัว
ร้องถามนี่คุณหมาป่า ข้ามีคำถามชวนหัว
กลิ่นลมหายใจดีชั่ว อย่ากลัวบอกข้าหน่อยซี
หมาป่าก็ตื่นตกใจ กลัวภัยยากจักหลบหนี
ดมดมแล้วบอกทันที หอมหวนดีนักราชา
ราชสีห์รู้มันโกหก ตกลงจับกินอีกหนา
ผ่านไปจิ้งจอกเดินมา ถามหากลิ่นลมหายใจ
จิ้งจอกดมดูครู่หนึ่ง จึงทำท่าจามสงสัย
ข้าเป็นหวัดแรงเกินไป มิได้กลิ่นเอาเสียเลย
เชิญท่านไปข้างหน้าเถิด ประเสริฐคงมีคนเผย
ราชสีห์มิได้เอื้อนเอ่ย ตามเคยมันเดินผ่านไป
รับมือกับคนเป็นพาล รู้การระวังแบบไหน
จึงจักอยู่รอดปลอดภัย เรียกได้ความฉลาดสำคัญ
63.  ลากับไก่และราชสีห์
ชาวไร่เลี้ยงลากับไก่ รักใคร่กันดีนักหนา
ยามเช้ามักเดินเล็มหญ้า ไก่เดินตามลาประจำ
วันหนึ่งมีราชสีห์ พอดีผ่านมามันขำ
เห็นลาชักหิวแล้วกรรม มันทำหมอบหมอบคลานคลาน
ไก่เหลือบมาเห็นจ้าวป่า ทำท่าคงนึกว่าหวาน
ลาโง่ไม้รู้ภัยพาล รีบขานขับขันเตือนไป
ราชสีห์ยินเสียงตระหนก ยกหัวยืนเสียงจากไหน
ฤาว่าจักมีเภทภัย จำใจวิ่งหลบทันที
ฝ่ายลาทันเห็นจ้าวป่า อ้ายบ้าเห็นตูวิ่งหนี
ขาดคุณสมบัติผู้ดี ต้องตีมันกลัวลนลาน
ลากวดราชสีห์จนทัน แต่มันหยุดรอไขขาน
ลาโง่เอ็งมันแสนพาล ควรเป็นอาหารคงดี
โดนกัดกินเป็นอาหารเช้า นึกว่าเขากลัวหลบหนี
เพราะโง่ปัญญาไม่มี เสียทีอวดเก่งเกินการ
อันคนขลาดเขลามีชัย มีใจฮึกเหิมอาจหาญ
นึกว่าตนเองชำนาญ เลยพาลประมาทร่ำไป
ถึงคราวมีกิจสำคัญ ฝ่าฟันก็มิอาจไหว
มักต้องพ่ายแพ้เพาะภัย อย่าได้เอาอย่างกันแล
64.  ลากับจิ้งหรีด
ลาโง่ตัวหนึ่งในป่า เล็มหญ้ายามเช้าสุขสันต์
อากาศเย็นเย็นสำคัญ นี่นันหรีดหริ่งเรไร
เพราะพริ้งจี้งหรีดกรีดเสียง เพียงพิณบรรเลงสงสัย
ตัวมันเล็กเล็กทำไม ไพเราะยามร้องระงม
เจ้าลาเดินตรงไปหา เพื่อนยาเพลงเพราะเหมาะสม
ร้องได้ไพเราะน่าชม อบรมฝึกมาอย่างไร
จิ้งหรีดฟังคำขบขัน ลามันมิรู้ฤๅไฉน
เสียงร้องส่ำสัตว์พงไพร ย่อมไม่เหมือนกันธรรมดา
จำจักล้อเล่นเจ้าโง่ พิโถเพื่อนใยเสาะหา
อยากรู้ดูด้วยปัญญา เช้ามาข้าดื่มอันใด
น้ำค้างดูดดื่มชื่นจิต ยามคิดปลอดโปร่งโล่งไฉน
ยามร้องเพราะพริ้งเพลงไพร นี่ไงข้าทำมานาน
เจ้าลาดีใจเหลือหลาย ขอบคุณมากมายไขขาน
ข้าจักฝึกฝนมินาน ได้การสำเนียงคงดี
เลิกกัดกินหญ้าเด็ดขาด ประหลาดเห็นหญ้าหลีกหนี
เที่ยวดูดน้ำค้างมวลมี รูปร่างอ้วนพีกลับกลาย
ซูบผอมเสียงร้องแหบแหบ แบบขาดเรี่ยวแรงเสียหาย
เสียงเปลี่ยนดีใจงมงาย ที่สุดล้มตายจากไป
อันความโง่เขาเบาความ ยามทำสิ่งสุดวิสัย
หลงผิดทำผิดเป็นภัย พึงใช้ปัญญาจึ่งดี
65.  ลากับรูปเคารพ
ล่าต่างตัวหนึ่งโชคดี มีโอกาสร่วมขบวนฉลอง
เขาจับแต่งงามดังทอง หลังตั้งเทวรูปจักรี
ขบวนแห่ไปรอบเมือง ธงทิวแดงเหลืองหลากสี
เพราะพริ้งแตรสังข์ดนตรี เจ้าลามีความภูมิใจ
เดินผ่านผู้คนเคารพ บ้างจบนอบน้อมดีไฉน
มันหยุดผงกหัวเรื่อยไป ทำให้ชักช้าห่างขบวน
เจ้าของมองดูรู้เลศ เพราะเหตุลาบ้าน่าสรวล
หวดตีลาบ้องอย่ากวน เขาไหว้เทวรูปหรอกแก
รีบไปให้ทันกระบวนเขา อย่าเมาลืมตนนี่แซ่
จักหวดให้ตื่นดีแน่ รีบไปอ้ายบ้าลืมตน
ผู้มีหัวโขนอำนาจ มักอาจลืมตัวสับสน
เห็นเขาเคารพเหลือล้น นับถือทำให้มัวเมา
แท้จริงเพียงเพราะยศศักดิ์ เขารักอำนาจอย่าเขลา
วันใดมันหมดตัวเรา ก็เพียงตัวตนเปล่าดาย
66. ลากับหมาจิ้งจอก
มีลากับหมาจิ้งจอก บอกว่ารักใคร่ใฝ่ฝัน
อยากเป็นเพื่อนเกลอแก่กัน ใจมั่นเพื่อนตัวเพื่อนตาย
ยามทุกข์ก็ทุกข์ทั้งดู่ ดูแลเปลื้องทุกข์สหาย
ยามสุขสุขสองมิคลาย สัญญามั่นหมายดิบดี
สองสหายท่องไปด้วยกัน สัมพันธ์ผูกไว้ไม่หนี
ดูแลแก่กันมากมี ไมตรีปกติธรรมดา
จวบจนเกิดเรื่องไม่ดี พบราชสีห์ขวัญผวา
จะหลบไม่ทันมันมา จิ้งจอกพาทีเพื่อนตาย
พ่อแพะเพื่อนยากมีภัย หยุดไว้รอก่อนสหาย
ข้าจักไปขอผ่อนคลาย หมายไว้คงไม่ยากเย็น
มันวิ่งไปหาราชสีห์ พาทีบอกความตามเห็น
ข้าจักหลอกลาเป็นเป็น มาเซ่นแก่ท่านงายดาย
ขอเพียงท่านให้สัญญา ปล่อยข้าละโทษฉิบหาย
ขอเว้นอย่าให้ถึงตาย เจ้านายได้โปรดเมตตา
ราชสีห์ตกลงตรองตรึก พลางนึกนี่มันเป็นหมา
เจ้าคิดเจ้าเล่ห์นานา ชาวป่าเขารู้สันดาน
จิ้งจอกกลับมาหลอกเพื่อน ทำเหมือนเรียบร้อยไขขาน
ราชสีห์มิใช่คนพาล ไหว้วานยกโทษโปรดเรา
หลอกลาเดินไปติดหล่ม จมโคลนติดอยู่เพราะเขลา
จิ้งจอกกลับไปบอกเอา ลาโง่งี่เง่าติดโคลน
เชิญทานไปกินมันเถิด ประเสริฐมันคิดจักโผน
หลบไปราชสีห์กระโจน ตะปบมันโยนตกตาย
จัดการกินจิ้งจอกก่อน ค่อยย้อนกินลาไม่สาย
สองเพื่อนสิ้นชีพวางวาย เพราะหมายเอาตัวรอดเอง
มีเพื่อนชั่วช้าหน่ายหนี อัปรีย์หาเรื่องข่มเหง
ความชั่วมันมิยำเกรง มีเพื่อนนักเลงอัปมงคล
67.  ลิงกับคนทอดแห
ยังมีนักเลงทอดแห ลอยแพทอดอยู่กลางน้ำ
ปลาชุมทอดแหแล้วดำ ได้ปลาแก้มช้ำแก้มนวล
ปลากดปลาหลดปลาไหล ทอดแหเหวี่ยงไปเสสรวล
ปลาติดขึ้นมาเป็นพรวน ยวนใจให้ทอดเนิ่นนาน
ฝั่งน้ำเห็นมีต้นหว้า หน้านี้ลูกมันสุกหวาน
พวกลิงสุดแสนเบิกบาน พบพานลูกหว้าชอบใจ
จ่าฝูงแลเห็นตาเฒ่า มันเบาปัญญาสงสัย
ตาแก่นี่ทำอันใด เหวี่ยงไปจมน้ำเป็นแพ
กระโดดลงไปดำมุด ที่สุดจับปลาจากแห
มันน่าสนุกของแก อยากลองดูแน่สักคราว
ตาแก่ทอดแหเหนื่อยนัก หยุดพักพอดีลูกสาว
มาเชิญให้รู้เรื่องราว ข่าวว่าอยากได้สตางค์
กลับไปที่พักสักครู่ ไม่อยู่มิมีคนขวาง
เจ้าลิงแลเห็นช่องทาง ลงมากางแหเหวี่ยงดู
