วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561

ชุด ไปโรงพยาบาลประสาท 4 เรื่องย่อย

(ชุดไปโรงพยาบาลประสาท เขียนอะไรให้อ่านหน่อย หมอนัดยายที่ทรวงอก  และเฝ้าไข้ยายที่โรงพยาบาล)


--------------------------------------
ยายไปโรงพยาบาลประสาท
----------------------------------------

.......19 มกราคม 2561 คุณยายจะไปพบหมอที่ สถาบันประสาทวิทยา กรุงเทพ ฯ เพราะมีอาการปวดที่ปลายประสาท ก็ถามว่าทำไมอยู่ดี ๆ ก็จะไปโรงพยาบาลประสาท ไม่ได้บ้าซักหน่อย เลยโดนซะชุดใหญ่ บ้ากับโรคประสาทมันไม่เกี่ยวกันนะ ทุกคน มีประสาทกันทั้งนั้น ไม่มีประสาทมันก็ไม่มีความรู้สึก เข้าใจไหม....ประสาทอายุมาก ขึ้นมันก็เสื่อมได้ เจ็บปวดได้ หมอที่เชียวชาญทางโรคประสาทเขาจะแนะนำและให้ การรักษาได้ อืมหายง่วงไปเลย ก็ขอโทษยายแล้วกัน จะไปเป็นเพื่อนอยู่แล้ว ก็ตกลงคุยเรื่องเดินทางดีกว่า
......ไปกรุงเทพฯ ไม่เอารถไปนะ เพราะรู้สึกเบื่อ ๆ ขับรถเข้ากรุงเทพฯ โดยเฉพาะ แถวรามานี่ ไปสาย ๆหาที่จอดรถยากมาก ยายเห็นด้วยตกลงไปรถตู้กันตื่นตีสี่ พร้อมก็ ตีห้า ลูกสาวเอารถคันใหญ่ไปส่งที่สถานีขนส่งฉะเชิงเทรา คิวรถตู้ที่จะไปกันจอดที่นั่น ไปถึงมีรถออกพอดี เรียกให้รอเขาบอกรถเต็มให้ไปคิวถัดมา ครู่เดียวรถคิวถัดมาก็วิ่ง มาจอดและให้ผู้โดยสารขึ้น ไม่ถึงสิบนาทีเต็มทุกที่นั่ง ก็ออกปลายทางคือจตุจักร 2 มีนบุรี เคยไปสองสามครั้ง ก็เลยหลับเพราะตื่นเช้าเกินไป ปล่อยให้รถพาไป มาตื่นก็ เข้าเขตมีนบุรีแล้ว ถนนรามคำแหง เลี้ยวขวาไปมีนบุรี ไม่นานก็จอดให้ลง บอกหมดระยะ แล้วลงได้ อ้อค่าโดยสารช่วงนี้สี่สิบบาท
.......เดินต่อไม่ถึง 50 เมตรก็เป็นสถานีรถตู้มีนบุรี ไปอนุสาวรีย์ชัย กับสวนจตุจักร รถจอดอยู่คนละฟากทางเข้าสถานี ขวามือไปจตุจักร ซ้ายมือไปอนุสาวรีย์ ผู้โดยสาร ไปอนุสาวรีย์เข้าแถวน่ารักดี พอรถมาจอดก็เดินขึ้นรถ 12 ที่นั่ง เต็มก็ออก รอคิวถัดไป ไม่ถึงสิบนาทีมาแล้ว ไม่มีกระเป๋าเก็บค่าโดยสารนะ เขาใช้กล่องอัตโนมัติแทน เป็น กล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ส่งให้ต่อ ๆ กัน คนละสามสิบบาท ครบแล้วคืนมาให้คนขับ ครบ 360 ก็ใช้ได้ เคยชมญี่นปุ่นหยอดตู้เก็บเงินบนรถเมล์ เจอของไทยเจ๋งกว่า ช่วยให้คน มีวินัยดีมาก ๆ เลย ช่วงจากมีนบุรีไปอนุสาวรีย์ ไม่รู้วิ่งถนนอะไรบ้าง จำไม่ได้ ไม่เหมือน เราขับเอง ก็เลิกสนใจ เปิดโทรศัพท์มือถือดูเนวิเกเตอร์ แรกบอกประมาณ 81 กิโลเมตร ทิ่งช่วงจากหกโมงครึ่งถึงเจ็ดโมงครึ่ง ดูใหม่เหลือ 30 กิโลเมตร สังเกตรถติดตลอด มาถึงอนุสาวรีย์ก็สองโมงเศษ
.......เดินออกจากท่ารถก็อนุสาวรีย์ชัย จะไปรถแท็กซี่ยากโบกหลายคัน มันไม่จอด รับ แหมแต่ตัวสวยยังกะคุณนายทำไมไม่จอดรับนะ...ก็เลยบอกว่าอย่าไปเรียกรถที่ เขาไม่ได้เปิดไฟป้าย"ว่าง" เพราะแสดงว่ามีผู้โดยสารแล้ว ไม่นานมีไฟว่าฃ วิ่งมาโบก ทีเดียวได้เลย คนขับอายุห้าสิบเศษยายสัมภาษณ์เอง เราฟังก็รู้สำเนียงบ้านเฮา ก็ไม่ อยากคุยด้วยกลัวเขาจะรู้ว่าบ้านเดียวกัน เดี๋ยวจะเรื่องยาว ไปไม่ถึง 500 เมตรเองก็ ถึงทางเข้าสถาบันแล้ว ให้แกเลือกจอดตามสบาย จอดไหนเราก็ลงที่นั่นแหละ 47 บาท ค่าแทกซี่ ลงตรงหน้าโรงอาหารพอดี กำลังหิว ยายอุทานดีใจนึกว่าอะไร ที่แท้วันนี้มีคลอดนัด พ่อค้าแม่ค้าขายของตรึม ลิ่วจะไปตรวจตลาด แหมสองโมงเศษ หิวมากแล้วกินก่อนน่ายาย
