-------------------------------------
เล่าเรื่องทำบุญแทนคุณพ่อแม่ ........สมัยก่อนผมไม่ค่อยชอบทำบุญ เพราะไม่รู้จักบุญนั่นแหละ ที่ได้ทำก็เพราะไปกับ แม่และพี่ ๆ ตอนอยู่ประถมแม่ชอบชวนไปวัด ขึ้นบนศาลาใส่บาตรก่อนค่อยให้ลงไปลานวัดเพื่อนจัดทีมฟุตบอลรออยู่ แล้ว ขาดแต่กัปตัน ฟุตบอลเราทำจากผ้าขี้ริ้วม้วนกลม ๆ ฉีก ผ้าอาบน้ำฝนหลวงพ่อสองผืน ท่านให้มาเดิมเป็นผ้าถูพื้นของท่าน ซักล้างตากไว้หลายวัน ฉีกบิดเป็นเกลียวเชือก เอามาถักรอบลูกฟุตบอล ได้ ลูกขนาดส้มโอ เตะมันมาก เพื่อน มันขีดเส้นสนาม มีหลักปักเป็นประตูด้วย ข้างละ 5 คน สำรอง 1 ไว้เปลี่ยนตอนมีคน เหนื่อย สนามเล็ก 5 คนก็แน่นแล้ว กรรมการไม่ต้องมี แข่งกันนานแค่ไหนไม่รู้ ไม่มี นาฬิกา เคยทำแบบอันจมที่เขาใช้จับเวลาชนไก่ เพื่อมันไม่เอา บอกเราไม่ใช่ไก่ (ทำด้วยกะลามะพร้าว เจาะรูเล็ก ๆ วางใส่ถังน้ำ ให้น้ำค่อย ๆซึมเข้า จนมันจมลง ก็ หมดยก เรียกน้ำที่ 1 ตีกัน 3 ยก จบ ไม่ได้ ทำเองหรอก เพื่อนมันลักของพ่อมันมา) เล่นไปสักพัก มัคทายกลงมาด่าเบา ๆหน่อยโว้ย หนวกหู พระกำลังฉัน นอกเรื่องไป เยอะนะนี่ แค่จะบอกว่าเป็นคนชอบไปวัดไปวาแต่ยังเด็ก แต่นึก ๆ ดูไปเพราะชอบไป เล่นไม่ได้ชอบไปทำบุญหรอก
.......ช่วงเป็นนักเรียนประถม มัธยม ครูพาไปทำบุญที่วัดก็ไปแบบงง ๆ มีการบริจาคเงินรวมกันทำกัณฑ์เทศน์ถวายพระด้วย ไปถึงวัดก็สายแล้วหลังเที่ยง เดินรอบโบสถ์ จุดเทียนไปด้วย ยังนึกขำเลย สว่างกลางวันให้จุดเทียนทำไม หยดใส่มือร้อนตายชัก เวียนตอนกลางคืนค่อยคุ้มหน่อย ครูสั่งให้ระลึกพระ พุทธเจ้า รอบสองพระธรรม รอบ สามพระสงฆ์ นึกไม่ออกหลับตานึกก็เห็นแต่ภาพพระพุทธรูป พระธรรม นี่ไม่เห็นรูปเลย ไม่รู้หน้าตาเป็นยังไง พระสงฆ์ก็เห็นแต่ภาพพระครูท่าน ไม่รู้ว่าทำไมต้องนึกถึง นึกไป
เดินไป ไม่กี่ก้าวก็ลืมแล้วมาบนศาลาวัดร้อนมาก เหงื่อแตกพลั่ก ครูพาสวดมนต์ไหว้พระรับศีลฟังเทศน์ ถวายกันฑ์เทศน์แล้วก็ปล่อยกลับบ้าน สมัยเราเป็นครูให้ปรับทำ กิจกรรมบนศาลาก่อน ค่อยลงไปเวียนเทียนเสร็จเลิกกลับบ้านไป
