ไปเที่ยวภูป่าเปาะ
----------------------
........30 กันยายน 2559 เช้าครูนกบอกจะไปช่วยเตรียมงานเลี้ยงครูเกษียณเช้าและเลย อยู่จนงาน
เลิก พ่อเอารถไปส่งแล้วเอารถกลับมาใช้ รถจะว่างทั้งวัน ตอนเย็นก็ไปงานเอง ตกลงกันแบบนี้แล้ว
ก็สบายไม่ต้องไปเช่ารถท่องเที่ยวยาก ว่าแต่ได้รถแล้วจะไปเที่ยวไหน กว่าจะค่ำเที่ยวได้หลายแห่ง
ไปส่งครูนกสองโมงครึ่งที่ศรีสงครามวิทยา ออกมาก็มุ่งไปทาง อำเภอหนองหิน พายายไปถ่ายรูป
ที่สวนหินผางาม ไม่ได้ไปหลายปีแล้ว สองข้างทางสาย 201 เปลี่ยนไปบ้าง บ้านโนนสว่าง มีสำนัก
งานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเลย เขต 2 ย้ายออกมาอยู่ที่ โรงเรียนบ้านโนนสว่าง ได้ที่กว้างขวางดี
ถัดไปเป็นบ้านเรือนสองข้างทางติดกันไปจนถึง ทางแยกไปถ้ำผาบิ้ง เราวิ่งต่อไปเรื่อย ผ่านหน้า
วัดถ้ำผาหมากฮ่อ สถานีหม่อนไหมเลย เข้าสวนสัก กำลังงอกงามจนรกทึบ มุงถนนกลายเป็นซุ้ม
ต้นสักสวยงามดี
เลิก พ่อเอารถไปส่งแล้วเอารถกลับมาใช้ รถจะว่างทั้งวัน ตอนเย็นก็ไปงานเอง ตกลงกันแบบนี้แล้ว
ก็สบายไม่ต้องไปเช่ารถท่องเที่ยวยาก ว่าแต่ได้รถแล้วจะไปเที่ยวไหน กว่าจะค่ำเที่ยวได้หลายแห่ง
ไปส่งครูนกสองโมงครึ่งที่ศรีสงครามวิทยา ออกมาก็มุ่งไปทาง อำเภอหนองหิน พายายไปถ่ายรูป
ที่สวนหินผางาม ไม่ได้ไปหลายปีแล้ว สองข้างทางสาย 201 เปลี่ยนไปบ้าง บ้านโนนสว่าง มีสำนัก
งานเขตพื้นที่ประถมศึกษาเลย เขต 2 ย้ายออกมาอยู่ที่ โรงเรียนบ้านโนนสว่าง ได้ที่กว้างขวางดี
ถัดไปเป็นบ้านเรือนสองข้างทางติดกันไปจนถึง ทางแยกไปถ้ำผาบิ้ง เราวิ่งต่อไปเรื่อย ผ่านหน้า
วัดถ้ำผาหมากฮ่อ สถานีหม่อนไหมเลย เข้าสวนสัก กำลังงอกงามจนรกทึบ มุงถนนกลายเป็นซุ้ม
ต้นสักสวยงามดี
.........ผ่านหน้าโรงเรียนเซไลวิทยาคม เป็นโรงเรียนมัธยมประจำตำบล เคยมานิเทศครูบ่อยผู้บริหาร
เคยทำงานเป็นครูเกษตรศรีสงครามวิทยา คุ้นเคยกันเลยขอให้ช่วยนิเทศงานวิชาการให้ ครูโอกาส
ต่าง ๆ เช่นการจัดการเรียนการสอน การเขียนแผนการสอน การผลิตสื่อการสอน แบบสื่อออนไลน์
การวัดผลประเมินผล วิจัยในชั้นเรียน การสร้างเวบไซท์ ยังกะเราเป็น ครูใหญ่ซะเอง ก็เหนื่อยนะ
แต่พอเห็นครูอยากรู้ก็มีกำลังสู้ ทุกวันนี้พอเห็นหน้าปรี่เข้ามาทัก เลย สงสัยคงเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่