แหพันหัวหางชักยุ่ง พันคุงจากหัวแลหู
อีลุงตุงนังนักตู เสียรู้ตกน้ำสิ้นใจ
อันคนมิรู้ประมาณ ทำการเกินตัวไฉน
มักเกิดมีเหตุเภทภัย สังวรเอาไว้ดีแล
68.  ลูกแกะหลงฝูงกับหมาป่า
แกะน้อยเล็มหญ้าเพลิดเพลิน เดินพลัดหลงฝูงกลางเขา
ลัดเลาะร่มไม้บังเงา ยังเยาว์แต่มิตกใจ
ยินเสียงแกะร้องแว่วมา ดูท่าคงห่างสงสัย
หากมุ่งทิศทางนี้ไซร้ คงได้เจอฝูงแน่นอน
เคราะห์ร้ายมันพบหมาป่า หมดท่าเย็นไว้พ่อสอน
จึงออกปากไหว้วิงวอน โอ้ท่านผู้เกรียงไกร
เคราะห์กรรมตามทันข้าแล้ว มิแคล้วสิ้นชีพตักษัย
เป็นภักษาผู้ยิ่งใหญ่ เยี่ยงท่านข้าพลอยยินดี
ก่อนตายขอท่านสักอย่าง เขาอ้างโบราณวิถี
เพราะพริ้งหมาป่าเป่าปี่ บุญมีถึงจักได้ยิน
ท่วงท่าทำนองไพเราะ เหมาะจักเรียกยอดแห่งศิลป์
ร่ายรำดังหนึ่งโบยบิน หวังว่าท่านคงเอ็นดู
หมาป่าภาคภูมิใจนัก กูจักแสดงอ้ายหนู
หยิบปี่มาเป่าอูอู ตัวมันเคลิบเคลิ้มหลับตา
แกะน้อยมิรอรีแล้ว รีบหลบหนีแจวแหละหนา
เพลงปี่จบลงตื่นมา อ้าวหายหัวซะแล้วแกะเวร
อันลาภสักการมีมา บางคราวบางคราที่เห็น
อย่ามัวระเริงหลงเล่น จนปล่อยลอยวับหายไป
จักมาเสียดายภายหลัง อย่าหวังคืนคงสงสัย
ดังวันเวลาคลาไคล มีไหนย้อนกลับลับแล
69.  ลูกปูกับแม่ปู
ปูมันมีขามากมาย แต่โชคร้ายหัวปูมันไม่มี
แม่ปูลูกปูชวนชี้ ไปที่ชายหาดสนุกกัน
น้ำใสสะอาดน่าเล่น ลมเย็นสนุกสุขสันต์
หากินก็ง่ายแถวนั้น มันมีอาหารมากมาย
ลูกปูชอบใจไปก่อน สนุกตอนลุยโคลนใจหาย
เดินเซไปมาขวาซ้าย โยกย้ายคดเคี้ยวร่องรอย
แม่ปูเห็นแล้วหนักใจ ทำไมไม่อายพวกหอย
เดินตรงดีดีเด็กน้อย ค่อยเดินรีบร้อนทำไม
ลูกปูหัวร่อแม่จ๋า พวกข้าเดินดีสงสัย
เซมาแล้วก็เซไป แปลกใจเดินดีแล้วนา
แม่ปูชักมีเสียงดัง น่าชังจริงนะเด็กจ๋า
เดี๋ยวแม่เดินแบบดารา จำท่าแม่แล้วเดินตาม
แม่ปูออกเดินแบบอย่าง แต่ช่างแปลกกระไรไต่ถาม
แม่เดินคดเคี้ยวทุกยาม ดูงามกว่าพวกหนูเดิน
ปูน้อยห่อร่อคิกคัก ยากจักไปตรงให้เขิน
แม่แบบคดเคี้ยวเหลือเกิน จักเชิญฝึกได้ดังใด
อันคนจักสอนผู้อื่น พึงตื่นตาดูตัวไว้
ตนเองสามารถทำไซร้ จึงควรสอนให้เขาทำ
หาไม่ไร้ค่าคำสอน เขาย้อนกลับมาน่าขำ
แม่ปูลูกปูจดจำ พร่ำสอนตัวเองดีแล
70. ลูกแพะกับหมาป่า
แพะน้อยตัวหนึ่งเดินมา เล็มหญ้าเชิงเขาลำพัง
มันเพลิงไม่ทันระวัง เสียงดังหมาป่าทักทาย
เฮ้ยเจ้าแพะตัวจ้อย เด็กน้อยอย่าวิ่งเสียหาย
แม้เหงื่อเจ้าออกท่วมกาย เหม็นหลายมันไม่น่ากิน
แพะน้อยตกใจได้สติ ดำริท่านผู้มีศิลป์
ข่าวว่าหากใครได้ยิน เสียงปี่ท่านรินหลั่งเพลง
ถึงตายก็สมควรอยู่ อยากรู้ไม่ควรข่มเหง
โปรดได้เมตตาบรรเลง ฟังแล้วไม่เกรงกลัวตาย
หมาป่าชอบใจแพะน้อย คอยฟังข้าภูมิใจหลาย
เป่าปี่ให้ฟังหลานชาย ภายหลังค่อยจับเจ้ากิน
ตะริดติ๊ดตี่ปี่หมาป่า พรรณนาแบบผู้มีศิลป์
เพราะยิ่งใครยลใครยิน เจิดจินตนาการเพราะเพลิน
หมาพรานล่าเนื้อยินเสียง จำเรียงจึงข้ามเขาเขิน
มาถึงแลเห็นบนเนิน หมาป่าเดินเป่าบรรเลง
หมาพรานโลดไล่หมาป่า ว่องไวนักหนาข่มเหง
กลัวตายลนลานลืมเพลง มันเร่งรีบหนีกลัวตาย
แพะน้อยเลยรอดปลอดภัย หลบไปเข้าป่าลับหาย
อันคนทำการมากมาย ไม่วายลืมตัวลืมตน
ไม่รู้ภาระหน้าที่ มีใจเรื่องอื่นสับสน
มัวทำเรื่องอื่นกังวน งานตนเสียหายมากมี
หมาป่าปัญญาบางเบา หลงเงาศิลปินวิถี
กำลังหากินดีดี เมาปี่เป่าเพลงเพลิดเพลิน
ลาภลอยตรงหน้าก็หาย หนีตายวิ่งเข้าเขาเขิน
ต้องโทษตนเองโง่เกิน บังเอิญไม่รู้จักตน
71.  ลูกหมูกับฝูงแกะ
ลูกหมูพลัดหลงแม่ มัวชะแง้หาอาหาร
ขุดคุ้ยกินไผ่นาน แม่ลับตาไม่รู้ตัว
จวนค่ำมันตกใจ มองทางไหนเริ่มสลัว
หมอกมืดคลุมไปทั่ว มันน่ากลัวอยู่เดียวดาย
ออกวิ่งตามหาแม่ ลองแลลับจนใจหาย
หลงทางกลัวแทบตาย แม่จ๋าแม่อยู่หนใด
มันหลงเข้ายังฝูงแกะ แบะแบะเสียงร้องเป็นไฉน
ปะปนหากินเรื่อยไป มิกล้าเปิดเผยตัวตน
วันหนึ่งชาวนาเจ้าของ เมียงมองเห็นหมูชวนฉงน
ไล่จับมันวิ่งเวียนวน หลบในฝูงแกะหายไป
พวกแกะแปลกนักบอกเล่า เจ้าหมูหลบหลีกเป็นไฉน
ยืนนิ่งเขาจับเป็นไร ใครใครก็ยืนเหมือนกัน
หมูน้อยตอบคำพี่ข้า พาทีมิค่อยสร้างสรรค์
เขาจับแกะด้วยสำคัญ ตัดขนแค่นั้นพี่ยา
ส่วนเขาไล่จับหมูน้อย ใช่ย่อยแค่นั้นดอกหนา
เขาจับไปเชือดมรณา สถานการณ์มิเหมือนกัน
ยามเห็นเคราะห์กรรมคนเขา อย่าเอาเรื่องราวเคยสรรค์
ของตัวเราเองสำคัญ จักแก้เคราะห์ได้ดุจเดียว
72.  ลูกอ้นกับแม่อ้น
มีอ้นสองตัวแม่ลูก พันผูกอยู่ในป่าไผ่
หากินกลางดงท่องไป มุดใต้ดินดอนขุดรู
สงสารลูกน้อยตาบอด แม่กอดกระซิบข้างหู
ตาบอดมิอาจแลดู เราอยู่ที่มืดมิเป็นไร
แม่จักช่วยดูแลเจ้า ค่ำเช้าอย่างงสงสัย
ตามหลังแม่จักพาไป หากินหน่อไม้มากมาย
อ้นน้อยมีแม่ปกป้อง ลำพองว่าเก่งเหลือหลาย
มิค่อยพบอันตราย สุขสบายลืมโง่ลืมตัว
วันหนึ่งอ้นน้อยคุยโว อวดโตอวดเก่งชวนหัว
แม่จ๋าตาฉันเห็นทั่ว ไม่กลัวหลงแล้วมารดา
แม่อ้นรู้ลูกโอ้อวด เจ็บปวดลองตรึกนึกหา
วิธีสั่งสอนลูกยา จึงหากำยานวางลง
ถามลูกแม้เจ้ามองเห็น นี่เป็นอันใดพิศวง
วางอยู่ข้างหน้ามองตรง จงตอบแม่มาโดยพลัน
อ้นน้อยดมดมคลำคลำ จดจำมิได้น่าขัน
บอกแม่ก้อนหินสำคัญ ยืนยันถูกต้องแน่นอน
แม่อ้นสมเพทลูกน้อย ตอบถ้อยหนูอ้นสั่งสอน
ตาบอดไม่พองามงอน กำยานว่าก้อนหินไป
จมูกก็บอดสนิท อยู่ชิดกำยานรู้ไหม
กลิ่นฉุนมิทราบกลิ่นใด สงสัยเจ้าบอดจริงจริง