.......พระบิณฑบาตรตอนเช้าจะผ่านถนนหน้าบ้านทุกวัน แม่และพี่สาวตักบาตรกันบ้าง เราไม่ตักเลยอายพระ ยังนึกเลยว่าถ้าเราบวชจะอุ้มบาตรเดินรอบบ้านแบบนี้ได้หรือ อายน่ะ แล้วสิ่งที่อายก็มาถึงเมื่อต้องบวชแทนคุณพ่อแม่สามเดือนก่อนค่อยสึกออกมาแต่งงาน คำนี้พ่อแม่ว่าเอง เราไม่รู้หรอกว่ามันจะทดแทนกันอย่างไร ทำขวัญนาคก็ตั้งใจฟังนะเขา ว่าพูดถึงคุณพ่อแม่ไว้อย่างพิศดาร แต่ตอนบวชทดแทนอย่างไรไม่เห็นว่าให้ฟัง ไปมอบ ตัวล่วงหน้า 7 วัน ท่องคำขานนาค ท่องบททำวัตรสวดมนต์ ได้เยอะเหมือนกัน วัดที่บวช หลวงปู่อายุเกินร้อยแล้ว บิณฑบาตรไม่ไหว พวกบวชใหม่คือสมาชิกใหม่ทั้งหมด มีโยม เขามาแนะนำกิจวัตรของพระต้องทำอะไรบ้าง วันพระหลวงปู่มาร่วมทำวัตรเย็น ท่านสอน
ให้บ้าง ผ่านไปเดือนหนึ่งถึงจำได้ กิจกรรมที่ทำประจำช่วงบวชอยู่ทำอะไรบ้าง พรรษาที่ 1 จำพรรษาวัด ที่บ้าน วัดอัมพวันบ้านหนองลุมพุก สอบได้ นธ.ตรี พรรษา ที่ 2 3 วัดหรคุณบ้านหนองหารจาง อำเภอ น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น จบ นธ. โท นธ.เอก และปธ.2) ช่วงนี้กิจกรรมประจำวันคล้าย ๆกัน ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา
........ตีสี่ตื่นนอนทำวัตรส่วนตัวที่ห้องนอน ตีห้าทำวัตรรวม สว่างลงกวาดลานวัด เณร ตักน้ำใส่ตุ่ม ปัดกวาดศาลาฉัน เตรียมบาตรให้หลวงพี่ หกโมงครึ่งเตรียมออกบิณฑบาตร รับบาตรจากเณรก็เดินแถวเข้าหมู่บ้าน ไม่สวมรองเท้า ไม่วอกแวก ตาจ้องไม่เกินเจ็ดก้าว ไม่พูด คนจะใส่บาตร เปิดบาตรให้แผ่เมตตาให้ อย่ามองหน้าเขา โดยเฉพาะสาว ๆ สำรวม ให้มาก เสร็จก็ผ่านไป ไม่ต้องให้พร เพราะอาบัติ ห้ามพูดจาขณะเดินในบ้าน บาตรเต็ม หยุดรับ เดินกลับวัดเลย โยมจะใส่รู้เขาจะตามไปตักบาตรที่วัดเอง ถึง วัดเณรจะรับบาตร ไปเอาสิ่งของที่มิใช่ข้าวออกใส่ถาดรวมไว้ โยมเขาจะแยกจัดแต่งเป็นสำรับเอง บาตร
วางเรียงแถวไว้ คนที่จะตักบาตรเพิ่มก็ตักได้เลย สองโมงตรงลงศาลา สามเณรเขาจัด ที่นั่งฉันเรียบร้อย นำบาตรมาถวาย ยกสำรับอาหารถวาย คนที่สมาทานธุดงค์ฉันเฉพาะที่ มีในบาตร ก็ไม่รับสำรับที่เป็นถาด ฉันเสร็จก็ให้พร จบภาคเช้า ถ้าเป็นวันพระ คนมาเยอะ เขาจะจัดถวายสังฆทาน และไม่ให้ไปบิณฑบาตร