.......ขึ้นไปบนอาคารโรงอาหาร คุ้นเคยดีมาทานหลายครั้งแล้ว คุณจ้อให้ตั๋วคนละ100 ไปแลกเกาเหลาเลือดหมูเจ้าเก่า ชุดละ 40 บาท นั่งก่อนยาย ครู่หนึ่งยายเอามาอีกชุด สงสัยนึกไม่ออกจะกินอะไร เลยมาลงเกาเหลาเหมือนกัน น้ำเปล่าอีกสองขวด ครบ แล้วอาหารเช้า ความจริงโรงอาหารเขามีสิบกว่าร้าน อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ข้าวราด แกง ร้านอาหารอีกสาน(ส้มตำ แก่งอ่อม ลาบ ไก่ย่าง) ยังเช้าอยู่เลยเว้นไว้ เสร็จทาน อาหารก็เกือบสามโมง เพื่อนยาย คุณ จ้อ เดินมาหาบอกว่าเตรียมการรับการตรวจไว้ให้
ได้คิวที่สอง โหสุดยอด แต่ไม่แปลกใจนะ เพราะเขาทำงานอยู่ที่นี่ แถมยังเป็นคนใจดี ชอบบริการเพื่อนฝูง ขอบคุณมากจริง ๆ
.......ขึ้นไปตึกตรวจคนไข้ ก็เหมือนโรงพยาบาลทั่วๆไป ให้วัดน้ำหนัก ความดัน ปรากฏ ว่าความดันยายสูงไปหน่อย ต้องรอวัดอีกรอบ จึงค่อยได้เข้าพบหมอ เห็นนานเลยลง ไปเข้าห้องน้ำ เดินเล่นไปมามีโทรศัพท์บอกว่ายายกำลัง รอรับยาหน้าห้อง 13 ก็เลยรีบ ขึ้นไปชั้นสอง ครูเดียวยายก็ได้ยาเมื่อสี่โมงเศษ มีเวลาตรวจการตลาดนัด ก็เชิญกัน ตามสบาย ชอบชอปทั้งคู่หอบหิ้วกันเต็มมือ ออกไปรอแทกซี่หน้า รามา นานมากกว่า จะเรียกได้ เพราะไปแค่อนุสาวรี ใกล้เที่ยงด้วย คนเรียกเยอะด้วย คนขับบอกว่าช่วง เวลานี้ผู้โดยสารเยอะ ใกล้ ๆ ไม่อยากรับกัน ค่าแทกซี่เท่าขามา 47 บาท โดยไม่ได้นัด หมาย พวกเราไปลงรถหน้าศูนย์การค้าเซ็นจูรี
........ช่วงพักเที่ยงคนเยอะร้านอาหารอร่อย ไม่แพง นักเรียนนักศึกษาชอบมาทานกัน เขาบอก ท่าจะจริง คุณจ้อนำทางไปร้านก๋วยเตี๋ยว คนแน่นมากคงจะอร่อย คนรับแขก หน้าตาคุ้น ๆ สำเนียงบ้านเฮา คุยไปคุยมาจำได้ ภรรยาเขาเป็นกลุ่มเพื่อนยายนักเรียน พยาบาล พปก.จันทบุรีนั่นเอง เมนูก๋วยเตียวเรือของแท้สูตรดั้งเดิม สมัยไปเดินซื้อ หนังสือริมคลองหลอด ใกล้ศาลพระแม่ธรณี จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท อร่อย มาก ไปทีไรซัดสองชามประจำ หลังจากนั้นปิดตลาดนัดสนามหลวง ก๋วยเตียวเรือก็ หายไปด้วย มาโผล่ที่อนุสาวรีย์ ได้ลองอีก รสเดียวกัน วันนี้ได้กินก่วยเตี๋ยวเรือรส แบบนั้นอีกก็อดคิดถึงความหลังไม่ได้ น่าเสียดายกินอิ่ม ไม่เก็บตังค์ซะนี่ ก็ได้แต่ขอบ พระคุณมาก ๆครับ ไปอีกจะแอบไปอุดหนุน เมนูราคา 16 บาทชามเล็ก 30 ชามใหญ่
........อิ่มอร่อยก็ออกมาเจอแผงขายเสื้อผ้าราคาไม่แพง120 150 200 250 ป้ายที่ปิด ไว้สองคนเดินตรวจใหญ่เลย ไปเจอกางเกงยักษ์ เอว 48-50 นิ้ว โคนขา 40 เซ็นต์ ยาย เลือกมาหลายตัว คงเอาไปฝากลูกหลานที่เขาใช้ขนาดพิเศษพวกนี้ได้ ได้ของชอบ แล้วก็ออกมา คุณจ้อนำมาส่งถึงท่ารถตู้ไปมีนบุรี ขึ้นรถแล้วก็ลากลับ ขอบพระคุณมากนะ ครับมากรุงเทพทีไรก็รบกวนทุกที ไปทรวงอกก็เจอ มาทางสถานบันประสาทก็เจอ น้ำใจไมตรีเหลือล้นจริง ๆ
.......ออกจากอนุสาวรีย์ชัย ฯ รถวิ่งทางเดิม อ้อ..ถนนสาย 304 มาลงมีนบุรี ถามหาท่า รถไปฉะเชิงเทรา เข้าชี้ไปแถวคนยืนข้างถนน เข้าใจแล้วตอนเช้าก็เห็นที่ท่ารถตู้ที่จะ ไปอนุสาวรีย์ อยู่ฟากทางฝั่งโน้น ขากลับเขาให้ผู้โดยสารยืนรอที่ฟุคบาท เข้าแถว กันนึกว่าซื้อของกิน กลายเป็นผู้โดยสารจะไปที่ฉะเชิงเทรา ประมาณ 15 คน ถามหารถ รถไปฉะเชิงเทรา เขาบอกให้ไปต่อท้ายแถวได้เลย ถามพ่อหนุ่มเขาบอกจะไปแปดริ้ว เออ แปดก็แปด ไม่นานก็มีนายท่าเดินมานับ 12 คน บอกให้เดินตามเขาไป เห็นพาเลี้ยว ขวาลับหายไป สักห้านาที นายท่ามานับอีก 12 คน มีคนเพิ่มแต่เมื่อไรไม่รู้ พาไปส่งรถ ถึงขนส่งฉะเชิงเทรา ห้าโมงเศษ ต่อสามล้อตุ๊ก ๆ ถึงบ้านเกือบหกโมง เหนื่อยเอาการ ยายขอหลับ แต่เราไม่เคยหลับหัวค่ำ เลยมานั่งเขียนบันทึกจนเมื่อยมือ จบแล้วครับ

