วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

1. ป้าทุมกำแพงเพชร







ไปเยี่ยมพี่สาวที่กำแพงเพชร
.......30 ธันวาคม 2559 -2 มค.2560 ลูกสาว คุณสาวิตรี ศรีประจง ได้หยุด 4 วัน เลยชวนให้ไปเยี่ยมป้า จุดแรก ไปที่กำแพงเพชร ป้าทุม หอมจันทร์(เดิมสกุลศรีประจง) จุดที่ 2 ที่อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัว ลำภู ป้าพุด ศรีประจง อยู่บ้านหนองลุมพุก หยุด 4 วันน่าจะไปเยี่ยมได้ ตกลงไปกัน ถามแม่บ้านคุณธนัญธร ให้เอารถใหญ่ไป จะเอาหมาน้อยสองตัวไปด้วย คุณคุกกี้ คุณทาโร่ ก็เลยหาของฝากให้พร้อมแล้วจะเดินทางวันที่ 30 ธันวาคม 2559
........เช้ามืดเราออกเดินทางประมาณตีสี่ ตาขับรถเอง ออกไปทางถนนสุวินทวงศ์ ดึกขนาดนี้ถนนคงไม่แน่น ใช่จริง ถนนโล่งขับสบาย ๆ ตีห้าเศษก็ถึงบ้านพักหมู รับลูกแล้วก็ออกเดินทาง วางแผนไว้จะไปถนนเส้น 340 ผ่านสุพรรณ สามชุก ชัยนาท แต่พอขึ้นทางด่วนปรากฎว่าถนนไม่แน่น รถไม่มาก เลยไปเส้นถนนเอเซีย คุณหมูอยากขับ แต่เห็นง่วงอยู่เลยให้พักก่อน ตาขับไปเรื่อย ๆ มีรถประสบอุบัติเหตุ สองสามราย ไม่เสียเวลาเพราะเขากันรถออกจากจุด เกิดเหตุไม่ให้ไปมุงดู ส่วนมากเป็นเฉี่ยวชน คงเพราะง่วง บนถนนรถไม่แน่นเลยพอวิ่งได้ 100-120 เราก็ไปเรื่อย ๆ ไม่เห็นอะไรหรอกยังเช้ามืดอยู่ จนเข้าเขตจังหวัดนครสวรรค์ แวะปั้มข้างทาง เห็นร้านขายต้มเลือดหมู ข้าวราดแกง ก็ไปลองอร่อยใช้ได้ ไม่แพง อ้อได้ปล่อยหมาน้อยลงไปเยี่ยวบ้าง มันนั่งมานาน
........สว่างแล้วรถเริ่มแน่นถนน เราออกจากที่หยุดพัก มาเห็นแผงขายปลาแดดเดียว ปลาช่อน ปลานิล ปลาตะเพียน ยายสงสัย ทำไมมีปลาแดดเดียว ถามแม่ค้าบอกมีคนเขาทำมาส่ง นครสวรรค์มีแม่น้ำมารวมกันหลายสาย ปลาชุม แต่ยังราคาแพงอยู่ เพราะคนกินมากกว่าคนหาปลา ยายซื้อไปฝากญาติพี่น้องได้ปลากล่องใหญ่ แล้วก็เดินทางต่อ ช่วง นี้หมูน้อยอาสาขับให้ไม่ง่วงแล้ว โถพระอาทิตย์ขึ้นแล้วจะไปง่วงทำไม ขับก็ขับ ได้เลย
........ยายถามว่าหมูขับได้เหรอ เห็นขับแต่แจสคันเล็ก ๆ ขับรถใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง เราก็ขำ ๆนะ ยายคงลืมไปแล้ว ว่าตอนหัดขับรถใหม่ ๆ เราให้ใช้คันนี้หัดขับจนไปสอบใบขับขี่ได้ มาขับวันนี้จะไปแปลกอะไร หมูคุ้นรถเราอยู่ แล้วก็เลยไม่มีปัญหา ปัญหาน่าจะมาจากถนนรถแน่นไหม ปรากฏว่าถนนว่าง ขับสบายถึงทางเลี่ยงเมืองมีป้ายบอก ไปกำแพงเพชร ดูเนวิเกเตอร์ก็ขี้เส้นสีชมพูให้เลี้ยวซ้าย ไม่มีเสียงบอก หมู ถามว่าทำไม เมื่อก่อนพูดบอกทางเสมอ ก็บอกว่าปิดไว้เพราะมันพูดดังจนหนวกหู เลยเปิดให้ฟังเสียง