นิเทศให้มันของแท้ แม้วันนี้ก็ยังทันสมัยอยู่
......ผ่านบ้านโคกขมิ้น กุดลัน แล้วก็ตลาดหนองหิน เจริญไปมาก ผู้คนขวักไขว่ รถราก็มากแรกว่า
จะแวะตลาดสด แต่ยายเปลี่ยนใจเลยเลี้ยวขวาไปสวนหินผางาม 19 กิโลเมตร ถนนลาดยาง ปรับ
ผิวจราจรไม่นาน วิ่งสะดวก ผ่านบ้านห้วยไผ่ บ้านหนองหมากแก้ว จำได้ว่าแม่ครูนกบรรจุเป็นครูที่
บ้าน หนองหมากแก้ว อยู่สองปีได้ย้ายไปโรงเรียนบ้านไร่พวย ติดถนนใหญ่สาย 210 เลยหนอง
หมากแก้ว ก็เป็นบ้านปวนพุ บ้านแถวนี้ทำสวนผลไม้ มะม่วง มะนาว มะขามหวาน ตอนนี้มีไร่อ้อย
กำลังนิยมปลูก กันมากเพราะใกล้โรงงานน้ำตาล
........รถวิ่งขึ้นเนินเขาไม่ชันนักค่อย ๆ ปีนไปซักสามกิโลเมตรถึงจุดชมวิว แวะถายภาพและคุยกับ
เจ้าหน้าที่อุทยาน เขาบอกน่าเที่ยวหลายแห่ง สวนหินผางาม สวนสวรรค์ น้ำตกเพียงดินภูป่าเปาะ
สะดวกกว่าเพื่อนคือภูป่าเปาะ มีรถนำเที่ยวตลอดไม่ต้องเดิน ยายชอบใจตรงที่ไม่ต้องเดิน ขอไป
เที่ยวภูป่าเปาะก่อน ออกจากจุดชมวิว ปีนเขาต่อ 500 เมตรเป็นสันเขา รอบข้างล้วนป่าไผ่ที่กำลัง
เขียวขจีคงเพราะฝนชุก สังเกตแต่ละกอแทงยอดอ่อนสีเหลือง แดง ยังกะธงชัยกองทัพ แหงนดู
บรรยากาศ บนท้องฟ้าเมฆฝนบาง ๆ คงไม่ตกตอนนี้ สงสัยจะรอให้เราไปเที่ยวก่อน ใจเย็น ๆนะใจ
เย็น ๆเทวดา รถลงจากยอดเขามองเห็นหลังคาบ้านเรียงรายอยู่ไม่เกิน 500 เมตร รู้จักนี่คือบ้าน
สวนห้อม ทางผ่าน ไปบ้านสวนปอ ที่ครูเขาพามาเที่ยวป่า กินปลาฝายทดน้ำผู้ปกครองนักเรียน
เชิญมานั่งดูเขาสูบน้ำจับปลา และช่วยกินปลา ค้าง 2 คืนกว่าน้ำจะแห้งจับปลาได้ ไม่ค่อยสนุก
เท่าไร เพราะเขาไม่ยอมให้ลงไปลุยโคลนจับปลา
.........บ้านสวนห้อมเปลี่ยนไปมาก บ้านเรือนมีหลังคากระเบื้อง สังกะสี แทนหลังคาแฝกที่ก่อนโน้น
เต็มหมู่บ้าน แสดงว่าเศรษฐกิจท่องเที่ยวช่วยให้มีรายได้ดี ก็ดีใจด้วย สวนสวรรค์แหล่งท่องเที่ยวชื่อ
ใหม่ แต่ที่เดิม ทางขึ้นสูงชันปีนไม่ไหว ถัดไปน้ำตกเพียงดิน อยู่ข้างทาง 250 เมตร ตรงที่เป็นน้ำตก
เป็นร่องน้ำลึก สองข้างชาวบ้านทำนา ดูเป็นที่ราบ ธารน้ำตกอยู่ระดับเดียวกับถนน น้ำไหลซึมจากเขา
ก่อนเขาปล่อยไหลข้ามถนนไปเป็นน้ำตก ตอนนี้ทำทางให้ไหลแล้ว ภาษาชาวบ้านเขาเรียกน้ำ