--------------------------
เขียนอะไรให้อ่านบ้างสิ 

---------------------------
.......วานนี้ 24 มกราคม 2561 ตั้วใจจะคีย์โตเกียวแห่งความหลังต่อ เพราะยังไม่ ถึงครึ่ง ขนาดคีย์ไปแล้ว 25 หน้า ยายเรียกให้ขับรถพาไปธุระหลายแห่ง แถมกำชับ ด้วยว่าเขียนเล่าให้อ่านด้วย เออประหลาดคนแบบนี้ก็มี ก็ไปด้วยกันยังจะต้องเขียน เล่าให้อ่านอีก
.......เช้า ๆ ว่างนะ ยังไม่ได้ออกไปไหนก็รดน้ำต้นไม้รอบ ๆบ้านเหมือนทุกวันแหละ เจ็ดโมงครึ่ง อ้าวโดนใครถีบ ทาโร่เขาปล่อยมันวิ่งตามหา เรารดต้นไม่อยู่ก็ไม่สนใจมัน ท้วงด้วยโดดถีบด้วยความรัก เรียกความสนใจ เออมึงรักบ่อย ๆเดี๋ยวโดนเคาะหัวหรอก ครู่หนึ่งเด็กแม่บ้านก็ตามหาทาโร่ไปกินอาหารเช้า ข้าวสวยคลุกต้มจืดโครงไก่ อ้อไม่จืด เท่าไรหรอกเขาเติมซีอิ้วขาว เกลือ แถมรสดีให้ด้วย ดูเขาเลี้ยงหมายังกะเลี้ยงเด็ก 

.......ตัวยุ่งไปแล้วเราก็รดน้ำต่อ วันนี้มีกลิ่นหอมฉุน ๆ แบบกลิ่นดอกราตรี เอเราปลูก กอเดียว มันก็ปลีกวิเวกไปกองขยะเทศบาลแล้วนี่นา ก็มันตายนั่นแหละ แต่ทำไมหอม ฉุนมากมาย มัวแต่ส่องดูตามพุ่มมะลิ ไม่เจออะไร แต่กลิ่นมาจากแถว ๆ นี้แน่ ดูไปมา เงยหน้าขึ้นอ้าว คุณวาสนา เล่นแตกช่อดอกพร้อมกันสามช่อเลยเหรอ มิน่าหอมมาก ใช่แล้ววาสนากลุ่มนี้โดนตัดทั้งไปนานแล้ว เอาลำต้นตัดเป็นท่อน ๆชำไว้ ได้ปลูกใหม่ 3 กอ กอนี้แตกหน่อได้ 3 ต้น กำลังงามสูงสัก 2.5 เมตร ไม่ค่อยได้สนใจพิเศษอะไร อยู่ใกล้ก๊อกน้ำ รดน้ำง่าย ชุ่มดินตลอด ที่สุดเขาก็แตกช่อดอกพร้อมกลิ่นหอมฉุนมาก ผมชอบนะหอมแบบดอกราตรี แต่นี่ฉุนมากไปหน่อย อยู่ห่าง ๆ พอไหว
......ต้นไม้รอบบ้านเริ่มแก่และโรยราไปหลายสิบต้น บอกยายว่าไม่ต้องหามาปลูกทด แทนหรอก เพราะคนดูแลก็นับวันแก่มากขึ้นเช่นกัน เดี๋ยวจะขยายพวกที่ดูแลง่าย ๆ แทนเช่น สับปะรดสี ดูไกล ๆคล้ายกล้วยไม้นะ ลืมรดน้ำซักเจ็ดวันยังเฉยเลย ทนมาก มัดติดตอไม้คนนึกว่าเป็นกล้วยไม้ นี่ก็ขยายไว้แทนพวกที่เฉาตายไป หนวดฤๅษี ดู ตอนมันห้อยย้อยเหมือนหนวดยาว ๆสีหงอก ๆ ต้องมีพวกเยอะ ๆ ถึงจะสวย นี่ก็ปลูก ง่าย จับมารวม ๆกันอัดใส่กระถางเล็ก ๆ ลวดเกี่ยวไว้ เอาไปห้อยไว้ ลืมรดน้ำไม่เป็นไร
สัปดาห์ละหนก็ไม่ตาย ว่านนาคราช ชอบชื่อมัน ชอบเวลามันเลื้อยเป็นลำยาว ๆมีใบ เป็นกลุ่มที่ยอดสีเขียว ๆ มีแดงแซม สวยน่าชม เลือกเถาแก่ ๆ มาตัดชำทิ้งไว้รดน้ำมั่ง ลืมมั่ง ไม่นานก็แตกยอด ไม้พวกนี้ดูคล้าย ๆกะบองเพชรนะทนแล้งได้ดี
......คล้า ไม้ใบสวยงาม ปลูกไว้หลายอย่างเหมือนกัน ที่เห็นแวบ ๆ ต้องขุดเอามาขยาย ก็คล้าใบลาย ว่านนกคุ่ม ถ้าไม่ขยายอาจหายได้เหมือนกัน พลูด่าง คงต้องตัดสางออก เพราะรกแล้ว เหลือไว้ซักสองสามกระถางพอ สาวน้อยประแป้งเหลือกอเดียวนี่ก็ควร ขยาย ไม้พวกนี้ดูแลง่าย มีหลายต้นก็ไม่เป็นไร ว่านงาช้างได้มากอเดียว แตกเต็ม กระถางเป็นแบบหน่อสีเขียวแก่ แยกแล้วได้ 5 กระถาง ไม่มีเฉาเลย ใบอุ้มน้ำขนาดนั้น เฉาก็เกินไปละ นี่ก็ปลูกง่าย อยู่เป็นกลุ่มสวยดีนะ ลิ้นมังกรมีอยู่กอหนึ่ง แตกใบจนรก