........วันพระหรือวันมีทำบุญสังฆทานต่าง ๆ บาตรจะจัดตั้งไว้ที่สำหรับให้ชาวบ้านใส่บาตร พระลงศาลาเจ็ดโมงครึ่ง ชาวบ้านพร้อม มัคทายกจุดธูปเทียนบูชาพระ สวดมนต์ไหว้พระ รับศีล อาราธนาพระปริตตมงคล พระเจริญพระพุทธมนต์ เพิ่มบทไชยมงคลคาถา(พาหุง) โยมเริ่มตักบาตร พวกจัดสำรับกับข้าวก็ทำไปจนเสร็จ มัคทายกนำกล่าวคำถวายสังฆทาน ยกบาตรถวาย ยกสำรับกับข้าวถวาย อาราธนาเทศน์ หัวหน้าเทศน์ ที่เหลือฉันไป เทศน์จบ พอดีให้พรได้พร้อมกัน โยมส่วนหนึ่งก็กลับ บางส่วนรอรับทานอาหาร หัวหน้าฉันลำพัง รูปเดียว ที่เหลือก็กลับ บางรูปก็รอหัวหน้า โยมช่วยจัดการสำรับ ล้างถ้วยชาม แล้วมานั่ง รับประทานอาหารกัน จบภาคฉันเช้า
.........สามโมงครึ่งพระเณรที่เรียนนักธรรมลงห้องเรียน ครูสอนนักธรรม ตรี โท เอก ก็ สอนกันไปจน ห้าโมง หยุดพักฉันเพล และพักผ่อน บ่ายโมงครึ่งลงเรียนภาคบ่าย ไปเลิก โน่นสี่โมงครึ่งพร้อม ๆนักเรียนโรงเรียนประถม ช่วงพรรษาที่ 2-3 อยู่สำนักเรียน ได้เรียน นักธรรม เรียนบาลี และเรียนเทศน์ปุจฉาวิสัชนา เทศน์หกกระษัตริย์ ตารางแน่นจริง ๆ เช้าเรียนนักธรรม บ่ายเรียนบาลี วันพระ 8 ค่ำ 15 ค่ำ เรียนเทศน์ ทำวัตรเช้าเย็นมีปกติ เตรียมลงทำวัตรเย็น พระปลงอาบัติก่อนทำวัตร สามเณรสมาทานรับศีล 10 ทุกวันพระ ใหญ่ เพราะไม่มีปลงอาบัติแบบพระ ทำวัตรเย็นจนจบก็เสวนากันตามเรื่องราวที่มีใครหยิบมา
หารือ ไม่มีก็แยกย้ายเข้าที่พัก ดึกหน่อยก็ทำวัตรส่วนตัว แผ่เมตตา พิจารณากัมมฐาน เหนื่อยแล้วก็หยุดพักหลับนอน
.........นอกเหนือกิจประจำ ยังมีกิจพิเศษแถมามากบ้างน้อยบ้าง งานทำบุญบ้าน ลักษณะงานมงคลต่าง ๆ คล้าย ๆกัน เขานิมนต์ไปเจริญพระปริตตมงคล ฉันเช้า บางบ้าน มีเทศนาด้วย เช่นขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญบ้านโอกาสสำคัญ ๆ แต่งงาน ทำขวัญคนหายเจ็บป่วย งานอวมงคลกรณีคนตาย ทำบุญเนื่องด้วยคนตาย 3 วัน 7 วัน 100วัน มีเรื่องตื่นเต้นตอน บวชได้เจ็ดวันมีคนตาย หลวงปู่ว่า พวกมึงไปให้บุญเขา เป็นสาวสวยนาติดกันเคยหยอกล้อ กันก็บ่อย