วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560

หนีเที่ยวสงกรานต์...50

ภาพสไลด์ รอดูได้เปลี่ยนทุก 5 วินาที
..........ครึ่งชั่วโมงแรก จอดบ่อย ตาอยากลงเดินดูใกล้ ๆ บางแห่งก็มีป้ายบอกชื่อ หลายที่ไม่เห็น เพราะป้ายอยู่คนละด้านกับที่เราเดินมา ต้องเดิมอ้อมไปไกล ถามสาว ๆที่เดินอยู่ใกล้กัน ก็เอาแต่มองหน้า พอหันไปคุยกัน อ้าว เขมร ลองดูสองสามราย ไม่เจอคนไทย ถามหลานสาว มันตอบว่าหนูก็ไม่รู้เหมือนกัน



ภาพสไลด์ รอดูได้เปลี่ยนทุก 5 วินาที

.........ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงครึ่ง บางกลุ่มก็ว่าศิลปะแบบไทยเหนือ มั่ง แบบอีสานบ้าง แบบทางใต้มั่ง ดีที่เขาสร้างขนาดใหญ่ มันเลยคล้าย ๆกับไปดูของจริง ไปเจอธาตุพนม สีแดง ๆ สวยมาก เจอพระธาตุศรีสองรัก ขำดี สวยกว่าของจริง พระธาตุบังพวนหนองคาย สร้างได้คล้ายของจริงมาก กลุ่มวัด กลุ่มเรือน ต่าง ๆ ไม่เคยไปเห็น เลยบอกไม่ถูกว่าคล้ายของจริงแค่ไหม แต่เขาทำสวยมาก มาเที่ยว คุ้มนะ ยิ่งพาแฟนมาด้วย เยี่ยมเลย



ภาพสไลด์ รอดูได้เปลี่ยนทุก 5 วินาที

.......กลุ่มศิลปะหินศิลาแลง แบบ สุโขทัย กำแพงเพชร อยุธยา คงสร้างยากไม่เบา ดูไกล ๆ เหมือนของเก่า นึกว่าไปขุดมาตั้งไว้ ตอนนี้รถไม่ต้องจอดยาก ไล่ลงเดินก็ไม่ลง มันเหนื่อย เขาบอกที่บริเวณนี้เกือบพันไร่ เดินสามวันก็ดูไม่หมด หลานถามว่าจะดูตรงไหนอีก เลยบอกพากูไปดูยายก่อน เดี๋ยวยายรู้ว่าหนีมาเที่ยว ไกล จะมีเรื่องต้องเล่าให้ยายฟังยาวเกินไป  เขาพาออกมาบ่ายสาม นึกว่าจะมาส่งหัวหมาก อ้าววิ่งมาถึง บางปะกง ทำไมเหมือนแยกมอเตอร์เวย์จัง หลานบอกใช่ทางแยกไปเมืองชลไง  อ้อจะไปส่งตาที่บ้าน เหรอ เขาบอกใช่ กลับเองอาจถึงบ้านค่ำ ก็ใช่อีกนั่นแหละมาคนเดียวชอบหลงทางเรื่อยเลยแหละ
ตาเอ็ง
............ผ่าน บางวัวมาไม่นานเห็นป้ายแวบ ๆ ปลาช่อนแดดเดียวทอด 10 บาท 20 บาท ก่อนเคยเห็นแถววัฒนานคร ทางไปโรงเกลืออรัญ แวะทุกครั้ง เพราะราคาถูกแล้วก็อร่อยด้วย สงสัยเปิดใหม่ ผ่านไปมาบ่อย ไม่เห็นนี่นา  ให้หลานแวะไป แรกว่าจะซื้อไปกินบ้าน รุ่น 10 บาทหมดเกลี้ยง เหลือรุ่น 20 บาท 5 ตัว เขาใส่กล่องให้ ไปนั่งรอ เขาเผาปลานิลให้ นั่งไปนั่งมาหิว สั่งน้ำมากิน สั่งส้มตำมากิน อ้าวกับก็อร่อย เปิดปลาทอดมากิน อ้าวสั่งข้าวมาหน่อย ต้องเดินไปสั่งใหม่ ปลาทอดอีก 200 บาท ต้มยำ ยำทะเล ตำข้าวโพด ตกลงทานข้าวเย็นซะเลย เกือบห้าโมงแล้วนี่ ที่บ้านคนคงเล่นน้ำเต็มถนน ร้านอาหารปิดหมดแน่ อาหารเขาอร่อย ทุกอย่าง ทานข้าวเสร็จก็เดินทางต่อ อีกสิบกิโลเมตร เศษ ๆ ก็ถึงบ้าน เห็นพวก เด็ก ๆหนุ่มสาวเขามารอต้อนรับเต็มถนนเปล่านะ เขารอเล่นน้ำสงกรานต์ ไม่ได้ชื่นชมรอตาหรอก ต้องลงไปขอให้มันเปิดทางให้ มันสาดน้ำเปียกหมด บ้าจริง กูขอทางไม่ได้ขอน้ำ พวกมันหัวเราะชอบใจที่เห็นเราเปียก
..........เข้าบ้านได้โดนยายเทศนาว่าเราโกหก ที่จริงไม่ได้โกหกหรอก บอกไปสำรวจรถไฟฟรี อยากรู้มันเป็นอย่างไรก็ลองนั่ง มันพาไปไกล เอง ครูหน่อยก็บอกจะพาไปกินข้าวเที่ยง คนมรรยาทดีอย่างเราก็ตามใจ ลูกหลานอยู่แล้ว กินอิ่มเขาบอกพาไปเที่ยว ก็ติดรถเขาไปอีก  พาไปไหนก็ไปด้วย ไม่ใช่รถเรานี่ กว่าจะได้กลับก็เกือบค่ำ ปลาทอดอร่อยนะดูหน้าสงสัยยังไม่ได้กินข้าว พอชิมลืมไปเลย หมด 1 ตัวค่อยคุยกันรู้เรื่อง หลานขอให้แขวนพระเครื่องหน้ารถให้ ก็ทำให้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพยาน อัญเชิญพระพุทธปฏิมา สถิต เป็นเหมือนผู้ส่องทางให้รถวิ่งไปบนถนนด้วยความปลอดภัย เป็นศิริมงคลแก่ผู้โดยสาร จากนั้นหลานขอสรงน้ำ ก็จัดให้ จนค่ำก็ลากลับ ขอบใจนะพาตาเที่ยวจนแทบจะลืมแก่เลยแหละ




ลองนั่งรถไฟฟรี




....13 เมษายน 2560 หยุดสงกรานต์ ปีนี้ไม่ได้กลับบ้าน เบื่อ ขับรถแตะเบรคกระตุก ๆ ไปตลอดเส้น
ทาง เคยวิ่งความเร็วขับ 100-120 กม./ชม. แต่ช่วงนี้ ไป 2 ชั่วโมงไม่พ้นเขตเขาใหญ่ เลยไม่ไป คิด
จะอยู่บ้าน เอาเข้าจริง ๆหงุดหงิด เลยหาเรื่องออกนอกบ้าน บอก ยายว่าจะลองไปดูรถไฟฟรี ยายก็
เชื่อนะแกบอก 
ดูแล้วก็รีบมา สิบโมงเช้า ไปถึงสถานีฉะเชิงเทรา ไม่ได้ไกลมากมายหรอก ออก มา
เมื่อเก้าโมงครึ่งเอง นั่งสองแถวมาสิบนาทีก็ขอลงหน้าสถานีเดิน เข้าไปบอกจะไปกรุงเทพ เขายื่น
ตั๋วให้ อ่านดูไม่เห็นบอก
กี่บาท ควักแบงค์ 100 ส่งให้ แกหัวเราะบอกตั๋วฟรีครับ คงเห็นเราเป็น สว.
แกกำชับด้วยว่า  ขบวนรถไปกรุงเทพ ฯ ฝั่งโน้นนะครับ ขึ้นผิดจะเป็นรถมา จากกรุงเทพ ฯ ไปทาง
อรัญ ฯ ขอบใจพ่อหนุ่ม อีก 5 นาที 
รถจะมา ถึง คนแห่ไปยืนรอที่ชานชาลา 
.......เสียงพูดคุยกันจนฟังหนวกหู เอ๊ะ กูอยู่ต่างประเทศรึเปล่า ฟัง ไม่รู้เรื่องเลย พอขึ้นรถได้มองหา
ที่นั่งมันมีแต่ที่ยืน ที่นั่งไม่มีเต็มหมด อ้าว นึกว่าไปเที่ยวสงกรานต์หมดแล้ว ยายคนหนึ่งแกยิ้มให้
เรียกตา มายืนใกล้ๆฉันนี่เดี๋ยวล้ม  ดีเหมือนกันสาวใหญ่หน้าตาดี แกถามจะไป ไหน เลยบอกจะไปกรุงเทพ ทำ
ไมคนเยอะจังยาย แกว่าวันหยุด คนงานมันไปเที่ยวกรุงเทพกัน อ้อ พม่า เขมร คนงาน
นี่เอง มิน่า จะหา
คนหล่อ ๆแบบเรายากนัก มันคุยกันฟังไม่รู้เรื่องเพราะคุยภาษาเขานี่เอง ผ่านไปถึง
สามสถานีถึงได้นั่งคนข้างยายเขาลง ยายบอกแกก็จะ ไปลงหัวลำโพง ไม่เคยมาใช่ไหม ไปด้วยกัน
ไม่หลงหรอก ทำไมตามาคนเดียวล่ะ แฟนไม่มาด้วยเหรอ โหพูดเก่งลีลาไม่เบาเลยนะนี่ จะหลอก
ถามว่าเรามีเมียรึยัง ตาใช้บ่อยมุกนี้   เลยบอกมาคนเดียว แฟนไม่ค่อยมี(จน) จะมาหาลูกหลานขอ
เงินเขาใช้ เลยโทรหาครู หน่อย จะยืนยันว่ามาหาหลานจริง ๆ นึกว่ามันคงกลับไปสงกรานต์แล้ว ที่