ตัดทั้งไปรอบหนึ่งแล้ว ตอนนี้ขึ้นใหม่รกดีเหมือนเดิม เดียวแยกไปปลูกใหม่ซักสาม หลุมจะได้รกน้อยหน่อย
......ว่านหางจระเข้ นี่ก็ปลูกง่าย ใบมันน้ำเยอะ ลืมรดน้ำก็ไม่เหี่ยว ยายขอบปลูกเอา เจลไปทำเครื่องสำอาง อ้าวนั่นจันผา แตกหน่อชักจะรกแล้ว ต้องตัดแยกไปชำก่อน ค่อยปลูก ไม้ที่เหมือนจะดูแลง่าย กลับยากเหมือนกัน เอเดินชมสวนนานเกินไปแล้ว ไปธุระอย่างอื่นบ้าง ยายให้พาไปร้านซักผ้า
........เครื่องซักผ้าตายหลายวันแล้ว แต่เราก็ยังต้องใช้เสื้อผ้าที่ซักและรีดด้วยนะ ที่ รีดไว้ก็จวนจะหมด ที่ใช้แล้วก็เต็มตะกร้า ลูกสาวไปทำงาน ว่างอาทิตย์วันเดียว ยาย เลยว่าจะเอาไปซักเองที่ร้านเขา เคยไปกับลูกสาว ทำได้ไม่ยากหรอก แต่ช่วยขับรถ พาไปหน่อย นี่ไงภาระกิจสำคัญวันนี้ ถอยรถออกมามีตะกร้าเสื้อผ้าเต็ม 2 ใบ ติดท้ายรถ ไปไม่ถึง 500 เมตร เจอหน้าร้าน ยายลงไปใช้เครื่องซักแบบหยอดเหรียญ มันคำนวณ เสร็จภายใน 1.25 ชั่วโมง สั่งซักเสร็จ ยายให้พาไปวัดโสธร เลี้ยวขวาเข้าไปอาคาร จอดรถฟรี ของวัด เดินออกมายายไปพบหัวหน้าแพทย์แผนไทย ติดต่อนวดไว้แต่ เช้าแล้ว ได้คิวช่วงนี้พอดี โหวางโปรแกรมแน่นเชียว
.........เจอเราเขาจำได้เพราะมาบ่อย เขายื่นตะกร้าให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า มีเวลา 1 ชม. เสร็จเดินเข้าไปห้องนวด มีคนไข้นวดครบ 6 เตียง ว่างคือเตียงที่เราจอง หมอนวด เป็นผู้หญิงวัยสัก 40 เศษ คุยเก่ง มือหนัก เธอวัดความดันบอกปกติ นวดได้ ถามว่า ปวดไหน ก็บอกว่าปวดเมื่อยทั้งตัวแหละ ที่มาวันนี้อยากให้ดูปวดน่องสองข้างให้หน่อย เพราะปวดมากกว่าที่อื่น เธอก็เรื่มบรรยายเลย...กล้ามเนื้อแข็งนะ มิน่ามันปวด ตรงนี้ก็ ตึงมาก เดี๋ยวหนูเอาน้ำมันทาและนวดให้ เลยถามว่าไม่ใช่น้ำมันพรายนะ เธอบอกไม่ใช่
ง้นก็ทาและนวดได้เลย ครู่ใหญ่ ๆ เธอบอกขอถามหน่อย น้ำมันพรายมันเป็นยังไง อ้าวไม่รู้หรือ เคยดูละครแบบหมอผีหมออาคมไหม เธอว่าเคยดู แบบนั้นแหละหมอ ผีหมออาคมเขาแสวงหากันนัก น้ำมันพราย ผีตายโหง ตายท้องกลม เขาชอบ ไปทำ พิธีปลุกเสก เอาเทียนอาคมลนคางผีให้น้ำมันพรายไหลหยดลงมา รองเอามาทำพิธี ปลุกเสกเก็บไว้ใช้ ใช้ทำอะไร..ก็เชื่อกันว่ามีความขลังทางเสน่ห์ ทำให้รักให้หลง ผ่านไปชั่วโมงหนึ่งจบคอร์สเขา เป็นกิจกรรมพิเศษที่ยายจัดให้วันนี้
........ออกจากห้องสปานวดแผนไทย ก็ไปดูเครื่องซักผ้า มันเสร็จพอดี กลับบ้านก่อน จะเอาผ้าไปตาก เลยแวะร้านส้มตำเจ้าประจำได้ส้มตำปลาดุกย่างข้าวเหนียว ก็พา กลับไปบ้าน ยายตากเสื้อผ้าเอง เราก็หิวมากจะบ่ายสามแล้วไม่ได้ทานข้าวเทียงเลย แวบไปทานส้มตำบนบ้านนั่นแหละ อิ่มกำลังจะพักผ่อน ยายมาตามไปเอาผ้าที่ซักไว้ ตะกร้าที่ 2 ไปเอามาตากอีก เต็มสองราวตากผ้าเลย ตากผ้าเสร็จมาตามอีก ไปโรง พยาบาลมีธุระกับน้อง ๆเขาสั่งขนมไว้พาไปเอาหน่อย เออเห็นเราเป็นพลขับแทกซี่ รึไงเรียกเอา ๆ ไปก็ไปเนาะ ไม่กล้าขัดคอหรอก แวบไปทางซอยศาลากลางนะ ออก ถนนริมแม่น้ำบางปะกงน่ะ แถวร้านขายของกินเยอะ ๆ ใกล้ปากทางเข้าศาลหลักเมือง ชลอให้หน่อย ใช่ร้านขายไอติมไหม ก็ใช่ทำไมจะทวงหนี้เขาหรือ เปล่าจะกินไอติม เจ้านี้อร่อยมาก ยายก็หิวเป็นนะ ก็จอดให้ลงแล้วเข้าไปจอดรถที่ศาลหลักเมืองกลับมา ไอติมหมดไปถ้วยหนึ่งแล้ว จบที่สองถ้วย จะขึ้นไปโรงพยาบาล รถรอที่นี่แหละ
