วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560
3. เยี่ยมป้าพุด ที่โนนสัง
3. เยี่ยมป้าพุดโนนสัง
..........ป้าพุด ศรีประจง แกหย่ากับสามีตั้งแต่ลูกสาวยังเล็ก กลับมาอยู่บ้านพ่อแม่ เลยใช้นามสกุลว่า ศรีประจง พ่อแก จำปา ศรีประจง แม่ จ้อน ศรีประจง ตอนนี้แกมีน้องสาว เหลือ 1 คน ชื่อ ทุม หอมจันทร์ ปีนี้ 80 ขวบแล้ว มีน้องชายเหลืออยู่ 1 คนคือ ขุนทอง ศรีประจง นี่ก็ 72 ขวบ ย่าง 73 แล้ว อ้อนี่มันชื่อตาน่าเอง ถามป้าพุดแกบอก จำไม่ได้อายุเท่าไร เกิดก่อนมึงแล้วกัน 5 5 5 ใช้ได้สำนวนแบบนี้แหละ ลูกพ่อจำปาละ ตอนที่ 3 นี่จะเล่าถึงไป เยี่ยมสวัสดีปีใหม่ป้าพุด บ้านหนองลุมพุก ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู
..........ไปโนนสังก็เหมือนไปเยี่ยมบ้านเกิด ไปบ่อยปีละหลายหน แม้จะไม่ใช่บ้านเกิด เพราะเกิดที่บ้านแก อำเภอ กมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์โน่น อายุสิบขวบ ครอบครัวพาอพยพมาอยู่หนองลุมพุก สามปีพ่อส่งไปอยู่ชัยภูมิเพื่อ เรียน ม.ปลาย กลับมาอยู่หนองลุมพุก 2504-2510 ปี 2510 พ่อให้ไปอยู่วัด 2510-2516 บวชซะ 7 พรรษา จะเรียก บ้านเกิดก็ได้นา ส่วนหลังจากบวชก็อยู่ที่อื่นจนทุกวันนี้แหละ จะไปบ้านหนองลุมพุก เตรียมของมาจากบ้านแล้ว เป็น เครื่องกันหนาว คุณเหน่ง(ลูกชายผมเอง)ก็ฝากเสื้อผ้ามากล่องใหญ่ คุณยายธนัญธรก็เสื้อผ้า ส่วนของกินก็ปลา แดดเดียวบ้าง หลายแดดบ้าง ผักสดได้จากเกษตรที่สูงภูเรือ ตลาดสดนาอ้อ ตลาดแลงบ้านติ้ว เต็มรถน่าแหละ จะ ออกหกโมงเช้านะบอกคุณหมู เห็นบอกช่วงนี้ขับได้นะพ่อ ทางเรียบง่าย ก็เชครถไว้ให้ ต้มเนื้อเปื่อยให้นิกกี้ หมาเฝ้า บ้าน ตีห้า ออกไปตลาดบ้านติ้ว เขาขายของกินยายชอบมาก ไก่ย่าง ข้าวต้ม ขนม กล้วยทอด เราได้แจ่วบองผักนึ่ง
ข้าวเหนียว หกโมงแล้วกลับมาบ้าน ปล่อยนิกกี้ ปิดประตู่รั้วแล้วก็ออกเดินทาง ตรงเวลา ขึ้นถนนหลวง 201 เลี้ยวซ้าย ไปทางวังสะพุง รถแล่นทางเดียวกับเราไม่ค่อยมี แต่รถสวนเข้ามาเยอะมาก ๆจนแน่นถนน มาเที่ยวกันถึงแต่เช้าเลยนะ
........ลูกสาวขับรถสบาย ๆ แวะปั้มมีร้านเซเว่น เลยแอบไปหากาแฟร้อนกินกับปาทั่วโก๋ที่ได้จากตลาดบ้านติ้ว เขาซื้อของกินเสร็จก็เดินทางต่อ ผ่านมาทางสนามบินเลย 20 กม.