"โตนโสก" น้ำมาก ๆก็สวยเหมือนน้ำตกตาดผาเชียวแหละ ผ่านไปอีกนิดก็นเป็นบ้านผางาม ชื่อใหม่
แสดงว่าคนเพิ่มขึ้น หมู่บ้านขยาย เอาชื่อแหล่งท่องเที่ยวมาเป็นชื่อหมู่บ้าน ก็ดีนะทำให้รู้ได้ว่าใกล้
สวนหินผางามแล้ว ประมาณ 2 กิโลเมตรเองจากหมู่บ้าน
........ไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพดเมื่อก่อน กลายเป็นสวนลิ้นจี่ ลำไย สวนส้ม สดชื่อนดี แต่เสียภาพ
สวย ๆไปมองไม่เห็น ก่อนเคยยืนดูไร่ข้าวโพดหลายร้อยไร่ เดือนเมษายน เขาหักข้าวโพดไปขาย
ทิ้งซังให้นอนราบไปกับพื้น มีคนแอบจุดไฟเผา ดินโล่งสีดำ ๆเถ้าถ่าน มีก้อนหินปูนขนาดเท่าคน
ขนาดเท่ารถยนต์ เท่าบ้าน เท่าตึก 3 ชิ้น 7 ชั้น ผุดกลางไร่ข้าวโพดนับพันก้อน หินปูนสีขาว ๆ ที่ถูก
ฝนชะจนยอดแหลม แถมมีร่องน้ำไหลทำให้กลายเป็นริ้วรอยยังกะเขาแกะสลัก เป็นศิลปกรรม ที่
ธรรมชาติเนรมิตให้ สวยงามมาก ๆ ผ่านไปไม่นานก็มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อ"สวนหินผางาม"นี่แล ผม
โชคดีมาก ๆนะ ได้เห็นภาพก่อนจะพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวแบบปัจจุบัน
.......ผมขับรถผ่านทางเข้าสวนหินผางาม จะไปภูป่าเปาะก่อน ขากลับค่อยแวะ เพราะมาไม่ต่ำกว่า
10 ครั้งแล้ว ยายมารอบนี้ครั้งที่ 3 ก็อยากเห็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ถนนลาดยางสองเลน ผิวจราจร
ยังดีวิ่งตามสบาย นาน ๆมีรถสวน เป็นรถต่างจังหวัด คงมาเที่ยวกัน สองข้างทางมีรีสอร์ท ร้านอาหาร
บ้านพัก ผุดมารองรับการท่องเที่ยว ที่บอกว่าเห็นแต่สวนและบ้านเรือนนั่นแหละ บดบัง ความสวย
งามธรรมชาติไว้ด้านหลัง ไม่นานเราก็ถึงที่ทำการแหล่งท่องเที่ยวภูป่าเปาะ เขาใช้ไม้ไผ่ สร้าง
อาคารโรงเรือนต่าง ๆ สวยและแปลกดี จอดรถแล้วลงเดิมชม แผงลอยขายของจากสวนจากไร่
พริก ผัก ฟัก แฟง แตงร้าน ราคาไม่แพง มีเงาะ มีลำไยด้วย เห็นว่าปลูกเอง มีรถนักท่องเที่ยวจอด
อยู่สองสามคัน ทราบว่าเข้าไปภูป่าเปาะกันแล้ว มีสาวมัคคุเทศก์มาถามไถ่ ยากยบอกมาจาก
แปดริ้ว เธอตกใจทำไมมาถึงแต่เช้านักมารถอะไร ยายบอกมาเครื่องบิน แล้วลุงขับรถพามา เออ
ยายเราขี้โอ่ เป็นเหมือนตาเลยเนาะ
.........มัคคุเทศก์พาไปลงทะเบียนเช่ารถอีแต๊ก 1 คัน พาเที่ยว เขาเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 60 บาท