แกป่วยนานแล้วแหละ ตายตอนซักสองโมงเช้า โยมรีบมาบอกให้ท่องบทสวด ธัมมสังคิณี บังสุกุล และบทอนุโมทนา แกถามว่าท่องทันใหม่ บ้านนอกเขาห้ามท่องบ่น มันอาถรรพ์แรงแพ้ทำให้ชาวบ้านเสียชีวิตได้ง่าย ก็ไม่มีปัญหาหรอก แอบท่องในห้องนอน บ่อยจนจำได้ คนอื่นไม่รู้ จากนั้นมางานมงคล อวมงคล ต้องไปทำหน้าที่พระให้ชาวบ้าน รู้สึกเขาพอใจ พระเณรรุ่นนี้สวดคล่องไม่มีติดขัด ก็เพราะจบทำวัตรจะนัดทบทวนกับ 1 บท เสมอ เช่นวันนี้ ทำวัตรเช้าเสร็จ ซ้อมมงคลสูตร เย็นทบทวนรัตนสูตร วนเวียนไป เพื่อช่วย คนที่จำยากนั่นเอง ช่วงมาอยู่สำนักเรียน งานพวกนี้มีมาก แต่พระเณรเยอะ แบ่ง ๆ กันไป เลยไม่เหนื่อย
..........บุญจากการเทศน์ ปกติชาวบ้านจำศีลแปดค่ำ สิบห้าค่ำ มีประมาณ 25-30 คน เช้า ๆ หกโมงเศษจะได้ยินเสียงระฆัง ให้พระลงไปให้ศีลแปด ทำวัตรเสร็จพอดี เราต้อง รับบทนี้ประจำ หลวงปู่สั่งไว้ กลางวันโยมจะนั่งกรรมฐานกัน จนบ่ายจะเคาะระฆังอีกครั้ง ขอฟังเทศน์ 1 กัณฑ์ เขามีหนังสืออานิสงส์ให้อ่าน แต่เราไม่ชอบ เพราะแต่งซะเกินไป เช่น ทานเข็มเล่มเดียวเกิดชาติหน้าสติปัญญาเฉียบแหลม ทานข้าวก้อนหนึ่งไปเกิดใน สวรรค์วิมานสูงเป็นโยชน์บริวารนับร้อยนับพัน เลยอ่านเอาแต่สาระถ้าจะมีนิทานหรือชาดก
ก็อ่านแล้วเล่าเอง เทศน์แบบนี้ปรากฏว่าโยมชอบมาก งานไหนก็งานไหนสั่งไว้เลยให้ หลวงพี่เป็นคนเทศน์ สมัยมาอยู่สำนักเรียน ได้เรียนเทศน์ รู้จักหลักการเทศน์ดีขึ้น อาจารย์พาไปฝึกเทศน์บ่อย ๆ จนปล่อยให้เทศน์เอง ไปบ่อยเพราะสำนักเรียนนี้โด่งดัง มานาน มีงานเทศน์เข้ามามาก คนเทศน์ขาดก็ดึงเอามือใหม่ไปเสริมบ้าง จำได้ว่าแรก ๆ ได้ไปสัก 3 งาน ปี 2-3 เกิน 10 งาน เคยไปไกลถึงเวียงจันทร์ เทศน์หกกระษัตริย์ เขา เคยฟังทำบุญกฐิน หานักเทศน์ใกล้ ๆไม่มี เลยตามมาจนถึงขอนแก่น พระเทศน์ชอบมาก หญิงชายฟ้อนรอบธัมมาสน์ มีติดกัณฑ์เทศกันวนรอบศาลา จบก็เอาเงินกีบมายัดย่ามถวาย
ตอนข้ามมาฝั่งไทยแลกได้สามร้อยบาท เยอะนะสมัยโน้น