หมูบอกเสียงดังไป ปิดไว้ดีแล้วพ่อ ดูหน้าจอเอา เก่งนะวิ่งเกือบ 100 กม./ชม. ประมาณสองโมงเช้าก็ถึงกำแพงเพชร ถามเนวิเกเตอร์ รีสอร์ทที่จองไว้อยู่ตรงไหน มันขึ้นแผนที่ให้ ดูเลย หมูถามว่ามันบอกได้ขนาดนี้เลยหรือพ่อ อ๋อมันไม่รู้หรอก มันนึกว่าเราถามแผนที่มันเลยบอกอยู่ตรงไหน ขีดเส้นให้ดูด้วย เลยพาเข้าที่พักก่อน ทางรีสอร์บอกห้องพักว่าง เอาของไปเก็บไว้ก่อนได้ บ่าย ๆ ค่อยกลับมา รีสอร์ท อยู่ริมฝั่งน้ำปิง ใกล้ราชภัฏกำแพงเพชร มาพักแถวนี้บ่อย ถนนเส้นนี้มีที่พักหลายสิบแห่ง เสร็จธุระเรื่องที่พัก ก็จะออก ไปเยี่ยมป้า
........บ้านป้าอยู่ไหนพ่อ หมูน้อยถาม เลยกดเนวิเกเตอร์ให้ดู บ้านหนองกองเหนือ ตำบลนาบ่อคำ ยี่สิบกว่ากิโล เมตร ขับรถคงไม่ถึงสามสิบนาที หมูหัวเราะบอกไปตามเส้นสีชมพูนี่แหละพ่อสบายมาก กำแพงเพชรวันนี้เป็นเมือง ท่องเที่ยว มีโบราณสถานได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เช้าอยู่ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก ถนนหนทางก็ว่างดี วิ่งรถมาไม่ถึงสิบนาทีจากตัวเมืองมุ่งไปนาบ่อคำ ผ่านแผงส้มตำนึกเปรี้ยวปากเลยแวะไปคุยกับสาวแม่ค้า จนได้ข้อมูลว่า ตำได้หลายสูตร ปูปลาร้า ตำไทย ตำทะเล ตำป่า ตำถาด ได้หมด ก็เลยแซวว่า ตำแบบคนแก่ให้หน่อย ตา 72 ขวบ แกหัวเราะย้อนถามว่าตำแบบไหน พริก 2 เม็ด กระเทียมสามกลีบ มะเขือเทศเล็กนี่ 5 ลูก มะขามมะนาวไม่เอา ปูเค็มไม่เอา น้ำตาลไม่เอา ปลาร้า 2 ช้อน อ้อเธอมีมะกอกขอครึ่งลูกนะ ชูรสใส่ได้นิดหน่อย น้ำปลาชิมก่อนค่อยเติม สาวงง ๆ ทำเสร็จแล้วชิมส่ายหน้า หนูไม่เคยตำสูตรนี้ เราชิมให้เติมน้ำปลานิดหน่อยก็จบ ใส่ถุงจะเอาไปกินบ้านป้า มีไก่ย่างด้วย ขอแบบส้นตีนล้วน ๆ สาวมองหน้าถามว่ากินได้หรือคะตา ได้สิหนูถึงฟันไม่ดีแต่มีตัวช่วยนะ อะไรหรือ คะ อ๋อ บนรถมีหมาน้อยสองตัว มันชอบย่างกระดูกขาไก่ ตาแทะนิดหน่อยที่เหลือปล่อยพวกมันจัดการ เธอหัวเราะ จัดมาให้ 5 ไม้ 50 บาท
.........หลานสาวโทร.ถามว่าถึงไหนแล้ว เลยแกล้งบอกว่า กำลังหาทางเข้าบ้านป้าอยู่ อ้าวมาหลายครั้งจำไม่ได้หรือ เขาเลยอธิบายใหญ่เลย ที่จริงเรานั่งอยู่กับป้าทุมแล้วแหละ เห็นหลานสาวมันไม่อยู่บ้านให้เรามาเก้อก็เลยแกล้งมัน ป้าทุมปีนี้ 80 ขวบแล้ว แก่กว่าเรา 8 ปี สุขภาพก็ร่วงโรยไปตามอายุขัย เห็นตู้ซักผ้าใหม่แกะกล่องวางอยู่ เลยถาม ว่าเอามาจากไหน ป้าบอกลูกสาวเอามาลงให้ อ้าวใครคนไหน แก่ปูนนี้มันจะให้แม่ซักผ้าให้หรือ ป้าหัวเราะบอกว่าเปล่า เขาเห็นเราใส่เสื้อผ้าเก่า ๆไม่สะอาด คงนึกว่าเราไม่ค่อยซักผ้า เลยหาเครื่องซักมาให้ ใช้เป็นไหมล่ะ ป้าว่าเขาสอน พี่ชายถึงวิธีใช้คงรู้กันแล้ว ก็เข้าใจ ถามหาของกิน แกยกออกมามี น้ำพริก ทอดเขียดแดดเดียว ทอดปลาส้ม ส้มตำ เราก็เอาของกินที่เตรียมมาออกมาวางบ้างแล้วก็กินข้าวเที่ยงกัน แต่ป้าไม่กินด้วยบอกอิ่มแล้ว เห็นแกมาเยี่ยมฉันกิน ไม่ลง มันอิ่มแล้ว อร่อยนะของกินแบบเดิม ๆ สมัยเด็กป้าทุมเขาทำแจ่วบอง ต้มผัก ให้กินก่อนไปโรงเรียนบ่อย ๆบางวันก็มีกบ เขียด กะปอม ไข่ต้ม วันนี้ได้ชิมฝีมือป้า
.........ทานข้าวเสร็จก็ถามข่าวสุขทุกข์กัน ยายธนัญธร มีศักดิ์เป็นน้องสะใภ้นะ ก็คุยกันได้ดีเพราะมาหลายครั้งแล้ว กับหมูน้อยก็คุยกันได้เรื่องได้ราวมาครั้งที่สี่แล้ว เสร็จทักทายกันพอสมควรก็จัดพิธีบังสุกุลเป็นให้ป้าทุม บอกแกว่า ทำตอนป้ามีชีวิตอยู่นี่แหละ จะได้รู้ว่าเอาอะไรมาทำบุญบ้าง เสื้อกันหนาวก็หลายผืนนะ ใส่เองก็ได้ ให้ลูกหลานก็ได้ มีเสื้อใส่เล่นไว้แจกลูกหลานอีก ส่วนในซองปัจจัย 1000 บาท สำหรับไว้ซื้อของกิน ซื้อยากินยามไม่สบาย พวกเรามาเยี่ยมโอกาสปีใหม่ มาขอสมมาคาระวะ ของโทษขออภัยหากเคยล่วงเกินด้วยกายวาจาใจ ก็อโหสิกรรม ให้พวกเราด้วย และโอกาสนี้พวกเราขอตั้งความปรารถนาดี วานสิ่งศักด์สิทธิ์ช่วยบันดาลให้ป้ามีแต่ความสุขความเจริญปลอดจากโรคภัย ขอให้แข็งแรงอายุมั่นขวัญยืน อยู่กับลูกหลานนาน ๆ สาธุ ป้าแกก็ให้ศึลให้พรเราบ้าง จบการเยี่ยม ป้าทุม เวลาที่เหลือจะพากันไปชมอุทธยานประวัติศาสตร์ ยายต้องเฝ้าบ้าน ลูกหลานไม่อยู่ซักคน ก็เลยไปกันเอง
...........อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อ 12 ธันวาคม 2534 ข้อมูลทราบว่าทาง องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัย ชื่อว่า"เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (Historic Town of Sukhothai and Associated Historic Towns)" มีสถานที่สำคัญ ๆ หลายรายการเช่น สระมน พิพิธภันฑ์ ศาลพระอิศวร วัดพระแก้ว วัดพระธาตุ วัดพระสี่อิริยาบถ และวัดช้างรอบเป็นต้น ตาเองเคยมาหลายครั้งแล้ว มากับหมูน้อยครั้งหนึ่ง ส่วนยายธนัญธรบอกปวดขาไม่อยากเดิน มาก เลยชวนเข้าไปชมพิพิธภันฑ์ ก่อนค่อยนั่งรถชมทั่วบริเวณ
...........ภาพ รูปปั้น สิ่งของ สมัยโบราณที่นำมาจัดแสดงล้วนน่าสนใจ เจ้าหน้าที่บอกว่า ส่วนมากเป็นของที่ได้จาก พื้นที่ มีทั้งที่ขุดพบเองและชาวกำแพงเพชรนำมามอบให้ มีทั้งพวกปูนปั้น ดินเผา โลหะ เดิมเป็นส่วนประกอบของร รูปปั้น เจดีย์ วิหาร เทวรูป พระพุทธรูป เครื่องมือ ของใช้ และอาวุธ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคนสมัยโบราณ ถ่ายภาพไว้ค่อนข้างมาก น่าสนใจทั้งน้ัน
