วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไปเที่ยววันเสาร์



............วันนี้ 29 ตค. 2559 ชวนแม่บ้าน คุณธนัญธร ณรงค์หนู ไปหาซื้อปลาเค็มที่อ่างศิลา ชลบุรี
เพราะที่เก็บไว้ใกล้จะหมดแล้ว ทอดสองครั้งก็คงหมด แทบไม่ต้องรอคำตอบเพราะทราบตั้งแต่ยัง
ไม่ถามว่า ยายต้องไปแน่ เลยลงไปเช็ครถ เช็คหมา รถเรียบร้อยดีเพราะเอาไปเช็คที่ศูนย์ได้ 3 วัน
เอง ดูน้ำ แบต ยาง เบรค น้ำมัน ก็โอเคนะ ส่วนหมาไม่เรียบร้อย ต้องอาบน้ำฟอกตัวหน่อย เพราะ
นั่งรถแอร์ต้องปิดกระจกหมด พอเปิดกรงตัวเล็กมันวิ่งไปรอที่ห้องน้ำเลย ไม่ต้องตามยาก ส่วนตัวพี่
ยากหน่อยต้องอุ้มถึงยอมไปอาบน้ำ ยายว่ามันรู้เรื่องเหมือนคนเลยนะ ใช่เลยยาย หมาพวกนี้ฉลาด
ไอคิวเท่ากับเด็กสามขวบ เรียกชื่อมันรู้ชื่อใคร ด่าก็รู้ ชมก็รู้ ดังนั้นพูดกับมันดี ๆ อาบน้ำเสร็จวิ่งจู๊ด
ไปหายายให้เช็ดตัวให้ สวมปลอกคอให้ เสร็จทั้งคนและหมาก็ลงจากบ้าน ตอนนี้หมามันจูงยายไป
ที่รถ เพราะมันรู้จะได้ไปเที่ยว
.........กว่าจะออกจากบ้านได้ก็สามโมงครึ่ง เพราะเด็กแม่บ้านกับลูกจะไปด้วย แม่บ้านคนนี้ชื่อ
อาชาน เป็นคนมอญ มาทำงานตั้งแต่ยังเป็นนางสาว แต่งงานจนมีลูกชาย 1 คน ทำงานบ้านดี ไว้ใจ
ได้ ยายรักเหมือนลูกหลาน ไปเที่ยวไหนก็มักพาไปด้วย บนรถเลยมีคน 4 หมา 2 หมาแย่งกันนั่ง
ตักยาย เพราะมันรู้ประจบไว้มีของกินเยอะดี รถจอดก็จะมีลูกชิ้นบ้าง ไก่ย่างบ้าง เป็นรางวัล เด็กยัง
อิจฉาหมาเลย ถนนศรีโสธรตัดใหม่วันนี้ รถแน่นเหมือนทุกวัน แสดงว่าคนเอารถออกมาใช้งานกัน
มาก ดูแต่บ้านเราเอง 3 คน ใช้รถ 2 คัน คนเช่าบ้านอีก 3 คัน บ้านเดียวรถ 5 คัน อ้างเพื่อความ
สะดวกในการทำงาน บ้านอื่นก็คงคิดทำนองเดียวกัน ถนนเลยแน่นขึ้น ๆ อีก 2 ปี คงเท่ากรุงเทพฯ
แน่
เราเลี้ยวไปศาลากลางหลบรถติด ไปออกถนนจักรพรรดิเลี้ยวขวาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง
มาเมื่อไรก็มองหาวัดโสธร เพราะภาพพระอุโบสถตั้งอยู่ริมน้ำสวยงามมาก ดูไม่เบื่อจริง ๆ
.........ข้ามมาอีกฝั่งรถบางตาวิ่งสบาย ๆ นาน ๆจะมีรถแซงเราไปคงรีบ เราไม่รีบหรอกเพราะคนขับ
แก่มากแล้ว ค่อย ๆไป พอถึงสี่แยกตะวันออกพลาซ่า รถที่แซงมาสองสามคัน จอดรอเราอยู่ ติดไฟ
แดงไปไม่ได้ ที่สุดก็ได้ไปพร้อมกัน เราตัดตรงไปทางพนัสนิคม มีเด็กที่เคยอยู่วัดด้วยกันช่วงปี
2511-2515 เขาบอกว่าให้พี่มหาไปเยี่ยมบ้านหน่อย เดิมเขาชื่อ สามเณรสิน ชมชื่น เป็นคนบ้าน
หนองลุมพุก ตำบลหนองเรือ อำเภอโนนสัง จังหวัดอุดรธานี เดียวนี้เรียกจังหวัดหนองบัวลำภู
พ่อแม่ทำไร่ทำนา ฐานะยังไม่ร่ำรวย เหมือนบ้านผมนั่นแหละ ทำไมรู้จักดีนักล่ะ โถก็คนบ้านเดียว
กัน
แถมตอนบวชก็อยู่วัดเดียวกัน เราเป็นหลวงพี่ เขาเป็นจัวน้อย เราไม่สึกเขาก็ยังไม่สึก เราไปเรียน