ไหนได้มันอยู่บ้านพัก 
.......ตาลงสถานีหัวหมากนะ เดี๋ยวหน่อยไปรับมากินข้าวเที่ยง เลยถามยายว่าอีกไกลไหมสถานีหัว
หมานี่ ยายว่าหัวหมาก สถานีข้างหน้านี่เอง เลยบอกว่าหลานจะมารับให้ลงที่นี่ พอดีรถจอดเลย ยก
มือไหว้ลาแก แกยิ้มให้ซะหวานหยดเลย เออทำไมตอนหนุ่ม ๆ ไม่เห็นเจอแบบนี้บ้างลงรถไฟมาเข้าห้องน้ำ ควักมือถือจะถ่ายรูป อ้าวแบตอ่อนเหลือ 18 เปอร์เซ็นต์เอง ถามเจ้าหน้าที่บอกห้องน้ำมี ที่
เสียบ เข้าไปเห็นแต่โถเยี่ยว ที่เสียบอะไรของพวกมึงนี่มันโถเยี่ยว  อยู่ไหนนะ เงยหน้าขึ้นโหติดไว้
ซะ
สูง ควักสายออกมาจะเสียบชาร์ต อ้าวหัว เสียบต่อขั้ว ยูเอสบี ไม่เอามา ซวยจริง เจอที่เสียบแต่
ไม่มีหัวเสียบ



ภาพสไลด์ รอดูได้เปลี่ยนทุก 5 วินาที

.......ครูหน่อยเขาสอนอยู่แถวประเวศ แม่มันนามสกุลเดียวกับตา อายุห่างเราปีเดียว โตมาด้วย
กัน 
ครูหน่อยนี่ลูกคนเล็กของเขา มี ศักดิ์เป็นหลานเรา มันเอารถมารับบอกหนูไม่ขับหรอกให้แฟน
ขับให้ อวดจริงนะมึงมีคนขับรถให้นั่ง ต่างกับกูตามึง ขับรถให้ยายนั่งตลอด เขาพาไปกินข้าวที่
ห้าง ชื่ออ่านพาราดิส หลานว่า พาราไดส์  เออ ได้ก็ได้ เอ็งครูสอนภาษาฝร่งนี่ คนเยอะมาก แต่ดู ๆ
ไป รุ่นเรามากกว่ารุ่นอื่น ๆ  บรรยากาศอบอุ่นดีนะ อิ่มแล้วเที่ยงเศษ เอง เขาบอกอย่างเพิ่งกลับ 
จะพาตาไปเที่ยวเมืองโบราณก่อน เออไปก็ไป..มันคงเห็นตาเป็นคนโบราณ ไปไหนมาไหนสะพาย
ย่ามยังกะชูชก เลยจะพาไปเที่ยวเมืองโบราณ 
.........ไม่ไกลนะ 18 กิโลเมตรจากจุดที่กินข้าวไป ตาเปิด GPS ในมือถือดูเลยรู้ไม่ถึง 20 นาที ก็มา
ถึงทางเข้า เห็นช้างสองตัวชู ป้ายเชิญชวนนักท่องเที่ยว เคยมาเที่ยวสมัยมีรถปิคอัพใหม่ ๆ ปวด ปิด
เรียนนึกหาจะไปเที่ยวไหนดี ตอนนั้นยังไม่มีอะไรน่าสนใจ สิ่ง ก่อสร้างไม่กี่อย่าง หลายจุดกำลังเริ่มก่อสร้าง แต่ก็พยายามดู นะ เพราะมาตั้งไกลจากเมืองเลย จากนั้นก็ไปเที่ยวทางเมืองชล ระยอง นี่
ก็ห่างกันร่วมสามสิบปี รถไปจอดหน้าสำนักงาน ครูหน่อยไปจัด การเรื่องตัว คนละ 100 บาท ปกติ
เก็บ 300 อีกคนไปติดต่อเรื่องรถ เอารถกอล์ฟ 6 ที่นั่ง ก็สะดวกดี สามคนใช้ รุ่น 6 ที่นั่ง สมฐานะหน่อย
 ที่จริงมันเหลือคันเดียว ไม่ใช่อยากอวดหรอก
......พร้อมแล้วก็ออกนั่งรถไป (ไม่ได้เขียนผิดนะ ไม่ใช่เดินทาง) คนมาเที่ยวกันเยอะมาก สังเกตดู 
คน  ต่างชาติมากกว่าคนไทย แบบเดียว กับบนรถไฟฟรีนั่นแหละ บางพวกก็นั่งรถเมล์หน้าตาคล้าย
รถราง  เขาบอกรถราง นั่นแหละ แต่เราไม่เชื่อ มองไม่เห็นราง หลอกคนแก่ได้ไง  มันวิ่งไปตามจุด
จอด คนลง ไปเที่ยว คนเที่ยวเบื่อก็กลับมาขึ้นรถไปเที่ยวต่อ แบบนี้็ก็สะดวกดี หลายกลุ่มเขาเช่ารถ
กอล์ฟแบบพวกเรา ขับไปเที่ยวเอง แบบสองที่นั่ง ชั่วโมงละ 150 แบบ สี่ หก ที่นั่งราคาก็แพงขึ้นเที่ยวแบบนี้เยอะเหมือน   กันขับผ่านไปมาเจอสวนกันบ่อย อีกพวกจักรยาน นี่ก็มากจริง ๆจนเขา ทำเครื่องหมายทางจักรยานไว้ นอกนั้นก็ พวกเอารถส่วนตัวเข้ามา เสียค่าธรรมเนียมเหมือนกัน



ภาพสไลด์ รอดูได้เปลี่ยนทุก 5 วินาที

วันอังคารที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560

หดสรงน้ำคนที่เคารพนับถือ






(ภาพจากกูเกิ้ล)

หดสรงพระมีมาแต่โบราณมาก ๆ ทางฝั่งลาวยังมียาครูยอดแก้ว 


(ภาพจากกูเกิ้ล)