ก็ถึงวังสะพุง เลี้ยวซ้ายไปถนนเลยอุดรธานี ผ่านหน้าโรงเรียนศรีสงครามวิทยา เขาตั้งปี 2514 เราบรรจุที่นี่ ปี 2516 มีครูอยู่ก่อนเรา 6 คนกับครูใหญ่ เราคือคน ที่เจ็ด บรรจุพร้อมกัน 6 คน ทำให้ปีนั้นมีครู 12 คน ไปอยู่สามัญศึกษาปี 2539 นานถึง 23 ปีเชียวทำงานที่นี่ ตอนนี้ลูกสาวคนโต ครูนก มาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนนี้ ไม่รู้จะได้ย้ายบ้างไหม เพราะทำงานแบบพ่อ คือทำงานเกินค่าจ้าง แถมคุมฝรั่งได้ทุกคน มันพูดประกิตเก่งกว่าพ่อ ผู้บริหารคงปล่อยง่าย ๆ หรอก อ้อตอนลูกหมู อายุสองสามขวบ แม่เป็นภูมิแพ้ คนเลี้ยงไม่ค่อยอยู่ยืด เลยใส่รถมาที่โรงเรียน ห้องพักมีเครื่องนอนพร้อม ครูที่ ห้องเป็นพี่เลี้ยงให้ พอชอบเดินตรวจ เช้า บ่าย ครูเขาช่วยดู กลับมาก็นั่งโต๊ะตรวจงาน ลูกสาวก็หลับ เป็นแบบนี้ปีเศษ ถึงได้เอาไปฝากโรงเรียนอนุบาล
........ไม่นานก็ด่านวังไห โรงเรียนบ้านนาดอกไม้ แม่หมูน้อยสอนอยู่ที่นี่ 5 ปี ให้ลาออกเพราะสุขภาพแย่งลงทุกวัน ก่อนแถวนี้เป็นทุ่งนา มาวันนี้กลายเป็นสวนอ้อยไปหมด เพราะมีโรงงานน้ำตาลมาตั้ง สองแห่ง แจกโควต้าปลูกอ้อย ให้ชาวบ้าน ช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น มะขามหวานยังปลูกกันอยู่ ดูสองข้างทางแผงขายมะขามเต็มไปหมด ยายถาม จะซื้อมะขามหวานไหม ตาบอกอย่าเลย มะขามหวานแถวนี้ ราคาถูกก็จริง แต่หวานไม่มาก อีกอย่างตาก็คุมเบาหวาน อยู่ ไม่อยากแตะมะขามหวาน ก็ผ่านไปกัน เข้าบ้านเอราวัน เห้นประตูโรงเรียนผาอินทร์แปลงวิทยา โรงเรียนมัธยม ประจำตำบลผาอินทร์แปลง ตอนนี้เขาเป็นอำเภอเอราวัณ อยากเปลี่ยนเป็นเอราวัณวิทยาคม แต่ชื่อนี้เขาเอาไป ตั้งให้โรงเรียนมัธยมประจำตำบลเอราวัณไปแล้ว เลยไม่ได้เปลี่ยน โรงเรียนนี้ครูนกลูกสาวมาอยู่หลายปี ไม่ได้ย้าย ซักที จนผู้บริหารได้ย้าย จึงได้ขยับไปศรีสงครามวิทยา ผ่านมาใกล้ตลาดสดเอราวัณ ถามยายจะแวะเยี่ยมตลาดไหม ยายบอกอยากดูตลาดสดบ้านเอราวัณ ก็ตามใจ กลับมารถได้ไก่ย่าง 2 ไม้ มาป้อนคุกกี้กับทาโร่ โหหมาพวกนี้ กินแต่ ของดี ๆ
.........ออกนอกเขตเลยเข้าเขตอำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ถนนโล่ง ๆ ขับกันตามสบาย ไม่นานก็ถึงหนองบัว ลำภู หมูใช้ทางเลี่ยงเมืองออกทางซ้ายมือ ออกที่บ้านวังหมื่น เลี้ยวซ้ายทางแยกไปโนนสัง 47 กิโลเมตร เลนซ้ายว่าง ตลอด เลนขวารถค่อนข้างมาก พวกเขามาทางเขื่อนอุบลรัตน์ มีถนนข้ามมา ไปอุดร หนองคาย บ้านผือลัดมาที่นี่ พวกเราวิ่งสบาย ๆ จนถึงบ้านกุดดู่ มีโทรศัพท์ถามว่าตาอยู่ไหน ก็บอกไปว่าอยู่บนรถ ถึงไหนแล้ว ตอบว่าถึงกุดดู่ ยายถามว่าใคร ครูหน่อย หลานสาวมาเยี่ยมแม่มันที่หนองลุมพุก แม่มันก็ลูกสาวป้าพุดนั่นแหละ หน่อยถามอยากพา ยายพุดไปเที่ยวนอกบ้านบ้าง ไปไหนดี ก็บอกไปว่ควรพาไปเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่นนะ ไปชมเขื่อน ขากลับ พาไปทานข้าวเที่ยงก็ดี ปกติป้าแกไม่ยอมไปเที่ยวไหนหรอก นอกจากโรงพยาบาล แกไม่ได้เป็นพยาบาลเก่าหรอก ไปรับยาโรคประจำตัวของแกและพบหมอตามนัด เขาหลอกว่าน้าให้ไปทานข้าวที่เขื่อนจึงยอม ครูหน่อยซื้อรถใหม่