ต่างจังหวัดเขาก็ไปด้วย เลยคุ้นเคยกันมากเหมือนพี่น้อง ชีวิตของสามเณรสิน สมบุกสมบันยิ่งกว่า
นิยายน้ำคลอง กทม.ซะอีก เหลือเชื่อเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ เพื่อพัฒนาตนเอง ออกไปเป็นลูกจ้าง
ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เห็นว่าได้ศึกษาต่อจนจบปริญญาโท ได้แต่งงานมีครอบครัวเป็นปึกแผ่นมั่นคง
ภรรยาเป็นครู หมอนี่มันชอบเลียนแบบหลวงพี่ ที่สึกมาได้ภรรยาเป็นครู แต่เราชนะตรงที่มีบุตรธิดา
3 คน แต่เขามีคนเดียว ไล่พี่มหายากอยู่นา
..........เขาบอกจะมาดักรออยู่หน้าโรงพยาบาลพนัสนิคม แต่คงทำไม่ได้หรอกเพราะเราไปถึงก่อน
เป็นเราต่างหากที่ไปดักรอ สักสิบนาทีถึงโผล่มา บอกให้ขับรถตามเขาไป เพราะทางไปบ้านกำลัง
มีการก่อสร้าง อาจหลงทางได้ก็ขำ ๆ ในใจนะ แก่ปูนนี้ไม่มีวันหลงทางหรอก ขับรถยนต์ใหญ่กว่า
รถเก๋งอีก มันต้องวิ่งไปตามทางอยู่แล้ว ออกนอกทางก็ตกถนนเท่านั้นเอง แค่คิดในใจนะ ไม่ได้ว่า
อะไร ตามหลังเขาไป ถนนเละดี ฝนตกใหม่ ๆ สองเลนใช้ได้เลนเดียว อีกเลนกำลังปรับผิวจราจร
เวลารถวิ่งสวนมาต้องเปิดหน้าต่างสวัสดีกันก่อน ก็แอบดูว่าเบียดมากไหม ไปได้ก็ผ่าน ๆกันไป
กว่าจะถึงบ้านก็ใจหายใจคว่ำเหมือนกัน กลัวรถเราจะไปพิศวาสรถคนอื่นเจ้า ไปจูบแก้มรถเขาน่ะ 

..........ยังไม่ได้ถามข้อมูลของบ้านเลยบอกทีหลังแล้วกัน ดูเป็นบ้านสวนนะ ต้นไม้ร่มรื่น ไม้ดอก
ไม้ประดับกำลังงาม คุ้น ๆตาแหละ แต่ไม่รู้จักชื่อ ดูรูปแล้วกันถ่ายรูปไว้อยู่ กล้วยก็ปลูกหลายกออยู่
ตามแนวรั้ว ที่เจ๋งมากคือมะนาว เขาปลูกใส่ท่อปูนซีเมนต์ ใส่ปุ๋ย รดน้ำ สะดวกดี กำลังติดลูก ดก
ทุกต้น ยายไปเดินดูชมไม่ขาดปาก ผลคือมะนาวเขาหลุดขั้วใส่ถุงให้ร่วมสี่สิบลูก ยายนะยาย
บอกไม่ทัน สภาพบ้านน่าอยู่มาก อากาศดี เพื่อนบ้านก็ดีเพราะมีแต่ญาติ ๆ กัน ดีใจด้วยนะพ่อเณร
ผลแห่งการเป็นคนรักพ่อแม่ รักครูอาจารย์ ทำให้เป็นคนดีมีมานะขยันขันแข็ง วิบากจึงเป็นกุศลดีงาม
มีภรรยาที่ดีมีครอบครัวอบอุ่น
........เขาชวนทานข้าวเช้าตอนเกือบห้าโมง เราไม่ปฏิเสธเพราะเขามีกับข้าวน่ากิน มีแจ่วบอง
แจ่วพริกอ่อน นึ่งปลาไข่ ส้มไข่ปลา หน้อไม้นึ่ง ข้าวเหนียวนึ่งนิ่ม ๆ แบบสูตรภัตตาหารจังหันบ้าน
หนองลุมพุกนี่นา ก็ซัดกันเต็มที่ไม่ต้องถามหรอกว่าเกรงใจไหม รุ่นนี้นั่งฉันข้าวมีสีการุ่นแก่รุ่นสาวนับ
สิบนั่งจ้องอยู่ยังกินได้ลง ไม่มีปัญหาหรอก อ้อที่เขานั่งจ้องไม่ใช่เขาหลงเสน่ห์หรอกนะ เขาคอยดู
มีอะไรขาดบ้าง จะได้เติมให้ เพราะพระฉันจุ เท่านั้นเอง อาหารมื้อนี้อร่อยมาก ฉันไปก็คุยกันไป
ตามประสาคนไม่ได้พบกันเกือบสามสิบปี
........ทานข้าวเสร็จก็ได้แนะนำให้รู้จักกัน บอกเขาว่าเราเกษียณปี 2547 มาอยู่แปดริ้วปี 2548 จน
ทุกวันนี้ แม่บ้านเป็นพยาบาลระดับหัวหน้าตึกโรงพยาบาลพุทธโสธร เกษียณแล้วเช่นกัน อยู่บ้าน