ขันห้า น้ำอบน้ำหอม กำลังสรงพระกัน


ไปสรงน้ำผู้ใหญ่ 
.....พอดีเพื่อนจะกลับไปเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ ถามว่าจะไปสรงน้ำปู่ต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อน
สมัยเรียนเทศน์หกกษัตริย์ด้วยกัน ตอน นั้นเป็นสามเณร เห็นว่าบวชจนได้เป็นเจ้าอาวาส เพิ่งสึก
ม่นาน ลูกคนโตเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว เลยบอกว่าแกก็นักบวชนี่นา มาถามฉัน ทำไม มันบอก
ว่าไม่เคยทำเอง มีแต่ชาวบ้านมาทำให้ เลยไม่แน่ใจว่า ที่ทำอยู่ถูกหรือไม่ อยากฟังอาจารย์แนะนำ 
ก็เลยบอกฉันกำลังเขียน เวบบลอคเรื่องนี้ แกกดไปอ่านเองแล้วกันแล้วก็ให้ ลิงก์ไป 
.......เหมือนอย่างเพื่อนว่านั่นแหละ พวกนักบวชเคยเจอแต่ชาวบ้าน เขามาขอสรงน้ำ พอถึงตา
จะทำเองชักไม่แน่ใจ สำหรับกระผมเจอตั้ง แต่สึกมาเมื่อปี 2516 ต้องไปกราบคารวะพระอาจารย์
ช่วงสงกรานต์ พานักเรียนสรงน้ำครูอาจารย์ ต่อมาก็พาลูกหลานสรงน้ำพ่อตาแม่ยาย พิธีการก็
แบบเดิม ๆ เปลี่ยนไปตามความเหมาะสม 
.....มีคนมาคุยให้ฟังว่ารดน้ำดำหัวนี่เกิดขึ้นทางเหนือก่อน แล้วแพร่ กระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ
เลยแกล้งถามว่ามีหลักฐานยืนยันไหม แกอ้างคำดำหัวเป็นคำเหนือ ภาคอื่นไม่รู้จัก ดำหัว เราก็
เถียงว่า อาศัย แค่นั้นไม่พอหรอก ผมมีหลักฐานเก่ากว่าที่นายพูด มีพิธีรดน้ำเก่าแก่ มากทาง
อีสานเราทำมานาน เวลาคนตายจะล้างหน้าด้วยน้ำมะพร้าว รดน้ำศพด้วยน้ำหอมที่ทำจาก
ว่านหอม ทำจากขมิ้นทำมานานแค่ไหน ไม่ทราบ..คงนานมากแล้ว นี่รดน้ำดำหัวคนตายนะส่วน
คนที่ยังไม่ตาย มีหลักฐานชัดเจนคือการสรงน้ำพระภิกษุ ไปดูร่องรอยวัดต่าง ๆ จะมี รางที่ใช้ใน
พิธี ทำเป็นรูปนาคราชเรียก โฮงหดสรง เขาใช้ทำพิธีเมื่อ จะยกย่องพระภิกษุ เลื่อนยศเลื่อน
ตำแหน่ง เช่นจากพระภิกษุธรรมดา หดสรงแล้วก็เลื่อเป็น ยาซา ต่อมาหดสรงอีกเลื่อนเป็น
ยาครู พิธีนี้เคย เห็นคนสึกปกติเรียกอ้ายทิด แต่ยาซาสึกเขาเรียกจารย์ซา ยาครูสึก เรียก 
จารย์ครู ต่อมาหายไปไม่ได้เห็น ถ้าไปสืบค้นพิธีการหดสรงพระ มีระบบน่าศรัทธามาก เลื่อน
ยศทีไรก็มีพิธีหดสรงให้ จนสูงถึง ระดับ ยาครูยอดแก้ว ยาครูหลักคำ ผมเลยแน่ใจว่าการสรง
น้ำผู้ที่เราเคารพ นับถือ มาจาก 2 กรณีนี่เอง ทุกภูมิภาคมีประเพณีเป็นแบบของตนเอง 
.....สรงน้ำผู้ใหญ่ปกติเราจะมีของขวัญ ของฝาก ก่อนนิยมใช้ผ้าด้าย ดิบ วา หนึ่ง ต่อมาชอบ
เสื้อผ้า ของกิน ผลไม้ จัดตามสมควร สำหรับ การเตรียมพิธีคารวะผู้ใหญ่ ผมจะให้จัดขัน 5
 ดอกไม้ธูปเทียน แม่ผม ชอบเย็บกรวยใบตอง สอดดอกไม้กับธูปเทียนอย่างละคู่ เห็นจานมี
กรวย 5 อันวางอยู่รู้ทันทีเป็นขัน 5 ตอนนี้ต้องลงมือทำเอง ให้ลูกหลานจัด ดอกไม้ธูปเทียน
มาให้ ได้ใบกล้วยก็หยิบจับมาม้วนกลม ๆ ก้นแหลม ปากบาน ๆ ไม้กลัดให้แน่นแล้วเจียนปา
กสวย ๆ สำหรับสอดดอกไม้ 1 คู่ ธูป 1 คู่และเทียน 1 คู่ เย็บ 5 กรวยพอแล้ว ทำให้ดูครั้งเดียว
 พอไปอีกที มันพากันจัดไว้ให้เรียบร้อยดี แล้วก็ขันใส่น้ำอบน้ำหอม นี่ก็จัดไว้ตอนขอสรงน้ำ
จะได้สะดวก ส่วนสถานที่ทำพิธีแล้วแต่เจ้าบ้าน ท่านจะจัดให้ 
.......พวกเราจะไปพบท่านก่อนทำพิธีสัก 10 นาที ทุกอย่างพร้อมก็ เริ่มพิธี ผมชอบทำให้เป็น
เรื่องยุ่งยาก จุดธูปเทียนบนโต๊ะบูชายกขันห้า ที่หมายถึงตัวแทนพวกเราทุกคนมีขันธ์ห้า ขอ
ตั้งสมาธิให้มั่นด้วยการ นมัสการพระรัตนตรัย นะโม 3 จบ กล่าวไตรสรณคมน์ 3 จบ ยืนยัน
ว่า เป็นชาวพุทธยึดรัตนตรัยเป็นสรณะ ขอป่าวประกาศให้เทวาอารักษ์สิ่ง ศกดิ์สิทธิทั้งลายได้
รับรู้ ด้วยคำบาลีบทว่า..... สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเปรัฏเฐ 
จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะ
คันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเก ยังมุนิวะระวะจะนัง สาธะโวเม สุณันตุฯ ธัมมสวนกาโล 
อะยัมภะทันตา ธัมมสวนกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมสวนกาโล อะยัมภะทันตา ขอเชิญ
เทวดาทั้งหลายซึ่งสิงสถิตอยู่ในสวรรค์ชั้นกามภพ ในชั้นรูปภพ สิงสถิตอยู่บนยอดเขา และ
ที่หุบผา ทั้งที่มีวิมานอยู่ ในอากาศ และภุมมเทวดาทั้งหลาย ซึ่งสิงสถิตอยู่ในทวีป ในรัฐ ใน
หมู่บ้าน บนต้นไม้ ในป่าชัฏ ในเหย้าเรือน และเรือกสวนไร่นา ตลอดทั้งเหล่ายักษ์ คนธรรพ์
 และเหล่านาคทั้งหลาย ผู้เป็นสาธุชน ซึ่งอยู่ในน้ำ บนบก ที่ลุ่ม และที่ดอน จงมาชุมนุมกัน
 ขอเชิญฟังคำ ของพระมุนีเจ้าผู้ประเสริฐ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟัง ธรรม 
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม
ท่านทั้งหลาย กาลนี้เป็นกาลฟังธรรม แล้วก็ต่อไปเลย 
....วันนี้เป็นวันอดมมงคล พวกข้าพเจ้าทั้งหลายได้พากันมาขอแสดงความเคารพต่อ.......
.ที่พวกเราเคารพนับถือมานาน โอกาส นี้พวกเราใครขอขมาโทษท่าน หากพวกเราได้เคย
ล่วงเกินท่านด้วย กายกรรม หรือวจีกรรม หรือมโนกรรมและด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
ขอให้ท่านได้โปรดอโหสิกรรมแก่พวกเราด้วย แล้วยกขันห้า ช่อ ดอกไม้ มาลัยมอบให้ก่อน
ท่านรับไว้เรียกว่าได้รับการขอขมาจากเรา 
.........จากนั้นก็ขออนุญาตมอบของฝาก ของขวัญให้ท่านรับไว้ เป็น ยกที่ 2 การมอบของ
ขวัญ ผลไม้ ที่เตรียมมามอบให้หมด สุดท้ายก็ ขออนุญาตสรงน้ำ.....ยกขันน้ำอบน้ำหอม
ขึ้น..ต่อจากนี้พวกข้าพเจ้า ขออนุญาตแสดงมุทิตาสักการะต่อท่าน....ด้วยน้ำอบน้ำหอม
ที่เตรียม มานี้เหมือนหนึ่งน้ำใจของพวกเราที่ปรารถนาได้เห็นท่านอยู่เย็นเป็นสุขปราศ
จากทุกข์โศกโรคภัย มีสุขภาพแข็งแรง อายุมั่นขวัญยืน เป็น ร่มโพธิ์ร่มไทรแก่พวกเรา
นาน ๆ ....สาธุ แล้วทะยอยรดน้ำหอมให้มือ ให้ท่าน เสร็จแล้วก็รอฟังโอวาท ให้ศีลให้พร
แล้วก็ลากลับ 
.........สุดท้ายก็คำให้ศีลให้พรนี่แหละ ผู้อาวุโสทั้งหลายไม่ค่อยได้ ใช้กัน มักมีอาการไม่ค่อย
มั่นใจ ถ้าใครเริ่มแก่ขอชวนให้สนใจไว้บ้าง เวลา พระให้พรจดจำมาใช้ได้นี่นาก็คำ จัตตาโร
ธัมมาวัฒน์ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง แค่ 4 คำนี่มาขยายความเอา ก็ใช้ได้แล้ว
 .........คงเขียนแค่นี้ก่อน ยาวมากแล้วคิดว่าน่าจะช่วยให้คนที่คิดจะ ทำแต่ยังสงสัย พอได้
อ่านแล้วก็จะช่วยให้มั่นใจ กล้าปฏิบัติ เป็นเรื่องดี งามครับ ทำแล้วเป็นบุญกุศล สวัสดีครับ 






วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

ขุนทอง ชมตลาดนัดแปดริ้ว


...........11 เมษายน 2560 เช้าไปเดินตลาดสดหน้าศาลากลาง ห่างจากบ้าน เราแค่ 500
เมตรเอง แต่เอารถคันใหญ่ไป ไม่ขี่มอเตอร์ไซด์ เพราะลืมแล้ว เลิกขับมาสามสิบปีแล้ว หมา
น้อยสองตัว ทาโร่หนุ่ม คุกกี้ เป็นยายได้แล้ว แต่ตัวเล็ก วิ่งตามคงนึกว่าจะไปเที่ยว เลยให้เขา
สวมปลอกสำหรับจูงให้ แล้วให้ขึ้นรถไปด้วย จอดรถริมคลองคนละฟากกับตลาดนัด วันนี้คน
เยอะ ทั้งคนขายคนซื้อ  เดี๋ยวไปเดินดูก่อน ทาโร่กับ คุ๊กกี้รอที่รถก่อนนะ เสร็จแล้วจะพา
เดินเล่น

หนูชื่อคุ๊กกี้ เรียบร้อยค่ะ




                                                   ส่วนผม ทาโร่ อยากรู้อยากเห็น

.............เดินไปเริ่มด้านซ้ายมือก่อน กลุ่ม อตก เกษตรกรเอาพืชผักผลไม้มาขาย  คงราคา
ไม่แพงเจ้าแรกเจอพริกสด น่ากินเล่นจังคงเผ็ดดี พริกอ่อนถุง 5 บาท พริกแก่ 10 บาท นึก
ว่าพริกอ่อนจะ แพงคนขายแกบอกพริกเด็ก ๆ ยังไม่ประสีประสาเลยขายถูก งงเลยต้องถามถ้า
ประสีประสามันเป็นยังไง     อ๋อมันก็เป็นพริกสมบูรณ์เผ็ดจ๊าบเลยถุง 10 บาท  มะระขี้นกรึ
เปล่าชี้ไปถามคนขาย แกหัวเราะ รุ่นนี้ต้อง ขี้นกกระสา นกปากห่างแล้ว นี่มันไม่ใช่ เป็นมะระ
ธรรมดา ถามว่าแบบนี้ใช่ไหมเอาไปทำก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ แกบอกแล้วแต่แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว ชอบ
ก็เอาไปทำได้ แต่ขมมากกว่าแบบลูกใหญ่ ๆนะ นั่นผักขมแบบที่ป๊อบอายมันกิน ใช่ไหม... แก
บอกดีกว่าของป๊อบอาย ของเราไม่มีสารพิษ ดีกว่า


.......เดินผ่านมาหลายแผงสินค้าคล้าย ๆกัน ถ่ายรูปให้เฉพาะที่ไม่เหมือนกัน ไม่งั้นจะเยอะไป 
ผักหวานใส่ถุงติดราคา 50 บาท แพงมาก อ๋อมันสอดถุงไข้มดแดงรวมไว้ ไข่มดกิโลละ 350
เลี้ยงเองนะครับ ถ้ามย้ำหลายครั้งเขาบอกมีคอนโดมดแดงในสวนมะม่วง 50 รังแล้ว ต่อไปจะ
ขยายให้เต็มสวน แล้วราคาไข่จะลดไหมล่ะ แกหัวเราะ เรายึดราคาตลาดครับ  เสียดายยายไม่มา
 ไม่งั้นคงซื้อต้นพริก สระแหน่ ตะไคร้ไปปลูก หมาที่บ้านชอบตะไคร้มากจนปลูกยังไงก็ไม่ขึ้น 
มันมากัดกินแทนหญ้า แถมเยี่ยวรด แทนที่จะติดเลยเฉาตายแทน  ตอนแรกยายไม่เชื่อ เลย
บอกให้แกไปยืนเฝ้าตอน ห้าโมงเย็น ตาปล่อย หมามันวิ่งมาที่กระถางกัดกินใบตะไคร้ที่ปลูก
ใหม่ ๆ
 แล้วก็เยี่ยวราดให้ หมา 6 ตัว มันจะได้เยี่ยววันละเกือบครึ่งแก้ว เค็มกว่าปุ๋ยยูเรียกอีก มัน
ใส่
ทุกวันแล้วจะไปเหลือเร้อ
............แล้วสีกากีนี่ลูกอะไร มะพร้าวสุกครับ เออมะม่วงสุกมี ทำไมมะพร้าวจะสุกบ้างไม่ได้
 ลูก 25 บาท
 ครับ ทำของหวานต้องมะพร้าวสุกครับ แหมโฆษณาไม่หยุดเลยนะ
.............แผงนี้มะม่วงเยอะจัง ราคาถูกกว่าในงานมะม่วงอีก เสียดายที่บ้านยังกินไม่หมด ชะอม
เจ้านี้ขายกำละ 5 บาท ของปลอมรึเปล่าขายถูกจัง เธอมองหน้า ปลอมแบบไหน..ตา..มีด้วย
เหรอ  เปล่าหรอกหนู ตาถามดูคนอื่นเขาขาย 10 บาท กำเล็ก ๆเอง แต่หนูกำใหญ่ 5 บาท 
เลยนึกขำว่าชะอมปลอมรึเปล่าทำไมขายถูกจัง เธอหัวเราะได้..บอกว่าหนูปลูกเองเต็มสวนเลย
 ขายถูกก็ไม่ขาดทุนค่ะ  ก็เชื่อเธอแหละ เห็นว่าเอามาเต็มเข่ง เหลือแค่ที่วางบนโต๊ะ   ส่วนไข่
เป็ดไข่ไก่ ก็โฆษณาแนวเดียวกัน ผักสวนหนูปลอดสารพิษนะค้า ไข่เป็ดไข่ไก่ก็ปลอดสารค้า
.....ก็เลยถาม ผักหนูปลูกเองปลอดสารพิษเข้าใจได้  แล้วไข่นี่ล่ะ ..เธอว่าหนูไข่เอง....พูดจบ
เธอก็หัวเราะเอง ตาไปละเดี๋ยวได้เป็นพวกเดียวกัน