พายายออกมาเที่ยวได้สมใจ พวกเราไม่ยอมเข้าไปบ้านหนองลุมพุก รออยู่บ้านโสกจาน ทางแยกไปเขื่อนอุบลรัตน์ รออยู่ไม่ถึงยี่สิบนาทีครูหน่อยก็โผล่มา วิ่งตามกันไป อ้อเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัดขอนแก่น ฟังดูไกล แต่ความจริงประมาณ ยี่สิบกิโลเมตรเศษ บ้านป้าพุดอยู่ด้านบนเขื่อน เวนคืนที่นาให้กรมชลประมานสามไร่ ที่เหลือยังใช้ทำนาอยู่ ที่จริงก็ ใช้ได้หมดแหละ เพราะน้ำไม่เคยท่วมถึง เพียงแต่โฉนดมันแหว่งไปเฉย ๆ คือบ้านกับเขื่อนไม่ไกลกัน
.........จากบ้านโสกจานวิ่งไม่ถึงยี่สิบนาทีถึงสันเขาภูพานคำ จอดรถพักให้ลงถ่ายรูปกัน ยายธนัญธรพาลูกสาวลูกชาย เดินอวดชาวบ้าน ถ่ายรูป วิวเขื่อนช่วงนี้เห็นเกาะกลางน้ำสองสามเกาะ นักเที่ยวจากถิ่นอื่นกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ พวก นางแบบกางเกงไม่มีขา เซล ฟี กันจังเลย ส่งเสียงเรียกร้องความสนใจด้วย โถอีหนูเอ้ย ตาอยากดูนะ แต่ลูกหลานมา กันเยอะ ดูไม่สะดวกอ่ะ ขอโทษด้วย แหมขวามือยายธนัญญธร ซ้ายมือลูกสาวคุณหมู ใครจะกล้าไปเหล่ดู ปล่อย ชมวิว ถ่ายรูปจุใจแล้วก็เดินทางต่อ ไม่ถึงสิบนาทีก็เข้าบริเวณเขื่อนอุบลรัตน์ ใกล้ ๆ เอง ว่าจะพาไปจุดบนสุด แต่ไม่มี ที่เดินชมวิว เลยกลับลงมาที่ร้านอาหาร ที่เดินชมเยอะ ปล่อยกันที่นี่ นักเที่ยวก็มีไม่มาก ให้เวลา 1 ชั่วโมง ยายจับ หมาลงมาด้วย ถ่ายรูปกันใหญ่ สนุกกันทั้งคนแก่และเด็ก เพราะไม่เคยเข้ามา จนเกือบเที่ยง จึงชวนไปทานข้าวที่ ร้านอาหารเชิงเขาภูพานคำ ขามาเห็นกันแล้ว มีร้านหนึ่งที่ จัดทำซุ้มรูปตัว ยู หันหน้าเข้าหาเขื่อน ด้านหลังเนินเขา
ถามยายธนัญธรว่า โลเกชั่นแบบนี้ คุกกี้ทาโร่ ทานข้าวได้ไหม ยายบอกเออแบบนี้แหละ ให้เขาต่อโต๊ะอาหารให้ สั่งกับข้าว สาม ที่ ที่ละ 4 คน มากัน 15 ลงได้พอดี ส้มตำลาว 100 โปเซง เผ็ดหน่อย สาม ตำไทยไม่ใส่พริกแต่ รสอย่างอื่นจ๊าบ ๆ 1 ต้มส้มปลากด 3 หม้อ ปลาเผา 3 ตัว ปลาย่าง ไปหยิบเอาเอง มีปลาตะเพียน ปลาหลด ข้าวเหนียวไม่เอา เพราะหอบมา 3 กระติ๊บ ขอข้าวสวยให้ยาย 1 จาน น้ำเอาน้ำเปล่า