........ไปโรงพยาบาลที่นี่ เป็นกิจส่วนตัวเสมอ ไม่ต้องพาไป ก็เข้าใจเพาะยายทำงาน อยู่ที่นี่จนเกษียณมีแต่คนรู้จัก เอ้ารอก็รอ แต่ เอ...กว่าจะลงมาคงนาน ไปเดินเล่นริมน้ำ บางปะกงดีกว่า หน้าโรงพยาบาลฟากถนนคือฝั่งน้ำบางปะกง เขาจัดทำสวนพักผ่อน หย่อนใจสวยงาม วันนี้ตันไม้ทุกต้นประดับไฟยังกะเทศกาลปีใหม่ ไม่รู้มีงานอะไร ถ่ายรูปไว้สองสามรูป สมัยโปเกมอนเปิดตัวใหม่ ๆ แถบนี้ดังมาก เพราะเขาวางจุด ให้คนจับโปเกม่อนมากมาย มีศูนย์ยิมสองสามแห่ง เลยลองเดินสำรวจดู อ้าวยังอยู่นี่ นึกว่าปิดไปหมดแล้ว ลองจับเล่นได้ตัวใหญ่ ๆ หายากสองตัว จากนั้นก็กลับไปรอที่รถ นานโขอยู่เห็นโทรมาบอก กำลังลงจากตึกเตรียมรถได้ ดูละครมากไปรึเปล่า ที่ยืน โทรน่ะมันชั้น 9 ลงมาแล้วเดินมาหารถก็ 500 เมตรได้ สตาร์ทรถรอก็แช่แห้งสิ ยืน รอดีกว่า ใช่จริง ๆ กว่าจะเห็นเดินเข้ามา จากนั้นก็พากลับบ้าน จบนะไม่มีอะไรจะเขียน ให้อ่านอีกแล้ว




-------------------------------
หมอนัดยาย 16 ตุลาคม 2560 

-------------------------------
........ยายมาเป็นคนไข้โรงพยาบาลทรวงอก เพราะสงสัยเส้นเลือด เลี้ยงหัวใจตีบ เทียวไปโรงพยาบาลรามาประมาณ 2 ปี ไม่ไม่มีข้อสรุป เลยชวนไปตรวจที่นี่ เพราะผมเป็นคนไข้ทำบอลลูน 3 จุด และมาพบ หมอประจำ ถ้ายายมาตรวจที่นี่ ก็สบายใจได้เพราะหมอเชี่ยวชาญเฉพาะ โรค น่าจะตรงกับสิ่งที่ยายสงสัย อ้อยายเคยเป็นพยาบาลวิชาชีพอยู่ที่ โรงพยาบาลพระพุทธโสธรฉะเชิงเทรา ลาออกก่อนเกียณ ก็มีความรู้ พวกโรคภัยไข้เจ็บดี ครับลองมาตรวจดูตามกระบวนการของหมอดที่นี่ ที่สุดก็ตรวจใหญ่ เอกเรย์ และฉีดสี พบว่าเริ่มมีอาการ ไม่มาก ไม่จำเป็น ต้องผ่าตัดใส่ขดลวด ทานยาประจำก็น่าจะหายได้ ถ้ายัง
ไม่ดีขึ้นค่อยดู อีกที ยายสบายใจที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ต้องทานยาตามหมอสั่งและพบ หมอตามนัด
..........ผมก็ทานยาตามหมอสั่งและมาพบหมอตามนัด ช่วงนี้นัดห่าง ประมาณ4-5 เดือนครั้ง แต่ยายนัด 15 วันครั้ง นี่เองที่ต้องพายายมา พบหมอที่โรงพยาบาลทรวงอก นนทบุรีบ่อย ๆ ตรวจและรับยาก็กลับ บ้านได้ ยายเขามีเพื่อนเรียนพยาบาลที่วิทยาลัยพระปกเกล้า จันทบุรี ทำงานอยู่โรงพยาบาลในกรุงเทพ ฯ หลายแห่ง ตอนนี้เกษียณหมดทุก คนแล้ว พอได้ข่าวยายมาพบหมอ แห่กันกันเยี่ยม ช่วยติดต่อประสาน งานการตรวจการรับยา สนุกกันใหญ่ วันนี้ยายเลยหาผลไม้ลูกโต ๆ มา ฝากเพื่อน มะพร้าวอ่อน ซื้อเขาลูกละสิบบาท อ้อไปซื้อที่สวนเลยนะ เจ้าของสวนใจดี พอรู้จะเอาไปฝากพวกพยาบาลเพื่อน ๆ จัดการปาดหัว เจียนท้ายให้ตั้งได้ สวยงาม ซื้อมา 50 ลูก เลยมีปัญหา เพื่อนมารถเมล์ กันต้องตาม
ไปส่งที่บ้าน ก่อนไปบ้าน พาไปเยี่ยมเพื่อนหน่อย
........เราก็บอกนะว่าเราไม่ใช่คนกรุงเทพ ไม่รู้จักหรอกที่ไหนคืออะไร รู้แต่มันคือที่ไหนไปทั่วกรุงเทพฯแหละ อยากให้ขับรถไปส่งที่ไหนก็บอก ทางแล้วกัน เขาบอกให้พาไปแถววัดราชบพิธ คุณไปหายมราชถูกไหม แหมที่อื่นมีถมไป ไปหายมราชทำไม อ้อขอโทษทางด่วนไปลงยมราช แล้วค่อยไปต่อสนามหลวง ไปถูกไหม ไม่รู้สิเนาะ ปกติให้คนอื่นพา
ไป ขับไปเองไม่แน่ใจ บอกทางดี ๆแล้วกัน กดเนวิเกเตอร์ยมราช มีแฮะ ออจากทรวงอกทาทางงามวงศ์วานลอดทางด่วนไปขึ้นอีกฝั่ง ด่านนี้ มาบ่อย ขามาเสียสิบบาท เขาเรียกด่านกาแฟ ขากลับโหดหน่อยเก็บหก สิบบาท วิงย้อนมาทางจตุจักร บขส.นั่นแหละ เห็นทางด่วนสายใหม่ ขึ้นที่นี่ปลายทางพุทธมณฑลสะดวกมากมาย ยังหาเรื่องไปพุทธมณฑล ไม่ได้เลยยังไม่ได้ลอง เลยมาถึงแยกอนุสาวรีย์บอกทางให้ตัดตรงไป ทางรามานะ อืมสนุกดีแย่งกันบอกทาง ทานด่วนวิ่งผ่านหน้าตึกสมเด็จ พระเทพฯจำได้ ไม่นานเห็นป้ายยมราช