.........แม่ค้ากล้วย ติดราคาหวีละ 20....25  เลยเลือกเอาซัก 1 หวี บอกแม่ค้า เอา
กล้วย อี่-ออง 1 หวีจ้าตาชอบกิน ...ไม่มีค่ะ กล้วยอะไรนะคะ...กล้วยอี๋-ออง หรือ อี่-ออง  
อันเดียวกันนั่นแหละ เห็นหันไปถามแม่ แม่ก็ส่ายหน้าไม่รู้จัก  นี่ตาจะป่วนกันรึเปล่ามาถาม
หาอันที่มันไม่มี ก็เลยส่งเงินให้ แล้วหยิบเอง บอกใส่ถุงให้หน่อย บ้านตาเรียกกล้วยอี่ออง อี๋ออง
 พวกเธอเรียกกล้วยน้ำไง พ่อเขา เดินมาอีกคน แก หัวเราะมาแต่ไกลตามาจากไหน พอบอก
จากเมืองเลย แกหัวเราะชอบใจ ผมอยู่ปากชมครับตา มาอยู่นี่แต่สมัยหนุ่ม แม่บ้านเขาคนที่นี่
เลยไม่รู้จักกล้วยอี๋ออง จะเอากล้วยให้อีกหวี  เลยบอกเอาไว้ขายเถอะ หวีเดียวนี่ตากินสามวัน
ก็ไม่หมด
...........จะแกงผักหวานคงต้องซื้อข่าตะไคร้ไปด้วย ราคาก็ปกตินะ  เดินไปมาชักเมื่อย
ขา เลาะไปโซนขายกับข้าว ได้สองสามอย่างก็ไปเก็บของที่ รถ....เอาหมาน้อยสองตัวลงมาเ
ดินเล่น ถนนริมฝั่งคลองนกเยอะมาก พิราบ นกเขา นกกระจอก คนชอบโปรยอาหารให้กิน 
มันเลยบินมารอ เราต้องคอย ระวังเพราะหมาเราเห็นนกเป็นอาหาร แต่นกมันนึกว่าเพื่อน
 ไม่ยอมหลบ เจ้าทาโร่ยิ่งซน ปรี่เข้าหาจะกัด ต้องคอยดึงเชือกไว้ เลยต้องพาหนีไปเดินถนน 
หนุ่มสาวเขาเดินออกกำลังกาย หลายคนแวะมาทักหมาเรา อุ๊ยน่ารัก นะคุณตา มันชื่ออะไร
จนนึกอิจฉาหมามัน กูพามึงมา แต่พวกสาวๆ ทักแต่มึง ..เลยไปเป็นร้านไก่ย่าง ซื้อ
มา สี่ไม้ เดินไปห่างๆ ก่อนค่อยให้หมามันกิน ถ้าแม่ค้าเห็นเดี๋ยวโดนค้อน ว่าซื้อไก่บาบิคิวให้
หมากิน 
แหมหมามันก็ชอบเหมือนคนนั่นแหละ กินแต่เศษแกง มาเที่ยวก็อยากกินที่ดี ๆหน่อย
 อิ่ม
ก็เดินกลับมาขึ้นรถแล้วกลับบ้านกัน ...จะไปทำแกงผักหวานกิน
.......จัดเตรียมพริกแกง เด็ดผัก ล้างก่อน พริกแกงก็พริก 3 เม็ด หอมแดง 3 หัว ข่า 7 ฝาน 
ตะไคร้ 2 หัวหั่นฝอยใส่ครกโขลกให้ละเอียด  น้ำย่านางตั้งไฟใส่พริกแกงลงไปคนให้ทั่ว  ปลาย่าง
ปลาช่อน ฉีกแช่น้ำไว้ ใส่ลงไป  พอน้ำแกงเริ่มร้อนก็เติมน้ำปลาร้า กระปิ หน่อไม้ไฟต้มจืด ทุบ
แตกแล้วถ้วยตวงหนึ่งใส่หมดเลย ตามด้วยเห็ดบดเห็ดฟาง รวมกันได้ถ้วยตวงพอดี น้ำเดือดมาก
แล้ว ราไฟหน่อย ผักหวานเลือกเด็ดเอาเฉพาะที่กินได้เลย ท้ายสุดก็ไข่มดแดง ลูกโดดพริกสด 
7 เม็ด ผักชะอมแมงลัก ปิดไฟได้เลย ชิมและปรุงรส ก็กลายเป็นแกงผักหวานตามจุดประสงค์
เชิงพฤติกรรม แบบที่พวกครูเขาใช้นั่นแหละ คือสังเกตได้ และวัดดูได้ว่าอร่อยขนาดไหน 







แกงผักหวาน มีน้ำยานางเลยออกเขียว



อร่อยดีนะ ทำเอง



วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

คุยกันเรื่องสงกรานต์


ตอนที่ 1
ประกาศสงคราม...หรือสงกรานต์ 
------------------
..........ก่อนอ่านประกาศสงกรานต์ ขอชวนอ่านประกาศผลสงครามช่วง สงกรานต์ที่ผ่านมาให้ดูกันก่อน เป็นช่วง 7-8 วัน ระหว่างสงกรานต์ 11-18 เมษายน ปี 2551 - 2558 ผมค้นหาสถิติคนตายไปพบที่เวบไซท์ ของ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เห็นตัวเลขแล้วอยากเรียกว่าสงครามซะเลย มันดุเดือดจริงๆครับ      เพราะจำนวนคนตายเยอะมาก มาดูกัน (เขาเก็บสถิติแค่ 7 วัน ช่วงวันที่ 11 - 18 เมษายน )
                    -----------------------------------------------------------

                      ปี        11-18เมย  . อุบัติเหตุ     บาดเจ็บ      ตาย 

                    ----------------------------------------------------------

                    2551       7 วัน         4243 ครั้ง       4083        368
                    2552       7 วัน         3977 ครั้ง        4332       373
                    2553       7 วัน         2516 ครั้ง        3802       361
                    2554       7 วัน           3215 ครั้ง       3476      271
                    2555       7 วัน           3129 ครั้ง       3320      320
                    2556       7 วัน          2828 ครั้ง        3040      321
                    2557       7 วัน          2992 ครั้ง        3225      322
                    2558       7 วัน          3373 ครั้ง        3559      364
                    2559      
7 วัน          3379 ครั้ง        3505      380 แก้ไข                     
                    2560       7 วัน          3919 ครั้ง        4128      478 แก้ไข
                    ----------------------------------------------------------
หมายเหตุ เข้าไปดูที่เวบ ได้ข้อมูลปี 2559 และ 2560 มาเติมให้ ส่วนปี 2561 ยังไม่ออกมา            
                    (ที่มา เวบ http://www.accident.or.th/datacenter/)

......ดูจากสถิติ อุบัติเหตุเฉลี่ยตกที่ 3409 ครั้งต่อปี สูงมากปี 2560 เห็นทางการประกาศห้ามนั่งกระบะเที่ยวสงกรานต์ นึกดีใจ แต่สู้แรงต้านไม่ไหว เห็นว่าปล่อยตามเดิมจะลดสถิติอุบัติเหตุคงยาก สถิติบาดเจ็บ เฉลี่ยอยู่ที่ 3600 ปีนี้จะลดได้ซักเท่าไร สถติตาย เฉลี่ยอยู่ 337.5 สูงมาก เอามาแสดงให้ดูเผื่อใครเห็นแล้วเกิดแนวคิด อยากช่วยลดอุบัติเหตุปีนี้ลงบ้าง ทำได้ครับ กำชับลูกหลานให้ดีใช้รถ ใช้ถนนช่วงนี้มันเหมือนสงครามโลกมาก ๆ ปีใหม่ที่ผ่านมา ผมขับรถ ไปร่วมสมรภูมิกับเขา จากปักธงชัย 5 โมงเย็น ส่งลูกสาวที่กรุงเทพ ตอนตี 2 รถมากจริงๆ เจอรถประสบอุบัติเหตุมากจริง ๆ สงกรานต์ ปีนี้เลยของดไปเยี่ยมลูกหลาน คงไปหลังสงกรานต์ดีกว่า เพราะเรา ไม่มีวันหยุด อยากหยุดเมื่อไรก็ได้ จะรีบไปแย่งเดินรถกับเขาทำไม ปล่อยพวกที่เขาต้องทำงาน อยากใช้วันหยุดกลับไปเยี่ยมบ้าน รถ บนถนนก็จะลดลง ท่าน สว ทั้งหลาย ช่วยกันครับ ลูกหลานจะเดิน ทางกลับช่วงสงกราน์ วานบอกเขาหน่อยว่าไม่จำเป็น ไปช่วงหลังกรานต์ ก็ได้ ปลอดภัยกว่า มาช่วงสงกรานต์พ่อแม่ใจหายใจคว่ำว่าพวกมึง จะถึงบ้านสภาพปกติไหม ทุกข์ใจมาก ลองคิดดูน่า ช่วยกันครับ ลดจำนวนรถบนถนนช่วงสงกรานต์ได้ อย่างอื่นก็น่าจะลดลงด้วย 