........พรรษาที่ 4-7 จำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง จังหวัดเลย เจ้าคณะจังหวัด สีหนาทภิกขุ นักเทศน์ปากกรรไกรคมกริบ ได้ศึกษาผลงานและรูปแบบการเทศน์ของท่าน แอบเอามาใช้ บ้าง ท่านหัวเราะบอกว่ามหาเทศน์แบบนี้มีบางคนไม่ชอบนะ ระวังจะไม่มีคนใส่บาตรให้ อยู่ที่วัดนี้ได้เรียนด้วย ได้เป็นครูด้วยสอนนักธรรม สอนบาลีและสอนการศึกษาผู้ใหญ่ จบ ปธ.3 ปธ.4 ช่วยสอนบาลีให้อาจารย์ วุฒิ. ม.6 ช่วยสอนคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ การศึกษาผู้ใหญ่ของวัดได้ด้วย ที่เล่ามานี่คือเป็นธรรมทานน่ะครับ มีโอกาสทำค่อนข้างมาก บุญกุศลก็ส่งผลให้เราสอบ พ.กศ. สองปีแรก ส่วน พ.ม. สอบปีเดียวได้เลย ลือกันทั่ว บ้านติ้ว มีโยมมาขอดูตัวด้วยนะ เออตอนนั้นผอม ๆ ดำ ๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะทำแต่งาน สอน ๆ ๆ ๆ โยมชวนไปเที่ยวกินข้าวป่า ไม่ว่าง ชวนไปเยี่ยมนาข้าว ไม่ว่าง แบบนี้ ไง ถึงไม่มีใครรู้จัก พอข่าวพระวัดนี้ สอบวิชาชุด พม.ยกชุดในการสอบครั้งเดียว ถึงได้มาขอดูหน้าหน่อย อ้อ สอบได้วิชาชุดวิทยาศาสตร์ ด้วย พระอะไรสอบได้ชุดวิชาวิทยาศาสตร์ ครูไปอบรมเป็นเดือน ยังสอบไม่ค่อยจะผ่าน โห พวกโยมไม่ รู้นี่นา จบ ม. 6 คะแนนคณิต วิทย์ เต็ม สอนการศึกษา ผู้ใหญ่สองวิชานี้หาครูยากมาก หลวงพ่อบอกว่า มหาช่วยสอนหน่อย หาครูได้ค่อยเปลี่ยน จนสึกก็ยังหาครูมาสอนไม่ได้ เพราะส่วนมากเป็นครูสตรี ชวน มาสอนพระเณร ไม่เอา
.........การปฏิบัติรักษาศีล แรก ๆก็ไม่รู้ แต่พวกเราจะสอบธรรมตรีกัน ท่องธรรมวินัย กัน เพื่อนให้เราเป็นผู้นำการสอน ครูจริง ๆ ไม่มีก็ตกลงให้อ่านหนังสือแล้วมาสัมมนากัน ส่วนวินัยคือศีล 227 ข้อ เลยถึงบางอ้อ ศีลพระอยู่นี่เอง จำได้ติดปากจะเอาไปสอบ อ่านวิธีการแก้ไขเมื่อมีปัญหาละเมิดศีล เดือนแรกพรรษาท่องจบแล้ว ไปเห็นหนังสือ พระภิกขุปาฏิโมกข์ เข้าใจว่าเป็นเทศนาที่พระพุทธเจ้าตรัสวันมาฆบูชา เอามาอ่าน ปรากฏว่าไม่ใช่ แต่เป็นศีล 227 ข้อ ที่เป็นภาษาบาลี มีคำแนะนำว่าพระต้องฟังสวด