อันคนอวดดีอวดเก่ง มักเบ่งข่มเขาชายหญิง
มินานเขารู้กลอกกลิ้ง ที่แท้ชิงอวดโง่แล
73.  ลูกโอ๊กกับฟักทอง
กะทาชายนายสิง มิเคยอยู่นิ่งสงสัย
คิดโน่นคิดนี่เรื่อยไป บางครั้งก็เกินพอดี
อย่างเช่นมันคิดเรื่องไก่ ออกไข่ตัวเมียหลากเสีย
พวกเป็ดพวกนกก็มี แบบนี้มิแตกต่างกัน
ทำไมตูเป็นผู้ชาย กลับกลายมีไข่หนอสวรรค์
สร้างผิดหรือเปล่าสำคัญ มันคิดแบบนี้แปลกคน
วันหนึ่งไปเที่ยวในป่า เมื่อยล้ายามอยู่ไพรสณฑ์
มองหาร่มเงาพักตน เจอต้นไม้โอ๊กพอดี
เอนตัวนอนใต้ร่มไม้ ได้เห็นลูกโอ้กหลากสี
ต้นโอ้กใหญ่โตกลับมี ลูกไม้ขนาดเล็กนิดเดียว
ฟักทองเถาเล็กลูกใหญ่ ทำไมโตนักฟักเขียว
เทวดาสร้างผิดแน่เชียว มันถึงได้กลับแผกกัน
ทันใดลูกโอ้กหล่นลง ถูกตรงหน้าผากน่าขัน
หัวโนหลบหลีกไม่ทัน ฉับพลันคิดใหม่อีกที
ต้นโอ้กลูกเล็กเหมาะนัก หล่นปักหน้าผากยากหนี
แค่ปวดแค่บวมยังมี หยูกยาทาได้หายไป
แม้มันโตเท่าฟักทอง สมองแตกแน่มิสงสัย
ชีพเราก็คงบรรลัย มิทันได้สั่งญาติกา
สิ่งใดที่เรามิรู้ มิคู่ควรจักสรรหา
ถ้อยคำวิพากย์จรรจา ศึกษารู้ก่อนจึงควร
74.  สามช่างซ่อมกำแพง
เอกทาพาราภูวง มีเรื่องยังคงกล่าวขาน
ถึงช่างผู้ชำนาญการ หารือจักซ่อมกำแพง
คราวนั้นมีข่าวการศึก มันฮึกอวดเก่งกำแหง
ประกาศสงครามร้อนแรง หวาดกลัวกันทั่วทั้งบาง
อมาตย์มนตรีปรึกษา พารามีสิ่งกีดขวาง
ค่ายคูกำแพงจัดวาง หอรบต่างก็พอมี
ทุกอย่างเรียบร้อยเว้นแต่ แลรอบกำแพงวิถี
ชำรุดต้องซ่อมให้ดี มนตรีปรึกษาเร็วไว
มนตรีเกษตรแนะนำ จำต้องมีอิฐมากไฉน
ปรับซ่อมกำแพงจึงได้ มั่นคงแข็งแรงแน่นอน
เดิมเป็นช่างทำอิฐ จึงคิดว่าเหมาะพ่อสอน
จำมาบอกกล่าวทุกตอน ขอให้ที่ประชุมพิจารณ์
มนตรีป่าไม้กล่าวอ้าง ท่อนซุงจับวางขอขาน
ทำง่ายแข็งแรงมินาน จักได้กำแพงสมใจ
เพราะเคยเป็นช่างเรือน แนะนำจึงมิสงสัย
ซุงแข็งกว่าอิฐบอกให้ ทุกฝ่ายเห็นคล้อยพาที
มนตรีอุตสาหกรรม เอ่ยคำขอค้านทุกวิถี
อิฐเผาเราก็ไม่มี ทำอยากอาจไม่ทันการ
ท่อนซุงจักเอาจากไหน มีไหมช้างม้าประสาน
ลากซุงมาใช้งาน ชักช้ามิทันศึกสงคราม
เราขอให้ใช้หนัง ซ่อมผังกำแพงอย่าถาม
เหนียวแน่นเบาบางทุกยาม ทนทานแน่นอนเชื่อเรา
ความคิดความอ่านของคน นึกว่าตนไม่ใช่เขลา
รู้ดีเก่งกาจมิเบา ล้วนขึ้นกับประสบการณ์
เคยพบเคยทำก่อนมา นึกว่าดีแล้วจึงขาน
ความคิดคับแคบมิชาญ คนควรเปิดกว้างดวงใจ
รับรู้วิทยาหลากหลาย มากมายสิ่งดีมีที่ไหน
ศึกษารอบรู้กว้างไกล จักได้เป็นปราชญ์ฉลาดแล
75.  หญิงชรากับสาวใช้
มีเรื่องเล่าขานคุณยาย เป็นนายลูกจ้างสองสาว
ยายเฮี้ยบเขาบอกเรื่องราว สุดยอดหาใครเทียบทัน
แกเลี้ยงไก่บอกเวลา ตื่นมาอีหนูไก่ขัน
รีบตื่นมาทำงานกัน ขยันหน่อยซีพวกเธอ
บางวันทำงานเหน็ดเหนื่อย หลับเรื่อยลืมตื่นเสมอ
ไก่ขันยังนอนละเมอ ต้องเจอน้ำสาดพอดี
สองสาวลองปรึกษากัน ไก่ขันรบกวนนวลฉวี
หลับนอนรบกวนทุกที แบบนี้เราต้องจัดการ
สองสาวเชือดไก่ต้มกิน ไม่ยลไม่ยินไก่ขาน
ค่อยหลับสุขสันต์สำราญ เบิกบานความฉลาดปัญญา
แต่เรื่องกลับตาลปัด การจัดระเบียบเคหา
ยายไม่รู้เรื่องนาฬิกา เวลาต้องไก่บอกยาย
ไก่ขันยายตื่นนานเนิ่น บังเอิญเงียบเสียงไก่หาย
เลยตื่นก่อนเวลามากมาย ปลุกเรียกสองสาวทำงาน
บางคืนโดนปลุกสองหน สองคนยากจักไขขาน
มิกล้าขัดยายทำการ หนักยิ่งกว่าเดิมเวรกรรม
อันคนคิดไม่ซื่อตรง คงหาอุบายถลำ
คดโกงเอาเปรียบประจำ มักทำนอกรีตนอกรอย
มินานผลกรรมตามทัน แปรผันผลสุขถดถอย
กลับเป็นทุกข์โทษที่คอย ตามทันซ้ำเติมเจ็บใจ
76.  หนูกบกับเหยี่ยว
หนูน้อยหากินใกล้หนอง ท่องไปไม่นานได้เห็น
คุณกบคุยกันได้เป็น เพื่อนเล่นเพื่อนตายชอบใจ
ทุกวันออกมาหากิน ยินดีบอกวานขานไข
กบจับตั๊กแตนยากไซร้ หนูไล่ตะครุบฝากมัน
หนูมันอยากกินข้าวเปลือก กบเลือกทุ่งนาเลือกสรร
ข้าเห็นรวงข้าวสาระพัน ไปกันเลือกเก็บกินสบาย
สองรักผูกพันเช่นนี้ ยินดีรักกันสองสหาย
สองเราเมื่อเป็นเพื่อนตาย ดีร้ายจักดูแลกัน
เสียดายที่มีอุปสรรค ข้ามักเดินช้าน่าขัน
หนูเอ็งเดินวิ่งเร็วพลัน ข้าตามไม่ทันแน่นอน
หนูว่าถ้าขามัดไว้ ล่ามเชือกเอาไว้ไม่ถอน
ไปไหนได้ด้วยแรมรอน ตอนสุขสุขด้วยเสมอใจ
ตกลงผูกขากบหนู เป็นคู่เพื่อนตายดีไฉน
เพลินเที่ยวหินกันไป ถึงหนองบึงใหญ่ยินดี
กบโดดลงน้ำดำดิ่ง หนูหริ่งจมน้ำยากหนี
มินานจบสิ้นชีวี มีมีอากาศหายใจ
นกเหยี่ยวผ่านมาแลเห็น ดังเช่นหนูนาสงสัย
โฉบลงจับหนูทันใด แถมให้กบน้อยอีกตัว
เหตุเพราะกบเพลินเกินสนุก มิเห็นทุกข์เพื่อนน่าหัว
สุดท้ายอันตรายพันพัว ถึงตัวฉิบหายด้วยกัน
77.  หนูกับหอยมุก
อดีตกาลนานปี มีหนูโง่เง่าหนึ่งตัว
มันนึกอยากเที่ยวไปทั่ว โลกนี้คงจักสวยงาม
อยากชวนเพื่อนไปด้วยกัน สำคัญพวกเขาคงถาม
ติดตามคงน่ารำคาญ เดินทางคงเดียวคงดี
รุ่งเช้าอากาศแจ่มใส เดินไปบูรพาวิถี
นกการ่ำร้องมากมี อึงมี่ไม่เปลี่ยวเดียวดาย
มองเห็นจอมปลวกใหญ่โต โอ้โฮภูเขาใจหาย
แปลกดีมีอยู่มากมาย บุญแล้วได้มาพบพาน
หนูอื่นไม่มีวาสนา โลกากว้างใหญ่ไพศาล
เหมาะกับผู้ปรีชาชาญ แบบข้านี่แหละแน่นอน
ผ่านไปได้เจอหนองน้ำ เคยยินคำแม่กล่าวสอน
แบบนี้ทะเลข้าจร มาพบคนแรกแปลกใจ
พวกหนูอื่นคงอิจฉา หูตากว่ากว้างไฉน
ชื่อเสียงข้าคงเกริกไกร เพราะได้รอบรู้นานา
มินานมาถึงแม่น้ำ จำได้ทะเลฝันหา
อยากเห็นทะเลตัวข้า บุญพาได้พบสมใจ