ต่อเที่ยว นั่งไปได้ 4 คนกำลังดี มากกว่านี้ก็ได้ที่นั่งว่าง เขาใช้รถไถนาแบบนั่งขับคันเล็ก ๆ ที่เรา
เห็น เขาใส่รถบรรทุกคราวละ 8-10 คัน ไปส่งศูนย์จำหน่ายนั่นแหละ อบต.เขาดัดแปลงเป็นรถโดย
สาร เห็นนึกว่ารถปิคอัพ มีหลังคากันแดดฝนได้ด้วย ด้านหน้านั่งหย่อนขาได้ 4 คน ด้านหลังนั่งสอง
แถว นั่งได้ 8 คน เราไปสองคนเขาก็รับพาไป เขาบอกใช้รถปิคอัพไม่ได้การ กำลังน้อย เจอฝนดิน
เละก็ ปีนไม่ได้หรอก ต้องรถไถน้อยที่เราใช้ไถนาลุยโคลนอยู่แล้ว กำลังเยอะ นั่งเต็มรถก็ไม่กลัว
ไปได้ สบายมาก เออจริงของเขา
.......ภูป่าเปาะ แหล่งท่องเที่ประหลาด เป็นยอดเขาเตี้ย ๆ ติดกันสามสี่ลูก แวดล้อมด้วยกลุ่มภูเขา
หินปูนหลายสิบลูก สวยงามแตกต่างกันไป บางรูปรูปร่างยังกะคนนอนหงาย มัคคุเทศก์ บอกลูกนั้น
รูปนางยักษ์นอนตาย เธอบอกนั่นไงหัว คอ คาง อ้อนมใหญ่หน่อยนมยักษ์ ส่วนขามองไม่เห็น ก็เขา
มันยาวแค่นั้นนี่นา อีกลูกก็ยักษ์เหมือนกันแต่เป็นยักษ์ผู้ชาย เออหนู่เก่งมากนะ มองภูเขาเห็นเป็นผู้
หญิงผู้ชายได้
......อีแต๊กพาเราปีนเขาไม่ถึงสิบนาที ถึงจุดชมวิวจุดที่ 1 มองไปด้านหน้า ทางไปจุดที่ 2 -3 -4 ด้าน
ซ้าย มองเห็นภุเขาใหญ่น้อยเรียงรายเต็มไปหมด ด้านหลังคือทางที่เราปีนขึ้นมา สูงเหมือนกัน
ด้านซ้ายสะพานยืนชมวิว มีที่นั่งพักผ่อนให้ด้วย เราไปยืนมองออกไปเห็น ภูเขาไปฟูจิไทเลยลิบ ๆ
ยอดเขาปกคลุมด้วยเมฆสีขาว ยังกับหิมะ เลยบอกยายดู แกตกใจว่าทำไมภูเขาไฟฟูจิมาโผล่ให้
เห็น ได้แถวนี้ นั่นคือภูหอ อยู่ที่อำเภอภูหลวง เห็นครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกันทำไมมันคล้ายกัน
มาก ผมเคยนั่งรถผ่านภูเขาไฟฟูจิทั้งรถยนต์และรถไฟ ยอมรับแหละว่าคล้ายมาก แต่ของเราขนาด
เล็ก เคยปีนขึ้นไปบนยอดเขาตามไก่ป่า ได้ตัวหนึ่ง ไก่เยอะครับ เช้า ๆเสียงไก่ขันลั่นป่าทีเดียว
เราเด็ก เกเรแอบไปดักยิง บนยอดเป็นหน้าผาสูงชันปีนยาก หาความสวยไม่เจอหรอก ต้องมอง
จากไกล ๆ
เคยทำงานเป็นครูเกษตรศรีสงครามวิทยา คุ้นเคยกันเลยขอให้ช่วยนิเทศงานวิชาการให้ ครูโอกาส
ต่าง ๆ เช่นการจัดการเรียนการสอน การเขียนแผนการสอน การผลิตสื่อการสอน แบบสื่อออนไลน์
การวัดผลประเมินผล วิจัยในชั้นเรียน การสร้างเวบไซท์ ยังกะเราเป็น ครูใหญ่ซะเอง ก็เหนื่อยนะ