.........ลงทางด่วน ไปหาหลานหลวงนะ ไม่ใช่ลูกหลวงเหรอ เปล่า หลานหลวง เลยแซวว่าสงสัยพระองค์ภาแน่เลย งงกันอะไรนะ เราไม่ บอก ตรงไปถนนหลานหลวง ผ่านฟ้า เข้าราชดำเนิน มุ่งไปสนามหลวง จะถึงสนามหลวงแล้วให้ไปซ้ายหรือขวา เลยจะเลี้ยวซ้ายเสียงบอก ไม่ใช่ตรงนี้ ไปอีกค่อยเลี้ยว ไปวัดราชบพิธ ค่อยเลี้ยวซ้ายอีก เล่นเลียบ คลองกลับมา เสียดายวันนี้เขาปิดถนนที่จะให้เลี้ยวซ้าย เลยวนออกขวา คนบอกทางมึนไม่รู้จะให้ไปทางไหน เราก็วิ่งออกสนามหลวง ไม่หลง หรอกแถวนี้ที่เที่ยวตลาดนัดสมัยก่อนโน้นมาทุกเสาร์อาทิตย์ วิ่งไปจนถึง วังเห็นประตูวังเกิดกว้าง รถคันหนึ่งแล่นออกมา เลยแกล้งถามว่าเข้าวัง ไหม เลยได้หัวเราะกัน นั่นมันรถวังเขา เรามันรถชนบทเข้าไม่ได้ ก็อ้อม ไปทางวัดโพธิ์ เห็นป้ายโรงเรียนวัดราชบพิธ ดีใจโทรบอกกันว่าถึงวัด ราชบพิธแล้ว
.........มีเสียงบอกทางผ่านโทรศัพท์ บอกเลี้ยวซ้าย อ้าวทางปิดออก ไปทางขวา ขึ้นสพานพุทธ วนกลับมาอีกรอบ เลียบมาทางคลองหลอด ถึงกระทรวงมหาดไป เสียงบอกทางใช่ ๆ ๆ ๆ ไม่นานก็เห็นคนดักทาง กวักมือให้ ทำไมเขารู้รถเรานะ ยายบอกรู้สิ ฉันส่งเลขทะเบียนให้ไปแต่ แรกแล้ว อ้อ อย่างนี้เอง จอดรถแล้วก็เชิญสนทนาพาทีกันตามสบาย เลี้ยงข้าวปลาอาหารกัน สนุกสนานตามประสาเด็กนักเรียนพยาบาลพบ กัน ถึงจะวัยหลังเกษียณก็เถอะ คุยกันสนุกได้เท่าเดิม ก็ดีนะนาน ๆพบกัน เราก็เดินดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย ตรงนี้มันด้านหลังกระทรวงมหาดไทย ถ้าถนน ไม่ปิด ก็ไปหน้าศาลอาญาเลี้ยวข้างกระทรวง
ได้ คุยกันสนุกสนานเฮฮา พอสมควรแก่เวลาก็ลากลับ เป็นห่วงกันกลับถูกไหมล่ะ เลยบอกว่าผมรู้ ทางไปยมราช พันธทิพย์งามวงวาน จานั้นบอกทางเองละกัน กดเนวิ เกเตอร์มันพาไปยมราช ขึ้นทางด่วนกลับมางามวงศ์วาน ลงทางด่วนสัก 150 เมตรก็พันธทิพย์งามวงศ์วาน เพื่อนของลงไปห้างสามคน เหลืออีก สาม ไปตามซอกซอยโผล่วัดบางขวัญ ออกด้านหลัง ไปบ้านคุณจ้อ ของฝากลงที่นี่แล้วไปส่งอีกสองคน ใกล้ ๆเมืองทองธานี
........เดินตลาดนัดก็นึกถึงตลาดใกล้บ้านที่ไปบ่อย ๆ แต่ของจะถูกลง คน ขายก็แปลกหน้ากัน ไม่ค่อยรู้จักเรา ต่างกับตลาดหน้าศาลากลาง มีแต่คนรู้จัก ไปแผงไหนก็ถามหาแต่ยาย ยายไม่มาด้วยเหรอ บางครั้งหมดอารมณ์ไม่ อยากเดินเลยก็มี ขึ้นรถเสร็จก็กลับกัน แต่ขำดี พอกลับรถได้ ฝนเทลงมา อย่างหนักแทบวิ่งรถไม่ได้ วิ่งมาสิบกว่ากิโลเมตรยังไม่พ้นสายฝน จนนึกห่วง บ้านเพราะตากผ้าไว้ยังไม่ได้เก็บ แต่ยังโชคดีพระพิรุณท่านคงทราบ เลยไม่ให้ ฝนหยดลงแม้แต่หยดเดียว ที่บ้านไม่มีฝน จอดรถเก็บของตามระเบียบจบได้
----------------------------
ไปเฝ้าไข้ยายที่โรงพยาบาล 

---------------------------
.......ผมเขียนเรื่องพาคุณยายไปพักผ่อนที่รีสอร์ทชื่อคล้ายโรงพยาบาล พออ่านเนื้อหาก็ทราบ
ว่าใช่โรงพยาบาลจริง ๆ ผมเขียนให้คนอ่านรู้สึกเบา ๆไม่ซีเรียส แต่บางท่านก็สงสัยว่าโรงพยาบาล
คล้ายรีสอร์ทตรงไหน ครับก็ชวนสงสัยจริง ๆ คนอื่นอาจรู้สึกกลัว ๆ เมื่อต้องไปโรงพยาบาล แต่คุณ
ยายจะรู้สึกเหมือนไปเยี่ยมบ้าน เพราะยายทำงานอยู่ที่นี่กว่าสามสิบปี มีพี่น้องที่คุ้นเคยกันยังทำงาน