มาถึงทะเลริมหาด ประหลาดมันกว้างจริงไฉน
อันนี้มหาสมุทรมองไป ไกลสุดลูกหูลูกตา
มันเพลินลัดเลาะชายหาด ทรายสะอาดชวนฝันหรรษา
ชื่นชมลมเย็นพัดมา หอยมุกปากอ้าแปลกใจ
ตรงกาบคงมีอาหาร บันดาลให้หิวสงสัย
ลองมุดไปดูทันใด หอยงับกาบไว้เวรกรรม
อันพวกงี่เง่าเต่าตุ่น ลงทุนท่องโลกน่าขำ
เห็นผิดรู้ผิดประจำ ยังทำเป็นเก่งอวดดี
ถึงคราวพบพานอุปสรรค ก็มักหมดท่ายากหนี
อวดกล้าอวดเด่นมากมี ที่แท้ต่ำต้อยราคา
78.  หมากับเงา
มีหมาหนุ่มน้อยหนึ่งตัว เดินทั่วตามตลาดอาจหาญ
ทำเหมือนมันตรวจตามกาล เช้าผ่านตลาดสดทุกวัน
สายหน่อยมันโผล่ที่วัด พบหมาจรจัดพร้อมสรรพ์
คืนค่ำไปบาร์ผับพลัน อเนกอนันต์อาหารดีดี
ยามเช้าวันจันทร์ปกติ ดำริตลาดใหญ่ไม่หนี
พบเนื้อก้อนใหญ่เข้าที คาบได้เร็วรี่รีบไป
หลบหลีกจนออกนอกบ้าน มินานแม่น้ำลึกไหล
ขวางทางสะพานท่อนไม้ พาดให้เดินข้ามแคบเกิน
ค่อยค่อยไต่ไปดูเท้า พลาดเข้าตกน้ำนึกเขิน
คงเปียกหากมัวคิดเพลิน เดินไม่ระวังตกลง
แลดูสายน้ำใครหนา เหมือนหมางี่เง่าพิศวง
คาบเนื้อก้อนโตงุนงง แปลกตรงใหญ่กว่าของเรา
แบบนี้มันมาท้าทาย หมายจักแย่งเนื้อของเขา
ปล่อยเนื้อจากปากมิเอา จักเข้าแย่งเนื้อจากมัน
เนื้อหลุดลงน้ำจมหาย อ้ายบ้าก็คงหุนหัน
ปล่อยเนื้อหลุดปากเช่นกัน เนื้อสันอย่างดีหายไป
เดินข้ามถึงฝังหวังแย่่ง มันแปลงกายวับสงสัย
ลับหายพร้อมเนื้อก้อนใหญ่ อดได้กินเนื้อก้อนโต
อันลาภสักการน้อยนิด ใกล้ชิดในมือในโถ
มีค่าอย่าพาลพาโล โมหะอยากได้ไกลมือ
หาไม่จักพลอยเสื่อมลาภ เนื้อติดปากคาบไม่ถือ
หลุดลอยไปได้เสียชื่อ เขาลือโง่เง่านักแล
79.  หมาจิ้งจอกกับแกะและผู้ตัดสิน
ยังมีจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ เกเรหาเรื่องแกะเขา
บอกว่าเป็นหนี้ไม่เบา หลายแสนไม่ใช้สักที
มันตามไปทวงถึงถิ่น ได้ยินแล้วหนาอย่าหนี
แกะงงไม่รู้ไม่ชี้ มิเคยไปยืมเงินใคร
ฉันกินแต่หญ้าหาง่าย มากมายมองดูทางไหน
มิอดมิอยากทำไม จักเป็นหนี้สินกับเอ็ง
จิ้งจอกว่าเอ็งปากแข็ง เป็นหนี้ยังแกล้งข่มเหง
มาทวงกลับร้องตะเบ็ง อวดว่าไม่เคยยืมเรา
แบบนี้ต้องหาบัณฑิต ช่วยคิดไปพึ่งพวกเขา
พวกนี้เที่ยงธรรมบรรเทา รอบรู้กฏหมายคดี
จิ้งจอกชวนแกะเข้าป่า ไปหาตลาการวิถี
หนึ่งนั้นคือเจ้าอินทรีย์ ยังมีหมาป่าอีกตัว
จิ้งจอกบรรยายคำฟ้อง เรียกร้องกล่าวโทษชวนหัว
แกะเป็นหนี้มันพันพัว มึนมัวไม่ยอมใช้คืน
อินทรีย์ปรึกษาหมาป่า ประกาศอาญายากฝืน
เป็นหนี้ถึงจนทนกลืน ใช้เขาจึงถูกจึงควร
บอกปัดผัดผ่อนไม่ได้ ไล่เรียงระบอบสอบสวน
โทษหนักมาตราประมวล ประหารเร็วพลันอาญา
พวกมันจัดการฆ่าแกะ ชำแหละกินกันหรรษา
อันพวกโง่เขลาปัญญา ย่อมตกเป็นเหยื่อชนพาล
แถมยังฉลาดแกมโกง เชื่อมโยงผิดถูกประสาน
ยกเป็นข้ออ้างดักดาน ประกอบบาปกรรมเนืองเนือง
80.  หมาจิ้งจอกกับคนตัดไม้
ยังมีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง ถึงคราวอับจนนักหนา
พรานไพรมันไล่กวดมา สุนัขล่าเนื้อติดตาม
มันวิ่งหนีสุดชีวิต เพียงคิดพบใครได้ถาม
ขอความช่วยเหลือสักยาม เพียงพ้นอยู่รอดชีวี
มินานพบคนตัดไม้ แวะไปช่วยเราบ้างถี
พรานไพรสุนัขมากมี กวดตามมานี้แน่นอน
วอนหาที่หลบภัยบ้าง บอกทางปลอดภัยได้สอน
พระคุณครานี้อาทร วันหน้าทดแทนเมตตา
ชายคนตัดไม้ชี้บอก นึกออกในบ้านฉันหนา
ข้างเตียงหลบดีเพื่อนยา นอกนั้นข้าจักจัดการ
สักครูพวกไล่มาถึง เขาจึงบอกได้ไขขาน
ไม่เคยพบเห็นมานาน จิ้งจอกที่ท่านติดตาม
แอบชี้มือไปในบ้าน นายพรานมิรู้มิถาม
ออกเดินผ่านไปในยาม สักครู่ก็หายลับไป
จิ้งจอกออกมาจักหลับ ลาลับมิยอมขานไข
มิยอมขอบคุณใดใด เจ้าบ้านสงสัยครามครัน
จึงถามจิ้งจอกเนรคุณ ทำบุญแล้วไม่สร้างสรรค์
ช่วยแกไม่รู้คุณกัน วันหน้าอย่าพบกันเลย
จิ้งจอกขำขันพลันตอบ ทำชอบพึงทำเปิดเผย
มิใช่ปากดีแกล้งเอ่ย จักช่วยให้รอดปลอดภัย
แต่มือชี้บอกศัตรู สัญญาณให้รู้ตรงไหน
ข้าซ่อนหวาดกลัวจับใจ ทำได้ลงคอหนอคน
เขาเรียกพวกมือถือสาก พวกปากถือศีลสับสน
อย่างนี้ยังมาอวดตน ทำคุณแบบไหนน่าอาย
81.  หมาจิ้งจอกกับจระเข้
อตีตากาเล ยังมีจรเข้หนึ่งตัว
ชอบอวดเก่งนักเก่งหนา ศักดาสูงส่งเกินใคร
คนอื่นมิอยากเป็นเพื่อน เพราะคุยเลอะเลือนนั่นเอง
วันหนึ่งมันเจอจิ้งจอก จึงบอกคุยโขมงโฉงเฉง
พวกข้าสกุลนักเลง เขาเกรงกันทั่วตัวจริง
ผิวหนังเหนียวกัดมิเข้า เจ้าชู่เก่งเที่ยวเกี้ยวหญิง
ปู่ชาลวันเคยชิง สองสาวตะเภาแก้วตะเภาทอง
ไตรเทพเวทมนต์เชิงเชี่ยว เทียวไปไตรภพทั้งผอง
ต้นตระกูลคือเทพเรืองรอง นามก้องท่านไดใหญ่โต
จิ้งจอกยินแล้วหัวร่อ พอแล้วชักมีโมโห
เทพไดซอรัสฮิปโป พวกไดโนเสาร์ล่ะซี
ดูรูปหาหล่อยากนัก อัปลักษณ์น่าอายหน่ายหนี
ชอบแช่น้ำเน่าตลอดปี ทั้งขี้ทั้งเยี่ยวจัญไร
แหมยังมีหน้ามาอวด ตะกวดหล่อกว่าไหนไหน
ห่างห่างฉันหน่อยรีบไป คลืนใส้มันเหม็นขี้ฟัน
อันคนขี้โม้โอ้อวด เขาสวดว่ามิสร้างสรรค์
คุณค่ามิมีสักอัน ต่ำชั้นด้อยค่าน่าอาย
82.  หมาจิ้งจอกกับนกกระสา
เขาว่าพวกหมาจิ้งจอก กลิ้งกลอกเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
มีเรื่องร่ำลือมากมาย จนกลายมาเป็นตำนาน
นี่ก็เรื่องของจิ้งจอก เขาบอกเล่าไว้ไขขาน
อีสปเชี่ยวเชิงนิทาน เคยอ่านเคยรู้เรื่องราว
เจ้าหนุ่มจิ้งจอกในดง หลงเคี้ยวกินปลาหน้าหนาว
ก้างปลาติดคอชิ้นยาว ยากคราวสำรอกออกมา