แต่พอเห็นครูอยากรู้ก็มีกำลังสู้ ทุกวันนี้พอเห็นหน้าปรี่เข้ามาทัก เลย สงสัยคงเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่
นิเทศให้มันของแท้ แม้วันนี้ก็ยังทันสมัยอยู่
......ผ่านบ้านโคกขมิ้น กุดลัน แล้วก็ตลาดหนองหิน เจริญไปมาก ผู้คนขวักไขว่ รถราก็มากแรกว่า
จะแวะตลาดสด แต่ยายเปลี่ยนใจเลยเลี้ยวขวาไปสวนหินผางาม 19 กิโลเมตร ถนนลาดยาง ปรับ
ผิวจราจรไม่นาน วิ่งสะดวก ผ่านบ้านห้วยไผ่ บ้านหนองหมากแก้ว จำได้ว่าแม่ครูนกบรรจุเป็นครูที่
บ้าน หนองหมากแก้ว อยู่สองปีได้ย้ายไปโรงเรียนบ้านไร่พวย ติดถนนใหญ่สาย 210 เลยหนอง
หมากแก้ว ก็เป็นบ้านปวนพุ บ้านแถวนี้ทำสวนผลไม้ มะม่วง มะนาว มะขามหวาน ตอนนี้มีไร่อ้อย
กำลังนิยมปลูก กันมากเพราะใกล้โรงงานน้ำตาล
........รถวิ่งขึ้นเนินเขาไม่ชันนักค่อย ๆ ปีนไปซักสามกิโลเมตรถึงจุดชมวิว แวะถายภาพและคุยกับ
เจ้าหน้าที่อุทยาน เขาบอกน่าเที่ยวหลายแห่ง สวนหินผางาม สวนสวรรค์ น้ำตกเพียงดินภูป่าเปาะ
สะดวกกว่าเพื่อนคือภูป่าเปาะ มีรถนำเที่ยวตลอดไม่ต้องเดิน ยายชอบใจตรงที่ไม่ต้องเดิน ขอไป
เที่ยวภูป่าเปาะก่อน ออกจากจุดชมวิว ปีนเขาต่อ 500 เมตรเป็นสันเขา รอบข้างล้วนป่าไผ่ที่กำลัง
เขียวขจีคงเพราะฝนชุก สังเกตแต่ละกอแทงยอดอ่อนสีเหลือง แดง ยังกะธงชัยกองทัพ แหงนดู
บรรยากาศ บนท้องฟ้าเมฆฝนบาง ๆ คงไม่ตกตอนนี้ สงสัยจะรอให้เราไปเที่ยวก่อน ใจเย็น ๆนะใจ
เย็น ๆเทวดา รถลงจากยอดเขามองเห็นหลังคาบ้านเรียงรายอยู่ไม่เกิน 500 เมตร รู้จักนี่คือบ้าน
สวนห้อม ทางผ่าน ไปบ้านสวนปอ ที่ครูเขาพามาเที่ยวป่า กินปลาฝายทดน้ำผู้ปกครองนักเรียน
เชิญมานั่งดูเขาสูบน้ำจับปลา และช่วยกินปลา ค้าง 2 คืนกว่าน้ำจะแห้งจับปลาได้ ไม่ค่อยสนุก
เท่าไร เพราะเขาไม่ยอมให้ลงไปลุยโคลนจับปลา
.........บ้านสวนห้อมเปลี่ยนไปมาก บ้านเรือนมีหลังคากระเบื้อง สังกะสี แทนหลังคาแฝกที่ก่อนโน้น
เต็มหมู่บ้าน แสดงว่าเศรษฐกิจท่องเที่ยวช่วยให้มีรายได้ดี ก็ดีใจด้วย สวนสวรรค์แหล่งท่องเที่ยวชื่อ
ใหม่ แต่ที่เดิม ทางขึ้นสูงชันปีนไม่ไหว ถัดไปน้ำตกเพียงดิน อยู่ข้างทาง 250 เมตร ตรงที่เป็นน้ำตก
เป็นร่องน้ำลึก สองข้างชาวบ้านทำนา ดูเป็นที่ราบ ธารน้ำตกอยู่ระดับเดียวกับถนน น้ำไหลซึมจากเขา
