วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

4.แวะเยี่ยมป้าเพชร บ้านไร่พวย...40




4. ป้าเพชร ศิริหล้า บ้านไร่พวย
..........พ่อตาผมเป็นครูโรงเรียนประจำจังหวัดเลย แกเรียนจบ ป.ม.จากกรุงเทพสมัยโน้น ดังมาก สอนคณิตศาสตร์ เชียวนา นายคูณ สิริหล้า แม่ยายชื่อ วรรณดี สิริหล้า มีน้องชายน้องสาวมากมายหลายคน จัดเป็นตระกูลใหญ่ใน จังหวัดเลยทีเดียว พ่อตามีบุตรชายสองบุตรสาวสอง ดังนี้
...........1. นายอารีย์ ศิริหล้า แต่งงานกัน นางเพชร ศิริหล้า (ที่ผมเรียกป้าเพชรบ้านไร่พวย)
...........2. นายสุระ ศิริหล้า แต่งงานกับนางสมานลักษณ์ ศิริหล้า
...........3. นางบุญเจือ ศิริหล้า แต่งงานกับ นายอุดม ชุมพล
...........4. นางกาญจนา ศิริหล้า แต่งานกับนายขุนทอง ศรีประจง
............ลุงอารีย์เป็นครู ลุงสุระเป็นช่างไฟฟ้า ทั้งสองเสียชีวิตนานแล้ว คนที่ 4 ครูกาญจนา นี่ก็เสียชีวิตแล้ว ผมเป็นคนจัดการงานศพให้เขาเอง รวมทั้งดูแลลูกสาวสองคนลูกชาย 1 คน ให้คุณกาญขนาด้วย เพราะเป็นภรรยา กระผมเอง ตอนนี้เหลือ ป้าเพชร ป้าสมานลักษณ์ และป้าบุญเจือ ป้าบุญเจือได้พบกันแล้วที่บ้าน เพราะแกเก็บกุญแจ บ้านไว้ให้ สวัสดีปีใหม่ด้วยเสื้อกันหนาวไป 1 ชุด วันที่ 2 มกราคม 2560 พวกเราจะเดินทางกลับกัน พอดี ผ่านบ้านไร่พวย เลยอยากแวะสวัสดีปีใหม่ป้าบ้าง
............ป้าเพชรเป็นสะใภ้ใหญ่ มีลูกหลายคน ส่วนมากมีครอบครัวแยกย้ายกันไป ที่อยูใกล้และดูแลป้าตลอดคือ ลูกสาว ครูติ๋ว ผมรู้จักป้าเพชร เพราะตอนตามจีบครูแก้ว เขาพักอยู่บ้านป้าเพชร แถมสอนโรงเรียนบ้านไร่พวยที่มี ครูใหญ่คือ นายอารีย์ ศิริหล้า เคยมาเยี่ยมป้าบ่อย มาทีไรก็จับปลาในบ่อข้างบ้านต้มยำให้กินประจำ ก็คุ้นเคยกันดี จนได้แต่งกับน้องสาวเขาครูแก้ว กาญจนา สิริหล้านั่นแหละ เลยกลายเป็นญาติกันอัตโนมัติ ป้าเป็นคนใจดี พูดเก่ง ลูกชายแกก็ดีทุกคน แต่ไม่ค่อยได้เห้น ส่วนลูกสาวครูติ๋ว ไปเรียนหนังสือที่เมืองเลย พักอยู่กับพวกเรา ก็เหมือนพี่น้องกัน ผ่านไปผ่านมาก็แวะถามข่าวสุขทุกข์เสมอ
...........วันนี้ผ่านมาเลยแวะไปสวัสดีปีใหม่ป้า แกนั่งอยู่คนเดียวเลยเขาไปทักทาย เอาของฝากมอบให้ ขอศีลขอพร ถ่ายรูปแล้วก็อำลา ป้าบอกให้แวะครูติ๋วด้วย ขับรถออกมาก็เป็นบ้านครูติ๋ว อยู่ตรงข้ามติดถนน เห็นบ้านเปิดอยู่ มีรถ จอดสองสามคัน มีลูกโป่งห้อยระโยงระยาง แสดงว่าคืนผ่านมาจัดงานฉลองปีใหม่กัน ครูนองสามีครูติ๋วบอกว่าเกษียณ สองปีแล้วนะตา เขาเรียกเราตาเชียว ก็ใช่เรามีศักดิ์เป็นน้องเขยพ่อตาแม่ยายเขา ครูมีลูกสาวสองคน เปิล กับบุ๋มบิ๋ม พี่เป็นครูเหมือนพ่อแม่ น้องเป็นพยาบาล โชคดีไม่มีปัญหาการเลี้ยงลูก นี่ก็เห็นพากันมาสวัสดีปีใหม่พ่อแม่พร้อม หน้าพร้อมตา อ้อเขามีเขย 1 คนแล้ว ก็ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ สมกับที่เป็นคนดีของพ่อแม่ ผลดีคงตอบ สนองให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป ทักทายกันแล้วก็ถ่ายภาพ ร่วมกัน สมควรแก่เวลาก็ลาจาก 