มันติดมิยอมหลุดออก ไปบอกเพื่อนเพื่อนเสาะหา
ให้ช่วยจัดการก้างปลา ต่างหมดปัญญาช่วยมัน
จนคออักเสบปวดร้าว เคยห้าวเหี้ยมหาญน่าขัน
เจ็บป่วยครวญครางทุกวัน สำคัญนกฮูกตาโต
ได้ยินเสียงครางสงสาร ไปวานหมอซิพิโถ
ชื่อนกกระสาพาโล เอ็งโง่ทำไมมิไป
จิ้งจอกฟังคำจำจด ทนอดเจ็บปวดไฉน
คลินิกกระสามิไกล มันได้พบหมอมินาน
หมอนกกระสาตรวจสอบ ระบอบระเบียนไขขาน
ให้อ้าปากดูรู้การ ชำนาญดึงก้างออกมา
ปากยาวประโยชน์ดีมาก ลำบากแค่ลองแลหา
เห็นก้างประจักษ์แก่ตา มิช้าดึงออกได้พลัน
เจียดยาแก้ปวดให้ด้วย ค่าช่วยรักษาพร้อมสรรพ์
คิดเพียงสองร้อยช่วยกัน สำคัญจิ้งจอกเปลี่ยนใจ
มันบอกสองร้อยน้อยนิด คิดเทียบคุณข้าอสงไขย
ยามเจ้ายื่นปากเข้าไป ข้ายอมอดให้เมตตา
ไม่กินเจ้าเป็นจานเด็ด เหมือนเป็ดเหมือนไก่นั่นหนา
บุญคุณที่ไว้ชีวา มากกว่าสองร้อยแน่นอน
ยังจะมาถามให้จ่าย อยากตายหรือไรใครสอน
เพราะข้าเมตตาอาวรณ์ หาไม่ม้วยมรณ์แน่จริง
อันคนนิสัยพวกพาล สันดานรังแกชายหญิง
เอาเปรียบข่มเหงยากยิ่ง จักแก้จักสอนยากเย็น
หารู้คุณใครโดยง่าย เสียดายที่รู้ที่เห็น
กลับตัวยากยิ่งจักเป็น ดังเช่นจิ้งจอกนั่นแล
83.  หมาจิ้งจอกกับแพะ
เรื่องราวจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ สนเท่ห์ใจนักเหลือหลาย
เขาให้สวมบทผู้ร้าย มากมายตำนานดำเนิน
วันหนึ่งวิ่งไล่จับสัตว์ ลัดเลาะดักเลียบเขาเขิน
กะรอกกะแตมัวเพลิน บังเอิญจับได้ยินดี
อิ่มท้องภูมิใจตนฉลาด สามารถจับสัตว์ศักดิ์ศรี
เพราะด้วยปัญญามากมี ยากหนีพ้นมือแห่งเรา
กระหยิ่มยิ้มย่องพองขน วิ่งวนแวะเวียนเนินเขา
มินานตกบ่องี่เง่า ที่แท้ยังเยาว์ปัญญา
ขอบบ่อก็สูงเกินนัก ยากจักปีนพ้นเสาะหา
วิธีหลุดพ้นนานา หมดท่าจิ้งจอกถอดใจ
จำเกาะข้างบ่อนิ่งนิ่ง ประวิงกำลังสงสัย
คงมีทางรอดปลอดภัย ไม่นานแพะโง่โผล่มา
เห็นบ่อหิวน้ำเหลือหลาย มันหมายดื่มกินแลหา
แลเห็นจิ้งจอกจมชลา สงกาสอบถามเรื่องราว
น้ำลึกหรือตื้นตรงกลาง บอกบ้างใยหน้าซีดขาว
จิ้งจอกเจ้าเล่แพรวพราว เลยลวงแพะโง่จงดู
รสน้ำฉ่ำเย็นสดชื่น ข้ายืนเฝ้านานเหิงสู
หวานหอมหากแกอยากรู้ รออยู่กระโดดลงมา
เจ้าแพะโง่เง่ากระหาย ลืมตายยินดีนักหนา
กระโดดลงบ่อมิช้า เสียท่าจิ้งจอกมันไป
จิ้งจอกกระโดดขี่หลัง ขึ้นฝั่งรวดเร็วไฉน
แพะโง่ประสบเภทภัย เพราะไร้สติไต่ตรอง
ยามพบสบกิจน้อยใหญ่ ควรใคร่ก่อนตอบสนอง
รอบคอบดีตามครรลอง หาไม่จักต้องเภทภัย
84.  หมาจิ้งจอกกับเม่น
หมาจิ้งจอกหิวน้ำเห็นธาร ลนลานดีใจเหลือหลาย
มิดูน้ำไหลมากมาย ลืมตายกระโจนลงไป
ดื่มกินอิ่มแล้วผวา น้ำมันพัดพาแรงไฉน
ติดอยู่ซอกหินดิ้นใหญ่ ยังไม่หลุดรอดออกมา
ต้องรอน้ำลดอีกนาน บันดาลเจ็บปวดนักหนา
แง่หินขูดขีดกายา เลือดซึมทั่วหน้าเจ็บใจ
ฝูงเหลือบซ้ำเติมดูดเลือด นึกเดือดยากดิ้นไฉน
จำปล่อยพวกมันดูดไป ทนไว้นิ่งอยู่คอยรอ
เจ้าเม่นผ่านมาท่าน้ำ นึกขำแลเห็นโอหนอ
จิ้งจอกทุกข์ทนมากพอ อยากขอช่วยไล่เหลือบมัน
จิ้งจอกขอบคุณไม่ต้อง หากลองคิดดูพร้อมสรรพ
ดูดเลือดอิ่มถ้วนหน้ากัน พลันเกาะนิ่งอยู่นั่นแล
หากไล่มันไปแล้วไซร้ ฝูงใหม่มาตามกระแส
ดูดเลือดอีกครั้งคงแด ตายแน่น้องเอ๋ยปล่อยวาง
อันความทุกข์ยากใดใด ควรใคร่ตริตรองสะสาง
อาจต้องรับทุกข์น้อยพลาง ละข้างทุกข์หนักปล่อยไป
ความฉลาดผ่อนหนักเป็นเบา เป็นเชาวน์ควรมีดีไฉน
จักช่วยผ่านพ้นผองภัย สอนใจทุกผู้ดีแล
85.  หมาจิ้งจอกกับราชสีห์
ยังมีสุนัขจิ้งจอก กลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
ฟังว่ามันอยากมีนาย หมายว่าเป็นเจ้าสิงโต
มันเข้าไปหาราชสีห์ พาทีอย่าเพิ่งโมโห
ข้าขอรับใช้คงโก้ ใช่พาลพาโลจริงใจ
ท่านเดินป่าเขาจักช่วย เดินด้วยมีกิจไหนไหน
ยินดีอาสารับใช้ แล่นไล่ล่าสัตว์ยินดี
ตกลงสิงโตรับไว้ คนใช้จิ้งจอกสามสี
ถึงวันผ่านเข้าพงพี มันวิ่งเร็วรี่ติดตาม
สักครู่ได้กลิ่นสาบเนื้อ ไม่เบื่อมิเคยเข็ดขาม
พุ่มไม้ข้างหน้าคุกคาม ยามเห่าเนื้อวิ่งออกมา
ราชสีห์จับได้อิ่มท้อง มองดูขอบใจเจ้าหนา
จมูกดีช่วยตามไล่ล่า กวางป่ายากรอดเงื้อมมือ
จิ้งจอกภูมิใจนายชม นิยมคำยอนับถือ
คราวหลังข้าขอไว้ชื่อ ให้ลือไล่จับเนื้อเอง
วันหนึ่งได้พบกวางใหญ่ จิ้งจอกออกไล่ข่มเหง
กระโดดขี่หลังไม่เกรง มันเร่งจักกัดกวางไพร
กวางพาวิ่งหนีสุดฤทธิ์ มาติดหน้าผาสงสัย
วิ่งอ้อมผ่านหน้าพรานใหญ่ จึงได้ถูกปืนนายพราน
ล้มตายทั้งกวางทั้งหมา เขาว่าเรื่องราวกล่าวขาน
ทะนงตัวเกินไปไม่นาน จักพานประสบพบภัย
วางตัวพอดีมีสมถะ รู้จักจังหวะแบบไหน
ควรทำควรละกิจใด รู้ไว้เป็นอุดมมงคล
86.  หมาจิ้งจอกกับหน้ากาก
นิทานจิ้งจอกกลอกกลิ้ง มากจริงจนนึกกังขา
มันเลวเขาจึงนินทา มิมีดีบ้างหรือไร
เรื่องนี้เล่าว่ามันฉลาด สามารถเชี่ยวชาญขานไข
คราวหนึ่งมันแอบเข้าไป หากินที่บ้านดารา
เคยได้ขนมนมเนย เลยรุกอีกทีลองหา
ของกินคงมีปูปลา เจ้าของไม่อยู่สดวกดี
ได้ของกินอิ่มเดินดู อยากรู้ทางหลบหลีกหนี
ห้องหับเขาจัดมากมี มาถึงที่ห้องแต่ตัว
แลเห็นหน้าคนงามสง่า แปลกตามีแต่ส่วนหัว
มันจ้องมองดูน่ากลัว ตกใจกระโจนออกมา
ลองนึกอีกทีสงสัย ทำไมเงียบเสียงเจียวหนา
ถ้าคนคงร้องออกมา บ่นด่าไล่กวดไล่ตี
เลยย่องกลับไปดูใหม่ ได้รู้หน้ากากหลากสี
ข้างในกลวงกลวงแปลกดี ไม่มีอะไรน่ากลัว