ก่อนเขาปล่อยไหลข้ามถนนไปเป็นน้ำตก ตอนนี้ทำทางให้ไหลแล้ว ภาษาชาวบ้านเขาเรียกน้ำ
"โตนโสก" น้ำมาก ๆก็สวยเหมือนน้ำตกตาดผาเชียวแหละ ผ่านไปอีกนิดก็นเป็นบ้านผางาม ชื่อใหม่
แสดงว่าคนเพิ่มขึ้น หมู่บ้านขยาย เอาชื่อแหล่งท่องเที่ยวมาเป็นชื่อหมู่บ้าน ก็ดีนะทำให้รู้ได้ว่าใกล้
สวนหินผางามแล้ว ประมาณ 2 กิโลเมตรเองจากหมู่บ้าน
........ไร่มันสำปะหลัง ไร่ข้าวโพดเมื่อก่อน กลายเป็นสวนลิ้นจี่ ลำไย สวนส้ม สดชื่อนดี แต่เสียภาพ
สวย ๆไปมองไม่เห็น ก่อนเคยยืนดูไร่ข้าวโพดหลายร้อยไร่ เดือนเมษายน เขาหักข้าวโพดไปขาย
ทิ้งซังให้นอนราบไปกับพื้น มีคนแอบจุดไฟเผา ดินโล่งสีดำ ๆเถ้าถ่าน มีก้อนหินปูนขนาดเท่าคน
ขนาดเท่ารถยนต์ เท่าบ้าน เท่าตึก 3 ชิ้น 7 ชั้น ผุดกลางไร่ข้าวโพดนับพันก้อน หินปูนสีขาว ๆ ที่ถูก
ฝนชะจนยอดแหลม แถมมีร่องน้ำไหลทำให้กลายเป็นริ้วรอยยังกะเขาแกะสลัก เป็นศิลปกรรม ที่
ธรรมชาติเนรมิตให้ สวยงามมาก ๆ ผ่านไปไม่นานก็มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อ"สวนหินผางาม"นี่แล ผม
โชคดีมาก ๆนะ ได้เห็นภาพก่อนจะพัฒนาเป็นที่ท่องเที่ยวแบบปัจจุบัน
.......ผมขับรถผ่านทางเข้าสวนหินผางาม จะไปภูป่าเปาะก่อน ขากลับค่อยแวะ เพราะมาไม่ต่ำกว่า
10 ครั้งแล้ว ยายมารอบนี้ครั้งที่ 3 ก็อยากเห็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ถนนลาดยางสองเลน ผิวจราจร
ยังดีวิ่งตามสบาย นาน ๆมีรถสวน เป็นรถต่างจังหวัด คงมาเที่ยวกัน สองข้างทางมีรีสอร์ท ร้านอาหาร
บ้านพัก ผุดมารองรับการท่องเที่ยว ที่บอกว่าเห็นแต่สวนและบ้านเรือนนั่นแหละ บดบัง ความสวย
งามธรรมชาติไว้ด้านหลัง ไม่นานเราก็ถึงที่ทำการแหล่งท่องเที่ยวภูป่าเปาะ เขาใช้ไม้ไผ่ สร้าง
อาคารโรงเรือนต่าง ๆ สวยและแปลกดี จอดรถแล้วลงเดิมชม แผงลอยขายของจากสวนจากไร่
พริก ผัก ฟัก แฟง แตงร้าน ราคาไม่แพง มีเงาะ มีลำไยด้วย เห็นว่าปลูกเอง มีรถนักท่องเที่ยวจอด
อยู่สองสามคัน ทราบว่าเข้าไปภูป่าเปาะกันแล้ว มีสาวมัคคุเทศก์มาถามไถ่ ยากยบอกมาจาก
แปดริ้ว เธอตกใจทำไมมาถึงแต่เช้านักมารถอะไร ยายบอกมาเครื่องบิน แล้วลุงขับรถพามา เออ
ยายเราขี้โอ่ เป็นเหมือนตาเลยเนาะ
.........มัคคุเทศก์พาไปลงทะเบียนเช่ารถอีแต๊ก 1 คัน พาเที่ยว เขาเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 60 บาท