............ลูกสาวขับรถให้ไม่นานก็ถึงผานกเค้าทางเข้าเมืองเลย หมอกคลุมบาง ๆเลยถ่ายรูปไว้ดูเล่น แวะเข้าห้องน้ำ ซักหน่อยค่อยไปต่อ ถนนช่วงนี้โล่งดี พวกสวนมาก็ไม่ค่อยมีเลยขับรถกันตามสบาย เข้าดงลาน บ้านหัน ชุมแพ ไปตาม ลำดับ เลี้ยวซ้ายไปภูเขียว ยังเป็นทางหลวงหมายเลข 201 แปลกดีนึกว่าหายไปแล้ว ความจริงมันไปสิ้นสุดโน่น ถนน มิตรภาพสีคิ้วช่วงออกจากชุมแพ รถชักหนาแน่น แต่วิง 80-100 ได้ ก็ตามกันไป มาตกใจก็ถึงถนนมิตรภาพนี่เอง เดิมว่าจะไปทางสระบุรี เห็นรถบนถนนมิตรภาพแน่นมาก เลยเปลี่ยนใจจะไปทางปักธงชัย ออกกบินทร์บุรี เพราะขา มาเรามาทางถนนเอเซีย อยุธยาโน่น จึงไม่ทราบ ถนนสาย 304 มีการทำสะพานช่วง ทับลาน อำเภอนาดี ก็เลยถูก หวยอย่างจัง เริ่มติดตั้งแต่เข้าเขาใหญ่ นึกว่ารถติดธรรมดา ที่ไหนได้ ห้าทุ่มก็ยังไม่พ้นเข้าใหญ่ จึงบันทึกเอาไว้ว่า
ทัวร์มหาวิบาก และอัพลงเฟสไปแล้ว จะตัดทอนมาเฉพาะ ที่ต่อเนื่อง หลังจากแวะปั้มน้ำมันใกล้แยกปักธงชัย ดังนี้...
.........แวะปั้มน้ำมันใกล้สี่แยกปักธงชัย เติมน้ำมันแล้วก็เปลี่ยนให้ลูกสาวขับ ตอนแรกรถไม่แน่นนะ วิ่ง 80 พอไปได้ แต่พอถึงปั้มสุดท้ายก่อนขึ้นเขาใหญ่ สมาชิกสมทบมากันแบบมืดฟ้ามัวดิน ความเร็วรถลดฮวบจนไม่ต้องรีบร้อน มาถึง วังน้ำเขียวดูเวลาอ้าวสองทุ่มแล้วปกติ ชั่วโมงเศษก็ผ่านเขาใหญ่ได้ นี่เราเสียเวลาไปแล้ว 5ชั่วโมงได้ครึ่งทางบนเขา ใหญ่ แวะที่พักปั้มน้ำมัน หาของกิน เสียเวลาซัก 10 นาทีก็ออกคลานต่อ เขาแบ่งถนนให้รถวิ่งลงเขา 3 ช่อง แต่ก็วิ่งได้ ความเร็วเท่ากับเดินแต่เอ....เดินน่าจะเร็วกว่าสงสัยเหมือนกันว่าทำไม 3 ช่อง มันย้งช้าอยู่
.........สามทุ่มเข้าเขตอำเภอนาดี ทับลาน คราวนี้สุดยอดยังกะทางวิบาก เราเปลี่ยนคนขับมาขับเอง เห็นข้างถนนรถ จอดเพราะเบรคไหม้บ้าง เพราะหม้อน้ำเดือดบ้างเราก็หวาดเสียวเหมือนกัน ออกมาแต่หกโมงเช้าจนสามทุ่มนี่มัน 15 ชั่วโมงแล้วดีใจนะว่าคงจะหลุดเขาใหญ่ในอีกไม่นาน แต่ผิดมันขยับยากจริง ๆ เลยแวะที่พักข้างทาง ปั้มใหญ่ ๆ ที่ดู เหมือนปราสาทฝรั่งนั่นแหละ ขอนอนซักงีบเถอะ พักได้ยี่สิบนาทีนอนไม่หลับ ขอไปต่อ ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว ถนนเขากำลัง เวียนเทียนทั้งถนนไฟแบบคนเวียนเทียนเต็มถนน รถไม่มีคันไหนวิ่งมีแต่คลาน เห็นรถซิ่งป้ายแดงหลายคันนะแต่ ซิ่งไม่ออก 