อันภาพที่ตามองเห็น บางทีเป็นเรื่องชวนหัว
ดูงามสง่าถ้วนทั่ว แท้จริงแค่ภาพลวงตา
บางคนท่วงทีดังปราชญ์ คงฉลาดคนอยากคบหา
ตัวจริงกลับด้อยปัญญา มันน่าหัวร่อจริงแล
87.  หมาจิ้งจอกหมาป่าและม้า
โบราณเขาว่าจิ้งจอก กลับกลอกเจ้าเล่ห์เหลือหลาย
ตัวเล็กกลโกงมากมาย คุณยายท่านเล่านิทาน
ลูกหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง ถึงเล็กแต่มันอาจหาญ
กล้าพูดกล้าทำชำนาญ ฉลาดทันการทันกล
มีเพื่อนเป็นลูกหมาป่า ปัญญาค่อนข้างสับสน
คิดช้าไม่ค่อยทันคน อวดตนว่าเป็นผู้ดี
วันหนึ่งจิ้งจอกเดินเล่น เห็นม้าชาวบ้านวิ่งหนี
ผ่านมาใกล้มันรอรี ท่วงทีสง่าเหลือเกิน
มันกลับเจอเพื่อนหมาป่า บอกข้าเดินเล่นตรงเนิน
พบตัวแปลกตามันเดิน เล็มหญ้ากินเพลินข้าดู
รูปหล่อคล้ายข้าแต่ตัวใหญ่ คืออะไรข้าอายอดสู
นึกมิออกยากบอกให้รู้ มันอยู่ตรงโน้นน่ะนาย
หมาป่ายืดอกไม่ยาก ลำบากข้าไปเดี๋ยวหาย
ข้ารู้ปัญญามากมาย เพื่อนชายมาไปดูกัน
สักครู่ก็มาเห็นม้า จิ้งจอกวางท่าขบขัน
ร้องถามตัวใหญ่สำคัญ เอ็งมันตัวอะไรบอกที
ม้ามองลูกหมาทั้งคู่ ย่อมรู้ไม่ประสาประสี
แกล้งบอกที่เกือกข้ามี ชื่อที่ช่างสลักชัดเจน
จิ้จอกมองหน้าเพื่อนรัก รู้จักฉันใดไม่เห็น
หนังสืออ่านได้ยากเย็น เป็นคนไม่ได้ร่ำเรียน
หมาป่าภูมิใจไว้ข้า ผ่านมาปอหกขีดเขียน
อ่านได้ไม่ยากพากเพียร แก่มันเซียนสอบตกประจำ
หมาป่าเดินดูใกล้ใกล้ จักอ่านให้ชัดชักขำ
เลยโดนม้าถีบเคราะห์กรรม เพราะทำเป็นเก่งวิชชา
ความรู้ร่ำเรียนทุกคน แต่กลการใช้ให้หา
ฉลาดคิดฉลาดกลปัญญา พึ่งพาเชาวน์ชาญเฉพาะตน
คนโง่ก็เรียนรู้ได้ ยามใช้ยุ่งยากสับสน
ใช้ผิดยุ่งยากวนวน เล่ห์กลฝึกไว้ได้แหละดี
88.  หมาจิ้งจอกหางด้วน
หมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง ถึงคราวเคราะห์หามยามร้าย
เคยเที่ยวลักไก่มากมาย ผู้คนเบื่อหน่ายระวัง
เขาวางกับดักเอาไว้ มีไก่ชาวบ้านจับขัง
ในเล้ารอบข้างยายยัง กับตั้งเรียงรายหลายอัน
ที่สุดก็พลาดจนได้ กลไกกับดักผลักผัน
งับหางจิ้งจอกขาดพลัน มันดิ้นหลุดรอดออกไป
แผลหายหลายวันเจ็บนัก หางเคยน่ารักพิสมัย
กลายเห็นหางกุดเสียใจ ไฉนจึงช่างมาเป็น
พอดีนึกออกอุบาย สุนัขทั้งหลายมาเห็น
หางด้วนน่าอายลำเค็ญ เว้นแต่หางด้วนทุกตน
จำต้องเรียกประชุมใหญ่ ฟังไว้โปรดอย่าสับสน
ข้ามีเรื่องราวชอบกล ช่วยให้หลุดพ้นทุกข์ใจ
หาวยาวพ่วงพีดีดอก แต่พอตัดออกดีไฉน
คล่องตัวเดินเหินว่องไว เสีอไล่ก็ยากจักทัน
เพราะรักเอ็นดูพวกเรา สูเจ้ามาตัดพร้อมสรรพ์
หางกุดคุณค่าสาระพัน ฉันแจ้งประจักษ์ชัดเจน
เซ็งแซ่หลายตัวสนับสนุน ขอบคุณหัวหน้าข้าเห็น
อยากตัดข้าอยากจักเป็น เช่นท่านหางกุดคงงาม
หมาใหญ่ตัวหนึ่งได้ยิน ผินหน้าสงสัยไถ่ถาม
เห็นชอบวิ่งเร็วทุกยาม เชื่อตามที่ท่านบอกมา
แต่ที่เคยทราบก่อนนี้ ตอนที่ยืนเดินยากหนา
ทำให้พวกเราเดินช้า แถมยังขาเป๋สิ้นดี
ไม่จริงจักเดินให้ดู เสียรู้เสียศักดิ์เสียศรี
เขาเห็นหางด้วนทันที หมาใหญ่จึงชี้เรื่องราว
ที่แท้เอ็งโดนตัดหาง มาอ้างดำว่าเป็นขาว
หมาหมาส่งเสียงเกรียวกราว เป็นเรื่องฉาวโฉ่น่าอาย
อันคนปกติทำชั่ว กลัวคนอื่นทราบเสียหาย
อ้างชั่วเป็นดีกลับกลาย เรื่องร้ายว่างามหลอกลวง
หากคนเขารู้เท่าทัน อาจเสียเพื่อนรักเพื่อนหวง
ยามเขารู้กันทั้งปวง ทักท้วงได้อายไม่ดี
89.  หมาดุ
ชาวบ้านเลี้ยงหมาตัวหนึ่ง ดื้อดึงดุร้ายนักหนา
ชอบแอบกัดคนนานา เจ้าขอระอาเหลือเกิน
จึงหากระพรวนผูกคอ ดังเสียงเกราะลอเพราะพลิน
ไว้บอกเวลามันเดิน บังเอิญให้คนได้ยิน
จักได้เตรียมตัวต่อสู้ ย่อมรู้วิธีตัดสิน
มีไม้สักท่อนก้อนดิน ปาบินใส่หัวมันไป
เจ้าหมายินดีเหลือหลาก หายากเครื่องประดับสดใส
สุดยอดงามสง่าวิไล เที่ยวได้อวดเขาชื่นชม
คุณหมาสาวสาวเชื่อสนิท อยากชิดพาทีดีสม
พี่ท่านสง่างามนิยม พรหมท่านส่งพี่ลงมา
สุนัขหนุ่มหนุ่มกลุ้มจิต เห็นสาวใกล้ชิดอิจฉา
ทำไมนายของพวกข้า ไม่มาให้ผูกสักอัน
ความทราบถึงหมาผู้ใหญ่ รู้นัยเรื่องที่หมาฝัน
จึงบอกกล่าวเรื่องสำคัญ ต่างกันกับเธอรู้มา
เขาผูกระพรวนที่คอ เทียวจ้อยินดีนักหนา
ทำไมลองใช้ปัญญา เพราะหมาตัวนั้นดุเกิน
เขาติดสัญญาณเตือนจิต เพียงคืดข้ายังนึกเขิน
ยามมันจักวิ่งจักเดิน บังเอิญกระพรวนดังไกล
ผู้คนเขาจักรู้ตัว มิกลัวเตรียมการไหนไหน
ก้อนดินอิฐหินเตรียมไว้ หมาไล่ต้องโดนเจ็บตัว
อันคนประพฤติไม่ดี เขามีเครื่องหมายน่าหัว
ตั้งชื่อนักเลงน่ากลัว ยังมัวมาอวดว่าดี
90.  หมาป่ากับแกะโง่
กาละครั้งหนึ่งนานแล้ว ยายแก้วเล่านิทานขานไข
อีสปหลายเรื่องชอบใจ จำไว้หมาป่าแสนกล
นับแต่เจ้าของฝูงแกะ หมั่นแวะมาเฝ้าทุกหน
จับแกะยากเย็นกลัวคน ลำบากลำบนจริงจริง
มีหมาเลี้ยงแกะมาช่วย สุดซวยเหลือเกินน้องหญิง
หมาป่าคุยกันติติง บ้างนิ่งนึกหาอุบาย
จ่าฝูงนึกออกบอกได้ จักให้เป็นทูตโฉมฉาย
เธอสาวเธอสวยแพรวพราย พูดจาน่าเชื่อศรัทธา
สุนัขสาวสวยรับคำ จดจำอุบายไปหา
พบพานฝูงแกะเจรจา ตัวข้าเป็นทูตไมตรี
พวกหมาในป่าส่งสาร ถึงท่านแกะศักดิ์ทรงศรี
เมื่อก่อนพวกเราไม่ดี ราวีพวกท่านระราน
ไมตรีสองฝ่ายห่างเหิน ยากเกินที่จักประสาน
พวกเราสำนึกบาปพาล หวังท่านโปรดได้อภัย
สองฝ่ายเป็นมิตรชิดเรือน เป็นเหมือนญาติกันขานไข
สะดวกจักมาจักไป มิต้องกลัวภัยระราน
มิต้องให้หมามันคุม น่ากลุ้มมันเห่ามันหาญ