ต่อเที่ยว นั่งไปได้ 4 คนกำลังดี มากกว่านี้ก็ได้ที่นั่งว่าง เขาใช้รถไถนาแบบนั่งขับคันเล็ก ๆ ที่เรา
เห็น เขาใส่รถบรรทุกคราวละ 8-10 คัน ไปส่งศูนย์จำหน่ายนั่นแหละ อบต.เขาดัดแปลงเป็นรถโดย
สาร เห็นนึกว่ารถปิคอัพ มีหลังคากันแดดฝนได้ด้วย ด้านหน้านั่งหย่อนขาได้ 4 คน ด้านหลังนั่งสอง
แถว นั่งได้ 8 คน เราไปสองคนเขาก็รับพาไป เขาบอกใช้รถปิคอัพไม่ได้การ กำลังน้อย เจอฝนดิน
เละก็ ปีนไม่ได้หรอก ต้องรถไถน้อยที่เราใช้ไถนาลุยโคลนอยู่แล้ว กำลังเยอะ นั่งเต็มรถก็ไม่กลัว
ไปได้ สบายมาก เออจริงของเขา
.......ภูป่าเปาะ แหล่งท่องเที่ประหลาด เป็นยอดเขาเตี้ย ๆ ติดกันสามสี่ลูก แวดล้อมด้วยกลุ่มภูเขา
หินปูนหลายสิบลูก สวยงามแตกต่างกันไป บางรูปรูปร่างยังกะคนนอนหงาย มัคคุเทศก์ บอกลูกนั้น
รูปนางยักษ์นอนตาย เธอบอกนั่นไงหัว คอ คาง อ้อนมใหญ่หน่อยนมยักษ์ ส่วนขามองไม่เห็น ก็เขา
มันยาวแค่นั้นนี่นา อีกลูกก็ยักษ์เหมือนกันแต่เป็นยักษ์ผู้ชาย เออหนู่เก่งมากนะ มองภูเขาเห็นเป็นผู้
หญิงผู้ชายได้
......อีแต๊กพาเราปีนเขาไม่ถึงสิบนาที ถึงจุดชมวิวจุดที่ 1 มองไปด้านหน้า ทางไปจุดที่ 2 -3 -4 ด้าน
ซ้าย มองเห็นภุเขาใหญ่น้อยเรียงรายเต็มไปหมด ด้านหลังคือทางที่เราปีนขึ้นมา สูงเหมือนกัน
ด้านซ้ายสะพานยืนชมวิว มีที่นั่งพักผ่อนให้ด้วย เราไปยืนมองออกไปเห็น ภูเขาไปฟูจิไทเลยลิบ ๆ
ยอดเขาปกคลุมด้วยเมฆสีขาว ยังกับหิมะ เลยบอกยายดู แกตกใจว่าทำไมภูเขาไฟฟูจิมาโผล่ให้
เห็น ได้แถวนี้ นั่นคือภูหอ อยู่ที่อำเภอภูหลวง เห็นครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกันทำไมมันคล้ายกัน
มาก ผมเคยนั่งรถผ่านภูเขาไฟฟูจิทั้งรถยนต์และรถไฟ ยอมรับแหละว่าคล้ายมาก แต่ของเราขนาด
เล็ก เคยปีนขึ้นไปบนยอดเขาตามไก่ป่า ได้ตัวหนึ่ง ไก่เยอะครับ เช้า ๆเสียงไก่ขันลั่นป่าทีเดียว
เราเด็ก เกเรแอบไปดักยิง บนยอดเป็นหน้าผาสูงชันปีนยาก หาความสวยไม่เจอหรอก ต้องมอง
จากไกล ๆ
.....ถ่ายรูปจุใจ รถอีแต็กพาปีนเขาไปจุดที่ 2 ข้างทางต้นดอกบัวตองกำลังงาม เขาเอาเมล็ดมา
หว่าน มันขึ้นเป็นดงเลย ราวพฤศจิกายนปีนี้ออกดอกแน่ เขาบอก ถ่ายรูปจุดที่สองก็สวยงาม ไม่แพ้