ตัดตอนที่ 2 
มาแทรก เอาพระลง สรงน้ำพระ 
............เดือนเมษายนมาถึงแล้ว ใกล้สงกรานต์ปีใหม่ มีกิจกรรมหนึ่งที่ชาวพุทธไม่ควรจะลืม คือการเอาพระลงจากหิ้งบูชา แท่นบูชา โต๊ะหมู่บูชา แล้วแต่สถานภาพของพระพระก็มียากดีมีจนเหมือนคนนี่แหละ ดีหน่อยก็มีโต๊ะเก้าอี้ฝังมุกเชียวนะ หรือไม่ก็โต๊ะหมู่ลวดลายสวย ๆ ก็ใช้ได้ ที่มีห้องเป็นสัดส่วน ตามบ้านเรือนหายากหน่อย นอกจากจะเจอ บ้านคนชอบพระจริง ๆ พระที่ฐานะธรรมดา ๆ ก็อาจมีแท่นบูชาหรือหิ้งแขวนบนฝาสูง ๆแต่มีหลายพระเขาแขวนไว้หัวนอน เอาเถอะจะแบบไหนก็ช่างเขาเอาดอกไม้ธูปเทียนมา บูชาบ้างก็ดีแล้ว ตรงนี้แหละที่พูดถึงเอาพระลงมาซะบ้าง ปีละครั้งก็ยังดี เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์นี่ไง เทศกาลเอาพระลงมา จะได้ทำความสะอาด สรงน้ำอบน้ำหอมให้ แต่พระ ผมไม่ต้องรอนานหรอก ดูฝุ่นสกปรกเมื่อไร ผมจัดการทันที ไม่รอหรอก โธ่ คนไม่อาบน้ำ วันเดียวก็เหนียวเหนอะหนะแล้ว เอาพระลงมาสรงน้ำวันไหนก็ได้ ไม่ต้องทางรอวัดหรอก... 
..........จะเอาพระลงมาต้องทำอย่างไร บางคนกลัวนะไม่กล้าแตะกลัวบาป ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก เอาแค่ทำด้วยความเคารพก็พอ สำหรับผมยายมีห้องพระ มีพระพุทธรูปบ้าง รูปเกจิอาจารย์บ้าง เหรียญพระเครื่องเต็มไปหมด ตอนสร้างบ้านจึงกันห้องพระไว้เป็นสัดส่วน ถือเป็นพระมีห้องส่วนตัวว่างั้นเถอะ เวลาจะเอาพระลงมาทำความสะอาด ก็ทำให้ถูกต้อง คือ ขออนุญาต เชิญลงไปอยู่ที่สำหรับสรงน้ำ ขออนุญาตสรงน้ำให้สะอาด แล้วก็เชิญกลับ 
.........ขออนุญาตเคลื่อนย้าย พระเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้าน มีเทพารักษ์ดูแลประจำ จะเคลื่อนย้ายเลยบอกกล่าวขออนุญาตก่อน บอกด้วยภาษาธรรมดา ๆ ก็ได้ สำหรับผมผมใช้ภาษาบาลี เพราะรู้จักจำได้ ผมเตรียมขัน 5 ดอกไม้ธูปเทียนนั่นแหละ มาบูชาแล้วก็สวดบท สัคเคกาเมจรูเป ฯลฯ เป็นการบอกกล่าวเทพาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้รับทราบวันนี้จะขออนุญาตเคลื่อนย้ายพระพุทธรูป เครื่องรางของขลังทั้งมวล ลงไปเพื่อทำความ สะอาดและสรงน้ำอบน้ำหอม ขออย่าได้มีภัยมีเวร แต่จงเกิดสวัสดีมีชัยแก่พวกเราเถิดจบก็ทะยอยนำพระออกไปวางโต๊ะที่เตรียมไว้สรงน้ำ โต๊ะไฟเบอร์แบบพับขาได้สองตัวเต็มพอดี เยอะเอาการ ยายบอกชอบสะสม ยิ่งตอนเป็นหัวหน้าตึกสงฆ์ รู้จักพระที่ท่านเจ็บป่วย มาพักรักษาตัว กลับวัดไปท่านมีโอกาสกลับมาเยี่ยมพระเณรที่เจ็บป่วย มักมีพระมาฝากประจำ เวลาออกเยี่ยมวัด ท่านก็มีพระฝากเรื่อย ที่ตึกก็มีเต็ม บางส่วนก็ขอเป็นส่วนตัวและ เอามาเก็บที่บ้าน สำหรับผมไม่มีพระสะสมหรอก ช่วงยังไม่เกษียณได้บ่อยก็ฝากให้ยายหมดเพราะเห็นว่าชอบ ไม่นึกว่าจะต้องตามมาสรงน้ำหอมให้อีกด้วย 
.........ขออนุญาตสรงน้ำ เมื่อเคลื่อนย้ายเสร็จ ก็เตรียมเครื่องเป่าฝุ่น น้ำยาล้างทำความสะอาด และน้ำหอม ก็ยกสิบนิ้ววันทา บอกล่าวว่าต่อไปนี้กระผมขออนุญาตทำความสะอาดด้วยการเป่าฝุ่นละอองก่อน จะได้ขัดล้างง่าย สุดท้ายถึงจะพรมน้ำอบน้ำหอมให้ ขออย่าได้ 
เป็นบาปกรรม แต่ขอความสวัสดีมีชัยแก่พวกกระผมด้วยเถิด แล้วก็เปิดเครื่องเป่าลมเบา ๆฝุ่นคลุ้งเลย ก็ตั้งอยู่เป็นปี เป่าจนเห็นว่าฝุ่นหมดแล้ว ถึงเริ่มล้างด้วยน้ำ ผมใช้แซมพูผสมน้ำบาง ๆพอได้ฟอง ขันตักราดแปรงขนอ่อน ๆปัดเบา ๆ ทำทีละรูป ๆ ช่วยกันสามคน เกือบเที่ยงถึงล้างเสร็จ แล้วปล่อยไว้ให้แห้ง 
.........พ่นน้ำหอม เอาน้ำหอมจริง ๆ ใส่ขวดสเปรย์พ่น แบบน้ำอบไม่เอา เพราะคราบแป้งทำให้เลอะอีก..พ่นให้ทั่วถึงแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วค่อยเชิญกลับไปเก็บที่เดิม ตอนนี้ปัดกวาดเช็ดถูให้ เรียบร้อย ดีแล้ว แถมเปลี่ยนธูปเทียนเป็นแบบใช้ไฟฟ้า ต่อไปไหว้พระเปิดแอร์ได้ ไม่กลัว สำลักควัน นั่งสมาธิก็ไม่มีกลิ่นรบกวน ห้องพระก็พัฒนาได้นา... เราใช้เอง อันไหนสะดวกก็ จัดเอาเอง 
.........เสร็จเรียบร้อยก็ทดลองไหว้พระสวดมนต์ดู ถ้าไม่มีรูปไหนประท้วงก็โอเคนะ พระประท้วงก็ เช่นตั้งไม่เรียบร้อย เอนหน้าเอนหลังบ้างยังกะเมาหมัดบ้าง บางรูปแทนที่จะนั่งก็พังพาบบ้าง ก็จัดนิมนต์เข้าที่ให้เรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จงาน ไปเที่ยวได้ 555 เสร็จไป 1 งาน



ตอนที่ 3 อ่านประกาศ
.............ดูเรื่องอุบัติเหตุ คนเจ็บคนตายกันแล้ว มาดูเขาประกาศสงกรานต์ปี 2560 กัน มีอะไรน่าสนใจบ้าง