ขู่กัดท่านแกะรำคาญ ควรไล่จากบ้านพวกเรา
อยากเดินเที่ยวดงบ้านข้า มีหมาพวกฉันไม่เหงา
สนุกเที่ยวชมไพรไม่เบา เชิญท่านเข้าป่าตามสบาย
แกะเขลาหลงเชื่อคำหวาน เลยพาลพวกหมาไม่หาย
ต้อนหน้าต้อนหลังวุ่นวาย หลายตัวหลบลี้หลีกไป
พบพวกหมาป่าพาเที่ยว สนุกเชียวมินึกสงสัย
ตกเย็นมาส่งเข้าใจ เชื่อได้เขามีไมตรี
ฝูงแกะหลงชื่อมากเข้า หูเบาชวนกันแอบหนี
หลายตัวหลงป่าพงพี มีบ้างหมาป่าจับไป
อันคนขาดเขลาปัญญา ถูกล่าถูกหลอกมิสงสัย
เชื่อง่ายเชื่อเร็วเชื่อใจ ประสบพบภัยง่ายดาย
91.  หมาป่ากับลูกแกะ
ส่ำสัตว์ในป่าใหญ่ อาศัยลำธารกระหาย
เร่าร้อนลอยธารคลาคลาย ดื่มกินน้ำเย็นสบายดี
ลูกแกะลอยเล่นทวนน้ำ สำราญลืมภัยลืมหนี
เหนือน้ำหมาป่าคอยที ตะโกนด่าแกะบ้าจริง
ชาติชั่วลุยน้ำลุยโคลน กระโจนเล่นยังกับหญิง
น้ำขุ่นเมือไรจักนิ่ง กูยิ่งกระหายอยู่เลย
แกะน้อยร้องตอบนายท่าน วานดูมั่งอย่าทำเฉย
ต้นน้ำที่ท่านดังเคย ไหลมาที่ข้านี่นา
แล้วมันจักขุ่นอย่างไร หมาป่าว่าจริงของแก
ปีกลายข้ายังจำได้ ใช่เอ็งลอยกวนกระแส
น้ำขุ่นข้าหิวย่ำแย่ ดื่มน้ำไม่ได้เพราะเธอ
แกะน้อยหัวร่องอหงาย ปีกลายที่อ้างน่ะเหรอ
ข้ายังมิเกิดนะเออ จะทำน้ำขุ่นอย่างไร
หมาป่าบอกอย่าพูดมาก ถ้าหากเอ็งยังสงสัย
ชาติก่อนจริงแท้ประไร เอ็งกวนน้ำขุ่นแน่นอน
ว่าแล้วจับแกะกัดกิน ดับดิ้นในอุ้งมือมาร
วิสัยคนพาลมีเหตุ หาเลศทำชั่วบอกขาน
มากมายข้ออ้างทำการ สันดานแก้ยากจริงแล
92.  หมาไล่เนื้ออายุมาก
เจ้าดำเป็นหมาล่าเนื้อ เมื่อหนุ่มกำยำล่ำสัน
นายพรานให้ความสำคัญ เห็นมันเป็นหมาเทวดา
วันไหนจักไปไล่เนื้อ ดีเหลือเจ้าดำเรียกหา
ดำเอ๋ยลูกพ่อตามมา เดินป่าล่าเนื้อด้วยกัน
ทุกคราวมิเคยผิดหวัง พลังเจ้าดำดังฝัน
ไล่เนื้อด้วยดีตามทัน เสร็จมันทุกทีร่ำไป
นายพรานรักมากดังลูก พันผูกมิเคยสงสัย
ผ่านมาล่วงเลยแก่วัย เจ้าดำไม่หนุ่มดังเดิม
หูตาฝ้าฟางไม่ชัด ติดขัดกำลังไม่เสริม
เขี้ยวก็โยกคลอนยากเติม มันเริ่มแก่เฒ่าตามกาล
วันหนึ่งเดินป่าล่าหมู นายชี้ให้ดูไขขาน
ลูกพ่อไล่กัดอย่านาน นายพรานสั่งให้ติดตาม
เจ้าดำไล่ทันไม่ช้า หมูป่าหันสู้น่าขาม
สู้ตายขบกัดเต็มกราม ถึงหามเจ้าหมีเจ็บใจ
นายพรานมาถึงมิช้า ร้องด่าเจ้าหมีเหตุไหน
ปล่อยหมูหลุดออกหนีไป เงื้อไม้จักฟาดให้ตาย
เจ้าดำช้ำใจยิ่งนัก ยากจักให้รู้ความหมาย
บัดนี้ตัวมันกลับกลาย แก่เฒ่าวุ่นวายในใจ
ถึงตีจนตายก็ยาก ลำบากหมดแรงสงสัย
ความดีที่เคยทำไว้ ทำไมหมดค่าหนอนาย
อันคนเป็นผู้นำเขา พึงเอาใจใส่มุ่งหมาย
ยามดีใช้งานวุ่นวาย ยามร้ายอาฆาตตัดรอน
ความดีมีคุณค่ามาก หารู้จักใช้ได้สอน
ให้เขาคำนึงบทตอน เป็นพรส่งเสริมสวัสดี
93.  หมาอยู่ในรางหญ้า
เจ้าด่างหมาหนุ่มพ่วงพี หน้าตาดูดีหลากลาย
นิสัยค่อนข้างใจร้าย มักง่ายคนเขานินทา
วันหนึ่งมันไปคอกงัว เดินทั่วแวะเวียนแลหา
อาจได้ของกินนานา รางหญ้ามันมีสิ่งใด
แปลกดีมีหญ้านุ่มนัก จักลองนอนดูดีไหม
มิช้าล้มนอนเร็วไว หลับใหลสบายตัวสบายกาย
เจ้าวัวเดินมาที่คอก กลอกตาแลดูที่หมาย
รางหญ้าจักกินให้สบาย วุ่นวายหมาหลับในราง
จึงปลุกเจ้าหมารีบตื่น ข้ายืนรอนานอย่าขวาง
ลุกแล้วออกไปเจ้าด่าง แกช่างไม่รู้ที่นอน
เจ้าด่างไล่งับไม่ยอม มันพร้อมต่อสู้เห่าหอน
วัวแสนรำคาญกล่าววอน สั่งสอนไอ้ด่างหน้าลาย
เอ็งมันลูกหมาหวงก้าง กีดขวางตัวข้าเสียหาย
เอ็งไม่กินหญ้าวุ่นวาย ทำคล้ายหวงแหนนักแล
เหมือนคนที่เห็นแก่ตัว มัวหวงทำไม่แยแส
จนเสียประโยชน์มากแท้ แน่นอนโลกเขานินทา
94.  หมูป่ากับลาโง่
ลาหนุ่มจอมซุกซน เห็นผู้คนมิหลีกหนี
ทำเก่งอยากอวดดี เป็นผู้กล้ามิกลัวใคร
อยู่ป่าก็คะนอง ชอบลองเล่นเป็นวิสัย
ลืมตัวลืมกลัวภัย พบสัตว์ร้ายมิเกรงกลัว
วันหนึ่งพบหมู่ป่า มันทำหน้าอยากเล่นหัว
เข้าใกล้ทักทายมั่ว ไฮ้นี่ตัวสบายดี
หมูป่ายังงุนงง มันหลงลืมหรือไรนี่
เพื่อนลาเรามิมี จึงหลบลี้เลี่ยงเลยไป
ลาโง่มิยอมปล่อย คอยดักหน้าจักไปไหน
เพื่อนหมูรีบร้อนใย คุยกันก่อนนะเพื่อนยา
วันวานเพื่อนไปเที่ยว ในไพรเขียวถิ่นใดหนา
สนุกไหมบอกมา ข้าอยากรู้หมูบอกที
หมูป่านึกรำคาญ ไม่ไขขานเดินหลบหนี
ลาโง่มีรอรี ตามเซ้าซี้น่ารำคาญ
ร้องบอกไม่มีเพื่อน ที่แชเชือนแลอาจหาญ
พูดจาวาทะการ ไร้สาระไม่เคยมี
ลาโง่ยังมิถอย คอยตามต่อมิถอยหนี
หมู่ป่าวิ่งเร็วรี่ จักขบกัดให้วางวาย
ฉุกใจหมูได้คิด ปลิดชีพลาโมโหหาย
สาระไร้ลวดลาย ไร้คุณค่ามิควรการ
อดกลั้นหลบหลีกหนี ยังดีกว่าเสาะสืบสาน
คบคนผู้เป็นพาล เสียเวลาเสียการงาน
95.  หมูป่ากับหมาจิ้งจอก
หมูป่ากำยำล่ำสัน เขี้ยวมันยาวโง้งน่าขาม
มันชอบลับเขี้ยวคมกราม สัตว์ป่าเห็นแล้วเกรงกลัว
วันหนึ่งมันแทงเปลือกไม้ หวังได้ลับเขี้ยวส่วนหัว
ทำเป็นประจำฝึกตัว มิได้ประมาทขลาดใคร
หมาป่าผ่านมามองเห็น ลองเล่นพี่หมูจริงไหม
เห็นทำทุกวันแปลกใจ ใยเสียเวลาลับคม
ในป่าแห่งนี้ใครเล่า เขาจักเทียบพี่เหมาะสม
ว่องไวไปมาปานลม กล้าแกร่งเทียมท่านมิมี
พรานไพรก็มิเคยผ่าน ใครจักหาญเทียบรัศมี
สบายใจได้เลยคุณพี่ มิต้องลับเขี้ยวเสียเวลา
แบบฉันสบายมากลองดู หมูร้องอู๊ดอู๊ดอ้ายหมา
แบบเอ็งคนประมาทนี่นา ระวังจักพลาดเสียที
หมูอย่างเราใช่เขลาขลาด มิประมาทลับเขี้ยวทุกวิถี
ยามเกิดเภทภัยราวี พร้อมเข้าต่อตีทุกเวลา
อปมาโทอมตังปะทัง พึงยังไม่ประมาทนั่นหนา