...........นั่งรถชมบริเวณอุทธยานประวัติศาสตร์ ชมพระพุทธรูปปางยืน ปางนั่งและปางนอน ขาดไปปางเดิน ก็มัน ทำยากนี่นา ถ้าเป็นวีดีโอ ก็พอไหวนะยาย ตรงนี้เขาเรียกวัดพระสี่อิริยาบถ ดูความยิ่งใหญ่ของคนสร้างต่างหาก อีกวัดชื่อวัดพระแก้ว เหลือแต่ซากปรักหักพัง มีพระพุทธรูป เจดีย์ เสาก่ออิฐ ให้เห็นเป็นร่องรอยความสามารถของ ช่างสมัยโบราณ อ่านดูประวัติเป็นเล่าว่าพระแก้วมรกตเคยถูกอัญเชิญมาประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดนี้ จึงได้ชื่อวัด พระแก้ว ก่อนที่จะถูกนำไปประดิษฐานที่เชียงราย สิ่งของมีค่ามากถูกนำไปไว้หลายแห่ง เคยไปเที่ยวเวียงจันทร์ มีชื่อวัดพระแก้ว ที่พระแก้วมรกตเคยอยู่ที่นั่น เห็นว่าเป็นองค์เดียวกัน วัดช้างรอบ มีเจดีย์ใหญ่ที่เหลือแต่ฐาน มี กำแพงช้างรายรอบเป็นรูปหัวช้างยืนหันหน้าออก เลยเห็นแค่สองขาหน้า อ่านคู่มือเห็นบอก 68 เชือก ไม่เคยนับนะ ดูแล้วก็ชื่นชมความพยายามของคนสมัยนั้น ช่างอดทนทำได้ยิ่งใหญ่จริง ๆ
.........เหนื่อยกันแล้วก็พากลับ ไปหาซื้อกับข้าวในตลาดไปทานที่รีสอร์ท ทางรีสอร์มาบอกให้ย้ายไปพักด้านหลัง เพราะมีสุนัขมาด้วย แต่ยังไม่ทันได้ย้าย คุณทาโรไปฉี่ใส่ผ้าเช็ดเท้าเขาก่อน เลยตกลงให้พักตามเดิม เราจองไว้สอง ห้อง ก็สะดวกดี บรรยากาศเงียบสงบ อากาศดี แต่มีหมาไปเยี่ยวใส่ก่อน ยายขอโทษเจ้าของรีสอร์ทเขา ความจริง เรามีกล่องหมานอนมาด้วย แต่ยังไม่ทันได้กาง เราทานอาหารเสร็จก็แยกกันเข้านอน ตกดึกหมูน้อยไอถี่ ๆ เลยพาไป โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ 1.4 กม.เอง ได้ยามากิน กลับมาที่พักก็ตีสี่แล้ว เลยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมเดินทางไป จังหวัดเลย ขนกระเป๋าใส่รถไว้ ให้หมาน้อยเฝ้าบนรถ ตายืนข้างประตูด้านขวา ยายกับน้องหมูไปแจ้งทางเจ้าหน้าที่ มาตรวจความเรียบร้อยห้องพัก เพราะเราจะเดินทางตอนเช้า เขามาตรวจแล้วกลับไปนอน ไม่บอกซักคำว่าเรียบร้อย หรือมีปัญหาอะไร ยายชวนหมูไปถาม กลับมาจะออกรถ หมาน้อยหายไปทั้งสองตัว ยายตกใจวิ่งหากันใหญ่ แถมว่า เราไม่ดูหมาอีก เลยจีบปากส่งเสียงเรียก เดี๋ยวเดียวเจ้าทาโร่วิ่งมาหา พออุ้มมันจะเลียปากให้ได้ บ้าจริง ตูเห็นนะ
ทาโร่ แกดมตูดคุกกี้มาหยก ๆ จะมาเลียปากกันได้ไง ยายหัวร่อ ได้มาครบแล้วก็ออกเดินทาง ตีสี่ครึ่ง หมูน้อยหาว หวอด ๆ ไม่ได้นอนมั่วแต่ไอ เลยให้นั่งหลับไปก่อน พ่อจะขับให้ตื่นแล้วค่อยมาเปลี่ยนกัน











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น