อยู่เป็นจำนวนมาก ไปติดต่อแผนกไหนก็ได้ยินเสียงทักทายและให้กำลังใจ อยู่บ้านซะอีกที่เงียบ
เหงา ผมเลยแซวว่ามาโรงพยาบาลยังกะมาพักที่รีสอร์ทเลยนะยาย แกทำปากขมุบขมิบ คงสรรเสริญ
เข้าให้นั่นแหละ
........ยายมาโรงพยาบาลเที่ยวนี้เพราะหมอจะผ่าเอาสกรูที่ใส่ไว้คราวหกล้มสะโพกร้าวนานแล้วแหละ
ออกให้ เพราะกระดูกเชื่อมติดดีแล้ว คืนวันที่ 5 พย.2560 นอนพักเตรียมพร้อมรับการผ่าตัด ลูกสาว
พามาส่งตั้งแต่สามโมงเช้า ได้ห้องที่ตึกใหม่ เบอร์ 1404 ชั้นสิบสี่ห้องที่สี่ โทรมาบอกก็สบายใจที่
ได้ห้องกะว่าหลังเที่ยงจะแวะไปดู ซักห้าโมงเห็นเดินยิ้มเข้ามาบ้านทักทายกับหมาน้อย แปลกใจก็
ถามได้ความว่าขอเขามาทำธุระนิดหน่อยบ่ายให้ตาไปเฝ้า ก็ตามนั้นบ่ายคนเฝ้าก็เป็นตาตามสั่ง
........ถามพยาบาลเขาบอกเป็นการผ่าเอาสกรูออก ไม่อันตรายรักษาแผลให้ดีก็ไม่มีปัญหาอะไร
ก็เลยกลับบ้านเอาโน้ทบุ๊คมานังเขียนหนังสือฆ่าเวลา เขียนไปเขียนมาอยากอัพเฟซบุ้ค เขียนในคอม
จะอัพด้วยมือถือ ไม่ค่อยสะดวก ลองเชื่อมเนตผ่านมือถือด้วยฮอตสปอต ช้าแต่ก็ส่งได้ถ้าข้อความ
ไม่ยาวเกินไป ยาวเกินใช้เวลานานมากรอไม่ไหว ก็พอแก็ปัญหาได้ ปกติโน้ทเวลาเล่นที่บ้าน ใช้
WTFIของบ้านได้เลยเพราะเราเป็นคนตั้งพาสเวอร์ดเอง อยุ่โรงพยาบาลเชคดูมีสัก 12 ชื่อ แต่เราไม่รู้
พาสเวอร์ดเลยใช้ไม่ได้ ขนาดบางชื่อบอกบริการฟรี พอคลิกจะเชื่อมก็ถามหาพาสเวอร์ด นั่นแหละจึง
ต้องงมใช้มือถือ บริการไวไฟฟรีของ ไอ.ซี.ที. ที่คุยว่ามีทั่วถึงทุกจังหวัด ทุกตำบล ลองค้นหาข้อมูล
พบว่าต้องอยู่ใกล้จุดบริการ และต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อน สมัครก็ไม่ได้อีก เพราะเราอยู่ห่างจุดบริการ
สงสัยว่าจุดบริการจะอยู่สำนักงานเขาเองมั้ง มีก็เท่ากับไม่มี
.......คนป่วยดูแลไม่ยาก มีเจ้าหน้าที่พยาบาลมาตรวจเยี่ยมตามหมอสั่ง ทำแผล ให้ยา เวลาอาหาร
ก็ทานไม่หมด คนเฝ้าต้องช่วยทุกมื้อ ช่วยกินน่ะ เหลือเยอะของดี ๆ ทั้งนั้น แต่มันจืด มีน้ำปลาก็พอไหว
นอกนั้นก็นอนพัก เข้าห้องน้ำก็ยุ่งหน่อย สายน้ำเกลือ สายระบายของเสียจากแผลผ่าตัด ทุกลักทุเล
กว่าจะเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ยุ่งดี แขนเสื้อต้องสอดสายน้ำเกลือ ส่วนผ้านุ่งยายอยากได้แบบกางเกง
เหน็บแน่นดี แต่มันต้องสอดสายยางลอดขากางเกง เลยเอาผ้าถุงให้แทน เวลาอาบน้ำยายชอบใช้ผ้า
ขนหนูเล็ก ๆ ชุบน้ำอุ่นเช็ดตัวบ้าง เช็ดตูดมั่ง ก็ใช้คนละผืนกัน แต่มันสนุกตรงเอาไปตาก แห้งแล้วจำ
ไม่ได้ผืนไหนเป็นผืนไหน เพราะมาจากห่อเดียวกันสีเดียวกัน จนต้องไปซื้อห่อใหม่สีใหม่
...เช้าเย็นจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเชคเบาหวานความดัน ถามเขาบอกปกติก็เลยสงสัยว่าหน้าห้องบอกให้จัด
อาหารของคนเป็นเบาหวาน ไม่เปลี่ยนให้เหรอเธอสงสัยทำไมล่ะ ต้องหมอสั่งถึงเปลี่ยนได้ แหม 3 วัน
ที่ตรวจเบาหวาน 101-110 อยู่ช่วงนี้เอง เปลี่ยนอาหารได้คนเฝ้าจะได้ทานง่ายหน่อย แค่นี้แหละที่ถาม
เธอหัวเราะบอกว่าแล้วจะถามหมอให้ สงสัยงวดหน้ามั้งถึงจะเปลี่ยนให้ ของเยี่ยมไข้พวกขนมเครื่องดื่ม
ไม่มีปัญหาคนไข้เลือกทานได้ตามใจชอบ แต่ผลไม้ช่วงนี้มีแต่ของทานยากเช่น มะม่วงมัน ฝรั่ง พลับ
ยายเขาใช้ฟันปลอมบางส่วน เลยไม่ถนัดของพวกเนื้อแข็ง ๆ มาลงที่ตา ถึงจะไม่มีฟันเพราะถอดหมด
แต่มีฟันปลอมแบบเต็มปาก เลยไม่มีปัญหาช่วยกินแทนได้สบาย ๆ ลงไปซื้อน้ำปลา น้ำจิ้ม น้ำปลาหวาน