ปาฏิโมกข์เพื่อทบทวนศีล ทุก 15 วัน อ้าววัดเราจะไปฟังสวดที่ไหน เจอหลวงปู่ก็เลย ถามท่านบอกว่าสวดไม่ไหวแล้ว ให้ไปลงอุโบสถวัดเจ้าคณะตำบล วัดพระอุปัชฌาย์เรา นั่นแหละ คนสวดคือพระอาจารย์สมชาย พระกรรมวาจารย์เรานั่นเอง ได้คุยกับท่าน ทราบว่าท่านท่องอยู่เป็นปี เล่มเล็ก ๆเองทำไมท่องนานจัง กลับมาวัดก็เลยลองท่องเล่น ๆ 15 วัน ท่องจบ ทำวัตรเย็นเสร็จ ทบทวนทุกวัน ออกพรรษาก็ลองสวดให้พระอุปัชฌาฟัง ท่านชอบใจ ถวายผ้าให้ 1 ไตร บอกต่อไปช่วยท่านสมชายสวดได้เลยก็ได้สวดบ่อย ๆ เพราะท่านอายุมาก ได้รางวัลผ้าไตรทุกปี ดังนั้นการรักษาศีลก็ง่ายเพราะรู้จักทุกข้อ ส่่วน
กรรมฐาน พระอุปัฌาย์ให้มาวันแรกที่บวช เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ อนุโลมปฏิโลม อยู่ห้องนอนก็ทำบ่อย ๆ แต่ผลไม่น่าพอใจ วิธีสติปัฏฐานจะทำให้เกิดสมาธิง่ายกว่า
.........ได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่โดยไม่รู้ตัว พ่อแม่เป็นคนไร่คนนา ขยันมาก พระ บิณฑบาตรถนนห่างบ้าน 100 เมตร เลยไม่ค่อยไปใส่บาตร ช่วงเราบวชแกล้งพาลูกน้อง แวะตามทางเดินผ่านรั้้วไป ไม่ใส่บาตรไม่ได้แล้ว พระมาเห็น ๆ มากันทั้งคุ้มเลย วันพระเห็นใส่ชุดขาวมาจำศีลกะเขา นึกขำในใจนะ พ่อเป็นคนเรียนหนังสือเก่ง ลายมือก็ สวยไปท่องบทสวดต่าง ๆมา นำสวดมมนต์ไหว้พระได้ มัคทายกเดิมท่านเสียตอนพรรษา ที่ 2 พ่อเลยสืบทอดตำแหน่งไม่มีผู้แข่ง ปีที่เราสอบเปรียญ 3 ได้ เขาเรียกพ่อมหา แม่มหา หน้าบานยังกะกระด้ง ราศีสดใสทั้งสองตายาย ก็เลยนึกได้
........แทนพระคุณพ่อแม่เราทำได้ ทำมานานแล้ว สมัยเรียนประถม สอบเสร็จ ครูประจำ ชั้นแวะมาบ้าน คนที่มาชี้หน้าด่าเรากำลังดื่มนมแม่นั่นแหละ รู้ทีหลังแกแอบมาบอกข่าวว่า ลูกชายมีงสอบได้ที่ 1 ได้เหล้าขาวฟรี 1 ขวด ๆไปโรงเรียนก็เห็นประกาศได้ที่ 1 จริง ๆ ขนาดตอนเรียน ป. 2 คนมาบอกข่าวแลกเหล้ายังเป็นคนเดิมนะ เพราะแกเป็นเพื่อนพ่อ สองตายายนี่ก็บ้ายอ เสียเหล้าฟรีก็เต็มใจ หมดไปเยอะเหมือนกันนะ สมัยนั้นสอบซ้อม 3 เทอม เทอมปลายมีสอบไล่อีกครั้ง เป็นสอบสี่ครั้ง เสียเหล้าฟรี 4 ขวดต่อปี 4 ปีก็ 16 ขวด มัวแต่ไปนับเหล้า ลืมไปว่านั่นเราทำให้พ่อแม่ปลื้มใจ เป็นการตอบแทนคุณที่ยอด เยี่ยม เพราะช่วยให้แกอิ่มอกอิ่มใจตลอดมา เราก็บ้าสอบได้ที่ 1 ปีละ 4 หน เรียนมัธยม 6 ปี ปีละ 4 ครั้ง ฝีมือไม่ตก ตอนบวชก็เช่นกัน นักธรรมตรี โท เอก พ่อแกรู้ข่าวก่อนใคร เพราะแกชอบเอาของไปถวายพระอุปัชฌาย์ วัดใกล้บ้านห่าง 5 กม.