จุดแรก แรก ปีนเขาต่อไปจุดที่สาม มีมะละกอเขาปลูกไว้ให้คนชมจะรู้ว่าดินอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน
ลูกดก มากทุกต้น เขาบอกของ อบต.ปลูกไว้กำนัลคนมาเที่ยว รอให้สุกก่อน กินไม่หวาดไม่ไหว
จุดนี้มอง กลับลงไปเห็นสวนยางพาราขึ้นเต็มไปหมด นึกว่ามีแค่ข้างถนน เขาบอกกอ่นเป็นเขาหัว
โล้น ปลูกยาง พารามันขึ้นดี น้ำยางคุณภาพดีด้วย ชาวบ้านเลยนิยมปลูก ก็ดีนะปลูกพืชพื้นบ้าน
มามากลองปลูก พืชเมืองซะบ้าง มัคคุเทศก์ถามว่าอะไรพืชเมือง ก็ต้องบอกว่า ยาพาราไง พืช
เมือง ยังทำหน้างงอีก พาราแปลว่าเมืองใช่ไหม แล้วยางพาราก็คือ ยางเมืองไง เธอหัวเราะ
บอกว่าตาคิดมากไป
......ภูป่าเปาะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ มีรถนำเที่ยวไม่ต้องปีนให้เหนื่อย จุดชมวิวสวยงามมาก
ค่า ธรรมเนียมก็ไม่แพง สินค้าพื้นบ้านมีให้ชมหลากหลาย คนก็อัธยาศัยดีแบบคนไทเลย น่า
ไปเที่ยว ห่างจากเทศบาลหนองหินเพียง 24 กิโลเมตร ละแวกใกล้กันมีแหล่งท่องเที่ยวห้าหก
แห่ง ใช้เวลา ซัก 1 วันก็คงเที่ยวไม่หมด น่าไปครับ
หว่าน มันขึ้นเป็นดงเลย ราวพฤศจิกายนปีนี้ออกดอกแน่ เขาบอก ถ่ายรูปจุดที่สองก็สวยงาม ไม่แพ้
จุดแรก แรก ปีนเขาต่อไปจุดที่สาม มีมะละกอเขาปลูกไว้ให้คนชมจะรู้ว่าดินอุดมสมบูรณ์ขนาดไหน
ลูกดก มากทุกต้น เขาบอกของ อบต.ปลูกไว้กำนัลคนมาเที่ยว รอให้สุกก่อน กินไม่หวาดไม่ไหว
จุดนี้มอง กลับลงไปเห็นสวนยางพาราขึ้นเต็มไปหมด นึกว่ามีแค่ข้างถนน เขาบอกกอ่นเป็นเขาหัว
โล้น ปลูกยาง พารามันขึ้นดี น้ำยางคุณภาพดีด้วย ชาวบ้านเลยนิยมปลูก ก็ดีนะปลูกพืชพื้นบ้าน
มามากลองปลูก พืชเมืองซะบ้าง มัคคุเทศก์ถามว่าอะไรพืชเมือง ก็ต้องบอกว่า ยาพาราไง พืช
เมือง ยังทำหน้างงอีก พาราแปลว่าเมืองใช่ไหม แล้วยางพาราก็คือ ยางเมืองไง เธอหัวเราะ
บอกว่าตาคิดมากไป
......ภูป่าเปาะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ มีรถนำเที่ยวไม่ต้องปีนให้เหนื่อย จุดชมวิวสวยงามมาก
ค่า ธรรมเนียมก็ไม่แพง สินค้าพื้นบ้านมีให้ชมหลากหลาย คนก็อัธยาศัยดีแบบคนไทเลย น่า
ไปเที่ยว ห่างจากเทศบาลหนองหินเพียง 24 กิโลเมตร ละแวกใกล้กันมีแหล่งท่องเที่ยวห้าหก
แห่ง ใช้เวลา ซัก 1 วันก็คงเที่ยวไม่หมด น่าไปครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น