เลขที่ 28/68 ถนนศรีโสธรตัดใหม่ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ใกล้บิ๊กซี 2
ถามพนักงานไปรษณีย์ เขารู้จักบ้านพวกเราดี ส่งจดหมายพัสดุได้ไม่ผิดบ้าน จดหมายที่ไม่อยากรับ
ยังส่งถูกอีก พวกทวงหนี้ไง ถามถึงลูกหลาน คนโตอยู่เมืองเลยเป็นครูศรีสงครามวิทยา คนสอง
ลูกชายจบพืชไร่กำแพงแสน ทำงานที่บริษัทเอราวัณเคมีการเกษตร ลูกสาวคนเล็กจบเทคโนโลยี
สารสนเทศทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ที่กรุงเทพเช่นกัน
........ถามถึงคุณแม่บ้านเป็นครูโรงเรียนโยธินบูรณะ 2 เห็นว่าสอนภาษาไทยด้วย แปลกดีนะ
ผมจบตรีภาษาไทย โท ก็การสอนภาษาไทย แต่ไม่ได้สอนภาษาไทยหรอก บรรจุใหม่เขาให้
สอนศีลธรรม สอนการศึกษาผู้ใหญ่ เขาให้สอนคณิตศาสตร์ งานพิเศษ โรงเรียนให้เป็นครูแนะแนว
ครูบรรณารักษ์ แต่ชอบภาษาไทยนะ ชอบเขียนทั้งร้อยแก้ว ร้อยกรอง มีงานเขียนที่สะสมไว้เกือบ
สองร้อยเรื่อง ถ้ามีโอกาสจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษาไทยกันด้วยยิ่งดี แล้วก็ให้
URL เวบบลอกเอาไว้ พร้อมทั้งคีย์สำหรับค้นด้วยกูเกิล คือ "เยี่ยมยามอีสาน" มี 52 เพจ
"วิถีชีวิตชาวบ้านอีสาน" มี 42 เพจ "ร้อยกรอง ไทย - อีสาน" มี 26 เพจ และ "แนะนำธนัญธร"
มี 36 เพจ
........บ่ายโมงเศษเราอำลาเจ้าของบ้านเพื่อเดินทางต่อ ฝนตกพรำ ๆ ตลอดทาง ต้องค่อย ๆไป
กลัวจะพลาดที่สุดก็เข้าเขตเทศบาลเมืองชลบุรีตอน บ่ายสองโมงครึ่ง ยายบอกให้ไปห้างที่เคยไป
หน่อย ถามว่าห้างไหน จำไม่ได้อีก แล้วจะให้ไปทางไหนล่ะ แกบอกเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาจนไปไม่
ถูก สุดท้ายแกว่าห้างโพธิ์ทองการแว่นนั่นนา อ้อจำได้ไปตัดแว่นตาบ่อย เขามีห้างแถวนั้นสองแห่ง
แถมตลาดสดอยู่ใกล้ ๆ กัน ก่อนเคยจอดรถที่วัดค่าบริการ 10 บาท วันนี้ฝนตกเลยลงไปจอดชั้น
ใต้ดินของห้าง ฟรี ไม่เสียเงิน ยายหายไปไม่นานได้เสื้อดำ 2 ชุด จะเอาไปใส่ไว้ทุกข์ ก็เลยบอก
ใส่เฉยๆ ก็ได้ยาย ทุกข์เต็มอกอยู่แล้ว 
.........ออกจากห้างก็หาทางไปอ่างศิลา วันนี้รถไม่แน่นไม่เสียเวลามากก็ไปถึง รถแน่นมากที่จอด
เต็มไปหมด พอจะเลี้ยวเข้าก็มีคันหนึ่งออกเลยสวมแทน แบบนี้สบายหน่อย เดินชมท่าปลาเต็มที่
หมดแรงค่อยกลับแล้วกัน ปล่อยยายตามสบาย เพราะเรามีเป้าหมายอยู่แล้ว แผงลอยเกือบสุดท้าย
แม่ค้านั่งยิ้มรออยู่แล้ว แกเลือกให้ 2 ตัว แปดร้อยบาท ขาออกแวะซื้อ หมึก ปู หอย จะเอาไปทำ
ต้มยำทะเล แค้นไปกินร้านหม้อละ 180 บาท กินไม่จุใจ ทำเองน่าจะกินอิ่มดีกว่า ได้ของครบก็ออก
และพากันกลับ แวะขึ้นทางด่วนสะดวกดี เลยไม่มีอะไรน่าสนใจจะเล่า หันไปดูยายกับหลานหลับ
กันหมด หมาน้อยสองตัวพลอยหลับด้วย แล้วเราจะเสียเวลาทำไม รีบ ๆขับให้ถึงบ้านแล้วปลุกยาย
และเด็กเก็บของ จบเนาะ สวัสดี






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น