.........หลังอาหารครบ บรรยากาศก็เงียบสงบ ยินแต่เสียงซีดซ๊าด ๆ จุ๊บจั๊บ ๆ มันไม่ยอมพูดคุยกันเล้ย กลัวกินไม่ทัน มั้ง ไม่มีปัญหาหรอก สั่งเผื่อไว้แล้ว กินไม่หมดหรอก เพราะมันอร่อยทุกอย่าง ร้านนี้มากินบ่อย ผ่านไปซักสิบห้านาที ค่อยได้ยืนเสียงคุย ส้มตำก็แซบหลาย กูตำอยู่บ้านบ่เห็นแซบ ต้มปลาแบบได๋น้ำแกงมาแซบคัก ขอไปกินบ้านได้บ่อ พ่อใหญ่ เขาเรียกตาว่าพ่อใหญ่ เลยบอกพวกแกกินให้อิ่มก่อนค่อยคุยกัน เรานั่งดูป้าพุด แกกินอาหารได้มากกว่า วันอื่น ๆ หลานสาวบอก ซักสามสิบนาทีสงครามก็สงบ หมดสภาพกินไม่ได้ ขอถุงแม่ค้ามาใส่เศษอาหารไปกินต่อที่ บ้าน มันเอาน้ำส้มตำสามจาน น้ำต้มปลาสามหม้อเทเอาหมด ปลาย่างปลาเผา เรียบเก็บหมด แม่ค้าหัวเราะชอบใจ เลยบอกแกว่าทีหลังพวกนี้มาอย่าทำอร่อย คิดตังพันกับสามสิบบาท จบรายการพายายพุดไปเที่ยวและทานข้าวนอก บ้าน
........ยายธนัญธรชอบใจเห็นป้าพุดทานข้าวเยอะ เลยชวนมานั่งรถด้วยกันกลับบ้านหนองลุมพุก ถึงบ้านลูกหลานมัน คุยกันแต่เรื่องเดินชมเขื่อน เรื่องพวกนางแบบถ่ายรูป และเรื่องกับข้าวอร่อย เราให้ยายเอาของฝากออกมาแจกจ่าย ให้ป้าพุดเลือกก่อน เหลือคนอื่นค่อยหยิบเอา แกหยิบสองสามชิ้น ที่เหลือเด็ก ๆแบ่งกันไป สุดท้ายก็แจกซองบังสุกุล ให้พันบาทเป็นค่ายา ยายพุดพูดไม่เก่งเหมือนยายทุม มีแต่ยิ้ม ๆ เลยแซวว่า หัดบ่นให้ลูกหลานมั่งสิ เวลาเขามาไหว้ จะได้ให้ศีลให้พรเขามั่ง แกหัวเราะหึ ๆ บอกว่า กูเว้าบ่เป็น มึงเว้ายาวแล้ว ครับนี่คิอกิจกรรมไปเยี่ยมป้าพุด ปีนี้แก สุขภาพไม่ดี แต่ก็ยังพุดคุยกันรู้เรื่องอยู่ อายชัยให้พรแกตามสมควรแก่เวลาก็ลากลับตอน บ่ายสองโมง เพื่อหาซื้อ ของตลาดแลงบ้านติ้วเอาไปกินบ้านแปดริ้ว
........หมูขับรถจะพ้นหมู่บ้านหนองลุมพุก เจอร้านของชำให้จอดลงไปซื้อกาแฟให้ซักกระป๋อง เจอผู้ใหญ่บ้านอยู่บ้าน ลูกสาวหนูแป้งออกมาขายของ คุยกันตั้งนาน เลยลงไปถามคนนี้ใคร มันรู้จักพาลูกสาวมาไหว้ ผู้ใหญ่แนะนำว่านี่ แป้งต้องเรียกปู่นะ เออวันนี้นอกจากเด็กเรียกตา เรียกพ่อใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่บ้านมันพาลูกสาวเรียกปู่อีก เลยเรียกยาย ธนัญธลงลงมาอีกคน จะได้เป็นคุณย่าบ้าง พ่อของผู้ใหญ่บ้านวันดี ศรีวิบูลย์ คือ ตาที และยายไค เขาเป็นพี่สาว พี่เขย ของเราเอง ลูกชายเขาเดิมเรียกเราว่าน้ามหา ที่เรียกปู่ก็ใช่ ครู่หนึ่งมาอีกราย สมภาร ยุพาณิช อายุพอกับผู้ใหญ่ เคย ไปเรียนศรีสงครามและราชภัฎเลย พร้อมกัน เป็นหลานชายอีกคน พ่อเขาเป็นน้องชาย ยายไค แม่ผู้ใหญ่บ้านนั่นแหละ นี่ก็เรียก เรา อา มหา ได้ถามไถ่สุขทุกข์กันพอสมควร ก็ลากลับ จบได้ละมั้ง ทีนี้ ขืนอยู่ช้าเดี๋ยวจะมีคนเรียกทวดแน่
ตาเฒ่าเขียน 4 มกราคม 2560
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น