มาช่วยอีก ทานได้อร่อยดี ขอบคุณแทนยายแล้วกัน
......ยายเป็นคนขอบเย็น ๆ เปิดแอร์แล้วยังไม่พอ ต้องเปิดพัดลมช่วยอีกแรง ยายบอกมันติดแอร์ ลม
แอร์มันพุ่งเลยเตียงไปตกทางประตูเข้าโน่น ทำไมมันไม่ส่องแอร์มาที่เตียงคนไข้ นั่นซีนะ ช่างแอร์คง
ไม่รู้ยายจะมานอนเตียงนี้ ปกติคนไข้เจอแอร์หนาว ๆ มักจะไม่ชอบพาลจะจับไข้ให้ได้ เขาเลยทำแบบ
นี้สำหรับคนไข้ทั่ว ๆไป เรานั่งเฝ้าไข้ยังหนาวจนต้องหาเสื้อยืดแขนยาวมาใส่ เวลาอยู่บ้านล่ะเป็นยังไง
ห้องนอนยายติดแอร์ 2 ตัวนะ แต่เปิดทีละตัว มีพัดลมช่วยอีก 1 ตัว เราจะเข้านอนหลังยายหลับไปแล้ว
ก่อนนอนเราก็แอบปิดพัดลมซะ ยายหลับแล้วไม่รู้หรอก แบบนี้พอไหวไม่หนาวมาก
......อยู่ได้สี่ห้าวันแผลเริ่มดี ปวดน้อย ยายบอกหมอว่าดีขึ้นมากแล้วน่าจะให้ไปพักที่บ้านได้ นอนอยู่
โรงพยาบาลไม่ค่อยหลับ แล้วจะมาทำแผลเป็นครั้งคราวเอง ได้ผลแฮะ หมอแกก็รู้จักนี่ พยาบาลก็
ลูกน้องเก่า ตากลับมาบ้านมาเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน ยายสั่งให้เอารถไปรับหมอให้ออกไปพักที่บ้านได้
เอารถไปจอดที่หน้าประปา ห่างโรงพยาบาลสัก 500 เมตร แล้วขึ้นไปเก็บข้าวของ และจะไปรับยาไป
ใช้ที่บ้าน รอใบสั่งยาจากพยาบาล ลงจากชั้น 14 จะไปรับยา ยายนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ว่องไวจริง ๆ
ขนาดแผลผ่าตัดที่สะโพกนะเนี่ย รับยาเสร็จก็พากลับบ้าน อ้อบ้านห่างโรงพยาบาล 1500 เมตรเอง
กำลังจะเลี้ยวเข้าบ้าน ยายร้องเดี๋ยว ๆ ห้าโมงแล้วพาไปทานข้าวเที่ยงก่อนหิว เราขอเข้าห้องน้ำก่อน
ผ่านกรงหมามันเห่าประท้วง ทำนองหลายวันแล้วไม่ได้ไปไหน เลยเปิดกรงให้มันวิ่งไปหารถยนต์ที่
ยายรออยู่ พอเรากลับมารถ หมามันประจำที่เรียบร้อยจะไปด้วย
......เสียงโทร.สั่งไก่ย่างสองตัว ส้มตำไทยไม่เผ็ดหนึ่ง ส้มตำปูปลาร้า หนึ่ง ข้าวเหนียวสอง ร้านส้มตำทาง
สุวินทวงศ์แหงเลย ประมาณ 9 กม.ครับ แต่เขากำลังขุดถนนจะทำผิวจราจรเป็น หกเลน เลยช้าหน่อย
มาถึงที่นั่งว่าง ๆ ลูกค้าเขาส่วนมากสั่งไว้แล้วมารับเป็นถุงส้มตำ ถุงไก่ย่าง ถุงข้าวเหนียว บนราวเหลือ
อยู่สัก 3 จ้าว เรานั่งรอครูหนึ่งหันไปมองหมดแล้ว ไม่นานก็ได้ของครบตามสั่ง อร่อยมากครับ เขาหมัก
ไก่ไม่เค็มมาก ย่างกรอบไม่แฉะ ข้าวเหนียวนิ่ม กินเล่นยังอร่อยเลย ตำไทยไม่เผ็ดแม่ค้ารู้คนสั่ง ไม่ใส่
พริกให้เลย ถูกใจมาก ส่วนตำปูปลาร้าคนอีสานตำเขาใช้ปูนาลวกให้สุกแล้วแช่น่ำปลาเป็นปูดอง ลาว
อีสานสั่งใช้ปูนา ทั่วไปสั่งให้ปูดำ ปลาร้ารสแซบมาก มาทีไรหมดสองจานทุกที ยายให้สับไก่ตัวเดียว
อีกตัวจะเอากลับบ้าน แล้วแกก็เดินไปคุยกับแม่ค้า กลับมาได้ปีกย่างมาเต็มจาน แกกินแบบคนไม่ได้
กินไก่ย่างมาซัก 1 ปี ประมาณนั้นแหละ ไก่ตัวหนึ่ง ปีกอีกจานหนึ่ง เกลี้ยง เหลือแต่กระดูก จะเอาไป
ให้หมากลัวมันท้วง เลยไปเอาคอไก่ย่างมาสองไม้ ปนกับกระดูกไก่ให้หมามัน
......อิ่มทั้งคนและหมาแล้วก็กลับบ้านได้ วิ่งผ่านสามแยกไปนครเนื่องเขต ยายบอกให้พาไปซื้อ
มะพร้าว แต่ตาไม่ไหวอิ่มแล้วง่วงมากเลยขอผัดไว้วันหลังแล้วกัน ง่วงมากขับรถไม่ค่อยจะดี นั่นแหละ
ถึงยอมกลับบ้าน มาถึงบ้านเก็บข้าวของเสร็จก็หลับทั้งตาทั้งยาย หลับแล้วก็ตัวใครตัวมัน จะฝันไปเที่ยว
ไหนก็เชิญ ตาจะจบละ จะหลับแล้วนี่








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น