ให้เกิดมีพร้อมถ้วนหน้า เพราะเป็นมรรคาที่ไม่ตาย
96.    ห่านออกไข่เป็นทอง
ชาวนาเลี้ยงห่านไว้หนึ่งคู่ ดูแลด้วยดีเสมอมา
วันหนึ่งห่านตกไข่มา แปลกตาเป็นทองเนื้อดี
ลองนำไปขายร้านค้า เขาให้เงินมาตามวิถี
ราคาทองคำอย่างนี้ คงเป็นเศรษฐีมิยากเย็น
ขายไข่ทองคำมานาน เบิกบานร่ำรวยได้เห็น
เมื่อก่อนชาวนาลำเค็ญ มาเป็นพ่อเลี้ยงหน้าบาน
วันหนึ่งปรีกษายายเฒ่า สองเราหารือไขขาน
หากผ่าเอาทองท้องห่าน คงได้ไข่ทองมากมาย
มิต้องรอทีละฟอง นวลน้องว่าไงโฉมฉาย
ยินดีเห็นด้วยคุณยาย ต่างฝ่ายก็โลภพอกัน
จับห่านมาเชือดทั้งคู่ แหวะดูหาไข่น่าขัน
มีแต่ตับไตใส้มัน แถมขี้ห่านนั้นเหม็นจริง
ไม่มีไข่ทองให้ขาย วุ่นวายโลภมากชายหญิง
มักชวดจากลาภขอติง ควรรู้ถึงความพอเพียง
97.  โหรคนหนึ่ง
คราหนึ่งเล่าเรื่องโหรา ปรีชาเชิงเชี่ยวชาญศิลป์
ศาสตร์เรื่องดาวดาวยลยิน รอบรู้ตำแหน่งโคจร
กลางวันอ่านคัมภีร์ ราตรีดวงดาวสลอน
ติดตามตำแหน่งทุกตอน โหรารอบรู้จริงเจียว
คืนหนึ่งฟ้าโล่งปลอดเมฆ โหรเอกเกิดเรื่องหวาดเสียว
เดินพลัดตกบ่อนั่นเชียว ปีนขึ้นมิได้เวรกรรม
รุ่งเช้าชาวบ้านมาเห็น ลากเข็นขึ้นมาน่าขำ
เขาว่าท่านโหรด้วยซ้ำ ดีแต่มองหาดวงดาว
รู้หมดทุกดวงบนฟ้า ปัญญาไม่เคยสืบสาว
ถนนหนทางมิยาว ทำไมไม่รู้บ่อมี
ทางเดินดวงดาวรู้หมด จำจดได้ทุกวิถี
แต่ทางตัวเองจรลี กลับหลงมิเคยจดจำ
อันคนหลงใหลมัวเมา เขาเก่งเรื่องนั้นน่าขำ
เรื่องอื่นมักเขลาหนอกรรม เหมือนดังโหรานั่นแล
98.  อีกากับหอยกาบ
อีกาตาดำตัวหนึ่ง บินผ่านบึงใหญ่ได้เห็น
หอยกาบตัวใหญ่ลุยเลน เดินขึ้นริมฝั่งสนใจ
บินมาค่อนวันโหยหิว ท้องกิ่วเหนื่อยยิ่งไฉน
มันโฉบลงมาทันใด หอยกาบหุบเปลือกซ่อนตัว
กาจิกกาบหอยเนิ่นนาน มันพาลมิแตกน่าหัว
ทำไมมันแข็งน่ากลัว มิได้กินแน่หนอกู
ทันใดกาแก่ตัวหนึ่ง มาถึงก็พูดกรอกหู
ลองเปลี่ยนวิธีใหม่ดู จักรู้มันแสนง่ายดาย
คาบหอยบินบนเวหา ปล่อยทิ้งลงมาเปลือกหาย
รับรองเปลือกแตกกระจาย โดนหินตรงโน้นแน่นอน
มันรีบทำตามเขาแนะ แกะหอยตามที่กาสอน
คาบหอยบินไปทางดอน ลานหินเบื้องล่างปลอยลง
บินวนกลับมาหาหอย เห็นเพียงร่องรอยพิศวง
เศษเปลือกกระจายนึกงง เนื้อหอยมิเห็นหายไป
โน่นแน่ะกาเฒ่าตัวเก่ง มันเร่งกินหอยสงสัย
หมดแล้วอ้ายหนูขอบใจ ร้องบอกโบยบินลับตา
อันคนชอบแนะระวัง บางครั้งมุ่งหวังสืบหา
อยากไห้ตอบแทนนานา พึงใช้ปัญญาพิจารณ์
99.  อึ่งอ่างกับวัว
ท้องนาน้ำแห้งขอดนัก มีปลักหลุมพอหลงเหลือ
น้ำขังนิดหน่อยจุนเจือ สัตว์น้ำอาศัยไม่ตาย
อึ่งอ่างกับลูกหลายร้อย ลอยคอในแอ่งกระหาย
แม่อึ่งกระวนกระวาย ออกหาสายธารในนา
หากแอ่งเดิมน้ำขอดแห้ง ฝนแล้งต่อไปผวา
ต้องย้ายเสาะแหล่งชลธา จากมาแต่เช้าจนเย็น
กล่าวถึงแม่วัวเขาเก โซเซกินหญ้ามาเห็น
แอ่งน้ำเล็กเล็กช่างเป็น หญ้างอกเร้นอยู่มากมาย
แม่วัวเล็มหญ้าไปทั่ว มันมั่วย่ำอยู่จนสาย
ลูกอึ่งถูกย่ำจนตาย สุดท้ายเหลือเพียงหนึ่งตัว
แม่อึ่งกลับมายามเย็น มาเห็นยามมืดสลัว
เศร้าสร้อยเสียงสั่นระรัว น่ากลัวมันเรื่องอันใด
ลูกน้อยบอกว่าอึ่งโอ่ง ตัวโย่งสูงยิ่งไฉน
เหยียบย่ำพี่น้องตายไป เหลือไว้เพียงข้าตัวเดียว
แม่อึ่งชักไม่ชอบจิต มันคิดใหญ่แค่ไหนเชียว
ลองเบ่งพองตัวสักเที่ยว หน้าตาบูดเบี้ยวพองลม
ถามลูกคงใหญ่เท่านี้ ลูกชี้ยังไม่เหมาะสม
หกเที่ยวแม่เบ่งให้ชม อกตรมยังไม่พอดี
สุดท้ายเบ่งสุดแรงเกิด ระเบิดอกตายคาที่
ตับไตใส้พุงมากมี กระเด็นยากชี้ส่วนใด
อันความพอดีพอควร ชวนคิดศึกษาไฉน
อย่าทำเกินตัวเกินไป อาจจักมีภัยอันตราย
100.  แอนโดรคลีสกับสิงโต
เอนโรลิสเป็นทาส ทำงานราชที่วังหลวง
แต่เช้ายันค่ำงานทั้งปวง ต้องเสร็จตามสั่งทุกงาน
ยามค่ำต้องขังกันหนี แบบนี้นับนานหลายสิบปี
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอนาคต มืดหมดเสียสิ้นศักดิ์ศรี
มิต่างจากสัตว์คงมี สักวันจักหนีออกไป
ครั้นแล้วโอกาสมาถึง มันจึงหลบหนีเร็วไฉน
ปีนออกนอกกำแพงได้ วิ่งวิ่งเข้าไพรพนา
หลายวันคงไกลอักโข เอนโดรลิสจึงเดินเสาะหา
ที่พักเป็นถ้ำกลางป่า สายตาเหลือบเห็นสิงโต
หนีเสือปะสิงห์หรือนี่ ภัยมีอีกน่าโมโห
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพิโธ่ วิ่งหนีทันใดกลัวตาย
แลหลังเห็นมันนิ่งอยู่ อยากรู้ทำไมใจหาย
แอบย่องกลับมามิวาย กล้ากล้ากลัวกลัวเพ่งมอง
เห็นมันนอนนิ่งเหยี่ยดขา ท่าทางคงปวดมีหนอง
มันครางเบาเบาเสียงร้อง คงต้องช่วยมันสักครา
เดินไปลูบขาขอดู ได้รู้มีหนามปักหนา
บ่งหนามดึงออกคลายคลา คัดหนองออกแล้วปวดคลาย
ราชสีห์ขอบคุณที่ช่วย ด้วยใจซาบซึ้งเหลือหลาย
เลียมือเลียเท้าเจ้านาย ข้าคงรอดตายแน่นอน
ชวนนายไปอยู่ที่ถ้ำ คืนค่ำมิได้ทอดถอน
ข้าวปลาอาหารอาวรณ์ ราชสีห์มีให้มากมวล
ต่อมาถูกจับทั้งคู่ แต่อยู่ต่างกันผันผวน
สัตว์ใส่กรงขังก็ควร แต่คนล่ามโซ่หนีคดี
พิพากษาลงโทษให้ตาย หมายให้สิงโตคาบหนี
ไปเป็นอาหารเข้าที แบบนี้จึงควรโทษมัน
เขามัดเอนโดรลีสไว้ ปักไม้กลางลานแล้วขัน
ด้วยเชือดมันแน่นกลางวัน แล้วปล่อยราชสีห์ออกมา
มันกลับหมอบนิ่งดมดู คงรู้เจ้านายนี่หนา
มันกลับยินดีปรีดา เลียแข้งเลยขาเจ้านาย
พระราชาให้ไต่สวน กระบวนรู้ความไม่สาย
คนดีมิสมควรตาย ปล่อยให้พ้นทาสจากไป
ราชสีห์ปล่อยคืนสู่ป่า กลับมาที่เนินไศล
คนดีทำดีพลังใจ ยิ่งใหญ่ผู้คนเมตตา