...........ช่วงลงเขาใหญ่ก็เจอตัวปัญหาที่ทำให้รถลงเขาสามช่อง ไม่ยอมวิ่งเอาแต่คลาน เพราะเขากำลังสร้างสะพาน ขนาดใหญ่ รถที่มาสามช่อง ตอนนี้ต้องบีบเหลือช่องเดียว แถมยังต้องค่อย ๆคลาน ระวังวัสดุก่อสร้าง เต็มถนน ตรงนี้ เองที่ทำให้รถติดยาวไปจนถึงปักธงชัย หลุดออกมาได้ ก็ได้วิ่งรถซะที ดูนาฬิกา เออห้าทุ่มแล้ว รถยังแน่นถนนอยู่ แต่ วิ่ง 50-60 ได้ ถึงกบินทร์บุรีเลยเลี้ยวขวาเข้าถนนสาย 33 ไปปราจีน นครนายก คิดถึงเพื่อน ๆ ทีขับรถวิบากบนเขา ใหญ่จังเลย สาย33 มันเปลี่ยวมาก ไม่มีรถมาแย่งใช้ถนนเลย เลยเหยียบ 120 กม./ชม. จนถึงศาลพระนเรศวร ปราจีนบุรี ตรงวงเวียนทางขึ้นเขาใหญ่ค่อยปล่อยให้ลูกสาวขับ
..........วิ่งบนถนนสาย 33 ไม่ถึงชั่วโมงก็มาชนถนนกาญจนาภิเษก ขึ้นที่ด่านธัญญบุรี สงสัยง่วงมาก ลูกสาวปลุกอีกที อยู่หน้าบ้าน เขาที่หมู่บ้านภัสสร จตุโชติเวลาตีสองพอดี จากนั้นก็กลับบ้านที่แปดริ้ว ขึ้นทางด่วนที่สุขาภิบาล 5 ไปทางถนนหมาย เลข 9 ผ่านด่านทับช้าง รถกลับจากไปเที่ยว มากเหมือนกัน แต่เห็นวิ่ง100 + ได้ ก็ตามเขาไป สาวด่านพากันหลบ หน้าไปหมด ไม่มีคนเก็บค่าธรรมเนียมเหงา ๆ นะ ยายนั่งมาด้วยก็หลับ หมาน้อยทาโร่ คุกกี้ สองตัว ก็หลับ ถึงบ้าน ที่แปดริ้วเมื่อเวลาตีสาม ยี่สิบนาที รวมเวลาเดินทางวันนี้ กลางวัน 12 ชั่วโมง กลางคืนอีก 9 ชั่วโมง เป็น 21 ชั่วโมง ทาง 500 กม.เศษ มหาวิบากจริง ๆ
.........ตอนนั่งเขียนนี้ เวลา 8.00 น. วันที่ 3 มกราคม 2560 พี่น้องที่ไปอีสานคงจะกลับ หลายคนอาจเลือกผ่านเขา ใหญ่ เลี่ยงได้น่าจะเลี่ยงถนนสาย 304 นะเพราะตรงสร้างสะพานแถวทับลานอำเภอนาดี ความยาวกิโลเมตรเศษ วิ่งได้ทีละคันเดียวรถที่ตามหลังมาน่าจะต่อแถวคลานกันยาวไปถึงกลางเขาใหญ่ มีทางเลียงได้ตั้งหลายเส้น ทาง ตาพระยา เข้ามาทางอรัญญประเทศก็ได้นะ พี่น้องทางอีสานใต้หลบไปทางนั้นคงพอได้
........อีกเส้นถ้ายังเสียดายเขาใหญ่ รถกำลังดี จะเข้าทางปากช่อง ไปลงปราจีนก็ตรงดี แต่ปีนเขาชันมาก รถต้องกำลังดี ถ้าไปเจอขบวนผ้าป่า ก็ลำบากเหมือนกันมีบางคนเขาเลี่ยงไปทางอำเภอมวกเหล็กเข้าอำเภอบ้านนา อำเภอองครักษ์ ต่อสาย 33 เข้ารังสิต ก็สะดวกนะ หรือไม่ก็ไปถนนมิตรภาพนั่นแหละ ถ้ามันแน่นนักก็หลบไปหาถนนสาย 33 ได้อีกแถววิหารแดง มีทางลัดไปได้
.........ขอบจบตอนนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะ จะรีบอัพไว้ให้พี่น้องอีสานที่จะกลับไปทำงานที่กรุงเทพ ฯ หรือภาคตะวันออก ได้ทราบข้อมูล ทัวร์มหาวิบากบ้าง ถ้านึกสนุกก็ลองมาถนนสาย 304 ดู สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น