ประกาศสงกรานต์




อ่านประกาศสงกรานต์

.......ปู่ย่าตายายเราท่านมีความรู้เรื่องจักรวาลอันเวิ้งว้างนี้ว่า นอกจาก โลกอันแบน ๆของเรานี้แล้ว ยังมีดวงดาวสำคัญ ๆอีหลายดวง มีดวง อาทิตย์ผู้ทำให้มีกลางวันกลางคืนลีอิทธพลต่สรรพัตว์ทั้งปวง โลก เราหมุนรอบ ๆดวงอาทิตย์ เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปตามแนวสุริยะวิถี (Eclipse) โลกก็ตามไปด้วย เส้นทางเดินก็ผ่านกลุ่มดาวต่าง ๆ ที่ เรียกว่า 12 จักรราศี หรือ 12 นักษัตร มีข้อสังเกตว่า เรามักจะมอง เห็นกลุ่มดาว ทีละ 6 กลุ่ม เพราะเส้นทางโคจรเป็นวงกลม อีกส่วน จะถูกบัง เมื่อดวงอาทิตย์โคจผ่านไปก็จะเห็นดาวกลุ่มใหม่ผ่านเข้า มา ถ้าแบ่งพื้นที่วงกลมเป็นองศา 360 องศา กลุ่มดาวราศี 1 จะมี ความกว้าง 30 องศา ดวงอาทิตย์ใช้เวลาโคจรวันละ 1 องศา 30 วันก็ข้ามเขตกลุ่มดาวราศีไป เลยทำให้เรียกชื่อเดือนกับชื่อกลุ่มดาว สัมพันธ์กัน เช่น ดวงอาทิตย์โคจรผ่านเข้ามาเขตกลุ่มดาวราศีเมษ จะตรงช่วงเดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม ก็ย้ายไปถึงเขตราศี พฤษภ ดังนี้เป็นต้น ราศีที่จดจำกันบ่อยคือ ราศีเมษ เพราะเป็นจุด เริ่มต้นฤดูกาลร้อนแห้งแล้ง ก่อนเข้าสูงฤดูฝนในราศีถัดไป เป็นแบบ นี้ทุกปี เลยเข้าใจว่าราศีเมษนี่เองคือเริ่มต้นปี
.......โหราจารย์กำหนดให้ช่วงเวลาวันแรกที่ดวงอาทิตย์โคจรเข้า เขตราศีเมษ องศาแรก คือวันแรก เป็นวันมหาสงกรานต์ คือการ เคลื่อนย้ายที่ยิ่งใหญ่ ต้องฉลอง วันถัดมา ดวงอาทิตย์เข้ามาเขต ราศีเมษเตมที่แล้วเลยเรียกชื่อ วันเนา วันถัดมาเปปลี่ยนตัวเลขจุศัก ศักราชเป็นปีใหม่สมบูรณ์ได้เลยเรียกว่า วันเถลิงศกขึ้นจุลศักราชใหม่ การโคจรของดวงอาทิตย์เข้าเขตราศีเมษ มักจะตกช่วงใกล้กลางเดือน เมษายนประมาณวันที่ 13-14 เลยมีการประกาศให้ 13 เมษายน เป็น วันสงกรานต์ถาวรเลย ส่วนวันมหาสงกรานต์ต้องให้โหรตรวจสอบกัน ว่าวันเวลาไหนที่ดวงอาทิตย์ย้ายเขาองศาแรกของราศีเมษ วันนั้นแหละ ประกาศเป็น วันมหาสงกรานต์ บ่อยมากตรงกับ 13 เมษายน และบ่อย เหมือนกันตรงกับ 14 เมษายน วันเนาและวันเถลิงศกก็ตามมาติด ๆ ปี 2560 วันสงกรานต์ 13 เมษายน 2560 เป็นวันหยุดไปแล้ว แต่วัน มหาสงกรานต์ตรงกับ 14 เมษายน 2560
 ........เรื่องที่นาสังเกตอีกอย่างคือ นาง สงกรานต์และคำทำนาย เกี่ยวกับลฝฟ้าอากาศความเป็นอยู่ของบ้านเมือง นางสงกรานต์คือคน อยู่เวรประจำวัน อาทิตย์..เสาร์ มี 7 นาง เล่าว่าเป็นธิดาท้าวมหาพรหม ครั้งลงมายังโลกเพื่อท้าทายธรรมปาลกุมารที่เล่าลือว่าฉลาดมาก ขนาด เอาศีรษะเป็นเดิมพัน ปัญหาที่มหาพรหมถามคือ เช้า กลางวันและเย็น ราศีของคนอยูที่ตรงไหน ธรรมปาละกุมารคิดไม่ออกจนท้อใจนึกว่าคง ต้องถวายหัวให้พรหมแน่ จึงออกเป็นเดินเล่นทุ่งนา บังเอิญไปหลับใต้ ต้นตาลมีนกอนทรีย์ผัวเมียทำรังอยู่บนนั้น พวกมันสนทนากัน ......พรุ่งนี้ไม่ต้องไปหากินไกลแล้ว ตัวผู้บอก ตัวเมียถามว่าเพราะอะไร ตัวผู้ว่าเขาพนันกันใครแพ้ตัดหัวบูชาคนชนะ พรหมกับธรรมบาลกุมาร ตัวเมียถามว่าปัญหาอะไรกัน คำตอบว่ายังไง ตัวผู้เลยเฉลยให้ฟัง ธรรมบาลกุมารแกฟังสัตว์พูดคุยกันรู้เรื่อง เลยไปตอบคำถามมหาพรหม ได้ถูกต้อง เช้าราศีอยู่หน้า กลางวันอยู่อก เย็นอยู่เท้า มหาพรหมยอม แพ้ ตัดหัวบูชา หัวมีเดชมากอาจทำให้โลกเดือดร้อนไฟลุกท่วมได้ ให้เอาไปเก็บไว้ที่ถ้ำเขาพระสุเมรุ ถึงสงกรานต์เอาออกมาแห่รอบ ๆ เขาสุเมรุ ตามเวรวันสงกรานต์ตรงวันไหน ใครเข้าเวรวันนั้นก็เอามา แห่ เลยเรียกพวกนางว่า เทพีสงกรานต์ 


ตอนที่ 4 เที่ยวเยี่ยมญาติพี่น้องอยู่ไหน
------------------------
.......... .....เขาประกาศสงกรานต์ไปแล้ว ต่อไปก็หน้าที่เราไปเที่ยวสงกรานต์ ก่อนไปขอเตรียมตัวก่อนว่ามีภาระอะไรบ้างไหมที่ต้องจัดการ ทำให้ เรียบร้อย จะได้เที่ยวด้วยความสบายใจ สิ่งแรกคงเป็นฝากของให้ญาติ พี่น้อง ถือเป็นภาระครับทำทุกปี ไม่ทำก็ไม่สบายใจ ญาติก็ 2 พวก พวกตัวเป็น ๆกับพวกที่ตายไปแล้ว ถึงวันนี้ญาติพี่น้องก็กระจายไปทั่ว จักรวาลแล้วมั้ง อยู่ตรงไหนบ้างล่ะ .....เข้านิพพานไปแล้ว พวกที่เกิดทันพระพุทธเจ้า หลายท่านคงโชค ดีบรรลุอรหันต์ นิพพานไป ก็จบไม่ต้องวิ่งเหมือนพวกเรา ได้แต่อนุโมทนา สาธุไปกับพวกท่าน ที่เหลือบางท่านก็เป็นอริยะบุคคล ระดับอนาคามี สกิทาคามีและโสดาบัน คงกระจายอยู่พรหมโลกบ้าง สวรรค์บ้างแล้ว แต่บุญบารมี ญาติพี่น้องบางท่านติดสมถวิปัสสนา โดยเฉพาะติดใน ณานสมาบัติก็คงแวะอยู่แถวรูปพรหม 16 ชั้น หรือไม่ก็อยู่ไกลหน่อย ที่อรูปพรหม 4 ชั้น มากที่สุดคงเป็นญาติพี่น้องที่ขยันทำบุญทำทาน บุญบารมีส่งผลให้ไปเกิดใน ฉ กามาพจรสวรรค์ 6 ชั้น ต่ำสุดก็จาตุม มหาราชิกา สูงไปก็ดาวดิงส์ ยามา ดุสิตา นิมมานรดี และปรนิมมิตวัตติ ส่วนพวกอยู่มนุสภูมินี่ถือว่ายังมีชีวิติยู่ ก็คงไม่น้อยเหมือนกัน
 ........พวกตกอับบาปมากบุญน้อย ก็ถงเตร่ไปเที่ยวทุคติกัน มี 4 ภพ ภูมิเช่นกัน ดิรัจฉานภูมิ นี่ดีหน่อยที่มองเห็นกันได้กับมนุษย์แต่สื่อสาร กันไม่รู้เรื่อง ถ้าสื่อกันได้อาจมีควายบางตัวเดินมาประท้วงว่ากูเป็น เพื่อนมึงมาก่อนนะ ...ยุ่งตายห่าแลยแหละ อีก 3 ทุคติภูมิก็ อสุรกาย เปรต และนรกเปรตและอสุรกายนี่เล่าว่าอยู่ไม่ห่างไกลมนุษย์ บางที หลงมามนุษย์ภูมิแบบญาติพระเจ้าพิมพิสาร นี่ก็ว่าเปรต ส่วนนรกเห็น เล่าอยู่ไกลมาก หลัก ๆ ก็ แปด หลุม และมีแยกย่อยอีกหลายสิบหลุม เช่น มหานรก 8 อุสสทนรก 8 ยมโลก 10 และโลกันตนรก 1 หลุม
.......ที่เล่ามาคือแหล่งท่องเที่ยวของพวกเราที่เขาเรียกสังสารวัฏฏะ แยกเป็น ทุคติ 4 สุคติ 4 และนิพพาน 1 ท่องเที่ยวไปมาได้ด้วยผล แห่งกรรมที่มีผลต่อการท่องไปมี 2 คือ กุศลกรรมสำหรับจองตั๋วไป ทางสุคติ ส่วนอกุศลกรรมใช้เมื่อจะไปทางทุกคติ ส่วนนิพพานแปลก ต้องละทิ้งหมดกิเลสด้วยบาปบุญด้วย ถึงจะบรรลุโมกขธรรมถึงนิพพาน ครับก็ฟังหลวงพ่อท่านสอนมาแบบนี้แหละ เมื่อญาติพี่น้องกระจายไป ทั่วแบบนี้ ของฝากก็ต้องจัด 2 กลุ่ม สำหรับพวกที่ล่วงลับไปแล้ว ก็ต้อง จัดเตรียมบุญส่งให้ ท่านที่ยังชีพอยู่ก็ไปเยี่ยมด้วยของปัจจัยสี่แหละ บุญกุศลส่งไปทางสุคติ เข้าใจได้ว่าทางสุคติกินบุญกันเป็นส่วนมาก ยกเว้นมนุษย์กินวัตถุดิบบุญ แต่ทุคตินี่ส่งบุญไปให้เอาไปทำอะไร เห็นเล่าว่ายากอยู่ เว้นแต่โชคดีมีโอกาสได้อนุโมทนารับส่วนบุญ บุญ จะช่วยให้ทุกข์ทัณฑ์เบาบางลง โทษสั้นลง แสดงว่าควรส่งบุญนั่นแหละ ให้ทางทุคติ ........ลำบากมากก็คงเป็นดิรัจฉานภูมิเพราะสื่อกันไม่เข้าใจ แต่ก็ทำด้วยการให้รักความเมตตาบางอย่างให้ปัจจัยยังชีพด้วยก็ได้ หว่านๆไป ให้แบบไม่เจาะจง
...........สรุปว่าเตรียมบุญสำหรับญาติพี่น้องส่วนมาก เตรียมข้าวของ สำหรับส่วนน้อย ส่วนมากนี่ง่ายตักบาตรคงไม่พอ ไปบริจาคช่วย กองทุนมูลนิธิแล้วกัน ที่ไหนมีรับบริจาคประเภทนี้ละก็สบายเลย หยอด ตู้เขาซักห้าร้อย พอไหม ไม่พอก็เพิ่มอีก จนคิดว่าได้บุญมากพอ ฮ้า เตรียมบุญสำหรับคนส่วนมากนี่ง่ายดายจริงๆ พันบาทซื้อของตักบาตร ได้เป็นเดือนเลยนะอย่าคิดว่าบุญจะน้อย เหลือเฟือเลยแหละ ได้บุญ แล้วก็ส่งผ่านการแผ่ส่วนบุญครับ สวดมนต์เสร็จก็นั่งแผ่เมตตาซักสิบนาที ทำติดต่อกัน 7 วันก็คิดว่าพอนะ คนที่อยู่นิสัยจะอนุโมทนาได้ คงได้ รับกันหมด คนที่ไม่อยู่ในวิสัยก็จนใจครับ ส่วนพี่นอ้งอีกกลุ่ม เราจะจัด ปัจจัยสี่สำหรับไปเยี่ยมญาติพี่น้องก็จัดหาตามสบายครับ มีขาย    ทุกอยาง ที่เราอยากได้ ได้แล้วก็เดินทางไปเยี่ยมกันตามสบาย สงกรานต์หยุด หลายวันอยู่นี่นา  ช่วงนี้หลายคนคิดตรงกันทำให้รถบนถนนแน่นมากหากไปก่อนหรือหลังสงกรานต์ รถคงไม่มากสะดวกและ
ปลอดภัยมากกว่าครับ



ตอนที่ 5 กิจกรรมที่ควรทำ
             

ไปสรงอัฐิ สรงธาตุ สรงเจดีย์

.......สมัยก่อนนิยมเก็บอัฐิคนที่เคารพนับถือไว้ที่บ้าน ใส่โกฐิไว้ ใส่ขวดหรือแม้แต่ใส่ฐานพระบูชา บางคนก็สร้างเจดีย์ สร้างธาตุ ไว้ที่วัด ที่นาที่สวน ก็จะเก็บไว้ที่ไหนก็ตามสบายครับ แต่ที่ไม่ค่อยสบายคือการดูแลสมกับเป็นสิ่งที่เราเคารพบูชา อยู่ที่บ้านก็ง่ายหน่อยไหว้พระสวดมนต์ก็ถือ โอกาสแผ่บุญกุศลให้ท่านด้วย ส่วนที่อยู่นอกบ้านนาน ๆถึงจะไปดูแล ทำความสะอาดให้ ส่วนการทำบุญชักธาตุ ชักอัฐิ หมายถึงการทำบุญปรารภธาตุหรืออัฐิ ทำได้ไม่ยุ่งยากอะไร
......อัฐิอยู่ที่บ้าน ผมก็จัดพานดอกไม้ที่เรียกขัน 5 มาไหว้พระสวดมนต์ตอนเย็น จบแล้วก็บอกกล่าวไปถึงเทพารักษ์ ว่ากระผมอยากทำบุญกุศลให้แก่คุณตาทวด คุณย่าทวด และอีกหลาย ๆ ท่าน วันพรุ่งนี้เช้าจะทำบุญตักบาตรพระ ตอนสายจะไปทำบุญที่วัด เสร็จจากที่วัดจะไปทำบุญที่โรงพยาบาล ขอความเมตตาจากทวยเทพได้แจ้งสาร ให้ญาติ ๆ ของกระผมได้รับทราบ และโปรดได้ไปอนุโมทนารับส่วนบุญโดยทั่วถึงกันด้วย ผมบอกล่วงหน้าเกรงจะสื่อสารไม่ทั่วถึง....เช้าวันถัดมาก็ไปตักบาตรหน้าบ้าน พระสัก 9 รูปพอ เพราะจะไปจังหันที่วัดอีก วัดที่บ้านผมรู้จักดี ไปโรงครัว ยก
กับข้าวให้แม่ครัว เขาจัดแบ่งใส่สำรับถวายพระเณรรูปละ ชุด พระที่วัด 70 รูป เอง มีคนไปช่วยแบบเราแต่ละวันหลายรายแม่ครัวบอกสบายมาก จัดให้จากนั้นก็แวะไปกราบพระอาจารย์บนศาลา ท่านมักลงมาก่อนเพื่อดูแลความเรียบร้อย ไม่นานเคาะระฆังพระเณรลงมาเต็มศาลา ช่วยประเคนสำรับแล้วนั่งดูพระฉัน จนเสร็จกิจของท่านก็รับพร อุทิศส่วนบุญให้ญาติพี่น้องไป
........ชักธาตุ เจดีย์ ส่งลูกหลานไปทำความสะอาดธาตุหรือเจดีย์เพราะไม่ค่อยได้มาบ่อย หญ้า คราบสกปรก ต้องการแรงงาน 3 คน ไปดูแล้วมาบอกว่าต้องการทาสีด้วยไหม ต้องเรียบร้อยก่อน 1 วัน ค่าแรงคนละ 200ทำไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ ถ้าทาสีด้วยก็เพิ่มเป็น 300 บาท เราเองก็เตรียมของทำบุญถวายพระ 4 รูป ดอกไม้ธูปเทียน สายสิญจน์ น้ำอบน้ำหอม...ชวนลูกหลานไป เห็นมากันทั้งโคตรเลยแหละอยากดูว่าทำแบบไหน มาเห็นเจีดย์ใหม่เอี่ยมดีใจกันมาก ให้คนหนึ่งไปนิมนต์พระมาชักธาตุ 4 รูปที่เหลือเอากระดูกออกมาพรมน้ำหอมแล้วผึ่งลมไว้ พระมาก็กราบเรียนให้พระทราบว่ามาสรงเจดีย์ของใคร แล้วนิมนต์ท่านสวดได้เลย บางหลวงพ่อไม่ยอมอย่างย่อให้ทำเต็มรูป ตอนนี้ดอกไม้ธูปเทียนบางบูชารอบเจดีย์แล้วก็แค่สวดมนต์ไหว้พระรับศีล จบศีลหลวงพ่อก็ เรียกเอาสายสิญจ์แล้วก็
สวด อนิจจา วตสังขาราอุปาทาวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ สังวูปสโม สุโข 3 จบ ถวายจตุปัจจัยที่เตรียมมา พระก็ให้พร เราก็กรวดน้ำอุทิศกุศลญาติที่บอกกล่าวไว้ก็มาร่วมอนุโมทนา จบการสวดชักธาตุ เก็บอัฐิเข้าที่เดิม เก็บขยะและกลับบ้านได้
...........ไปบ้านก็ทำบุญอีก เพราะสั่งทำน้ำยาขนมจีนไว้ 3 ชุด น้ำยาปลาน้ำยาไก่ น้ำยาเนื้อหมูบด ส่วนเส้นเราติดรถมา 15 กิโลกรัม ผักกับขนมจีนพวกลูกหลานมาหามากันทั้งเด็กผู้ใหญ่เสียบุญให้เราแลกขนมจีน เอาให้จุใจ ช่วงสงกรานต์มันโทรมาทวงว่าปีนี้พาไปชักธาตุอีกนะ พ่อใหญ่ พ่อตา พ่อปู่ น้า อา ก็เราคนเดียวนั่นแหละ ลูกหลานมันเรียกขานต่างกันไป ปีนี้บอกแล้วว่าไปล่ากลัวรถติดสงกรานต์
........ก็จบได้แล้วมั้งชักธาตุ ลูกหลานใครอยากทำก็ลองชวนกันไปทำดูรับรองเป็นบุญกุศลแน่นอน ไม่มีบาปหรอก รับรอง




(อ้อภาพประกอบจากกูเกิลครับ)

3. สรงน้ำคนที่เราเคารพนับถือ


4. ท่องเที่ยว พักผอน









อ่