เอง วัดเจ้าคณะที่ เป็นสนามสอบ ผลสอบออกประกาศที่นี่ก่อน เห็นหน้าโยมก็หัวเราะบอก โชคดีอีกแล้ว ลูกชายได้นักธรรมตรี....โท...หลังจากนั้นย้ายไปเรียนบาลี เป็นเรามาแจ้งข่าวเอง ได้ เปรียญสามพ่อว่า น่าจะฉลองพัดยศนะ คนแรกของบ้านเราเชียวนะ เราขำ ๆ ไม่ให้ทำ เพราะประโยชน์น้อย ได้โอ้อวดอย่างเดียว ไม่ใช่ใบปริญญาจะได้เอาไปสมัครงานได้
........ตอนแม่เสียยังเป็นพระมหาอยู่ยังไม่สึก ได้ดูแลแม่จนลมหายในเฮือกสุดท้าย สาย ตาที่มองดูเราด้วยความห่วงใย ขอโทษแม่นะที่ฉันผิดสัญญา ตกลงกันบวชสามเดือน จะสึกออกมาแต่งงาน แต่ล่วงสามปีเข้าแล้วยังไม่สึก คงอยากเห็นลูกมีครอบครัวมีลูกมี หลานนั่นแหละ พ่อโชคดีกว่าทันได้เห็นลูกชายบรรจุเป็นครู ยืนกว่านั้นสักปีเดียวก็ได้เห็น ลูกสะใภ้แล้ว แต่งงานแล้วถึงได้พาไปเคารพเจดีย์สองตายาย ขอโทษนะพ่อและแม่ ชะตาชีวิตบางทีก็กำหนดได้ยาก แต่เชื่อนะว่าทุกสิ่งที่กระทำไป ช่วยให้พ่อแม่ภูมิใจได้ เสมอมา
...........ผลดีที่ได้บวชเรียนพระธรรมวินัย บวชแล้วได้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะแทนท่าน เจ้าอาวาส ทำให้
ได้เรียนรู้การบริหารงานของคณะสงฆ์ ได้สนใจการปฏิบัติตามพระธรรม วินัย รู้จักอาบัติ รู้การทบทวนศีลทุก 15 วัน รู้วิธีปลงอาบัติ อาบัติที่ปลงได้ ปลงได้แต่มี เงื่อนไข นิสสัคคีย์ ต้องสละสิ่งที่ทำให้ต้องอาบัติก่อนค่อยปลงได้ สังฆาทิเสส ต้องอยู่ ปริวาสและมาณัติก่อนจึงจะขออัพภาณโดยคณะสงฆ์ วีสติวรรคได้ ส่วนปาราชิก 4 ข้อนั้น ไม่ต้องทำอะไรเพราะมันปลงอาบัติไม่ได้ ผิดแล้วขาดสภาพภิกษุทันที ไม่ต้องให้ใครบอกไม่ต้องให้ เขาเสียเวลาลงมติ
...........สึกออกมาสอบบรรจุเป็นข้าราชการครู ครูตรี โก้ดีเหมือนกัน พ่อดีใจมาก ข่าวว่า คุยให้ชาวบ้านเขารู้คงจะครบทุกครัวเรือนแล้ว เพราะแกเป็นมัคทายกด้วย เสียดายไม่ถึง สี่เดือนเลยพ่อล้มเจ็บลง ด้วยโรคยอดฮิตที่ชาวบ้านเขาเป็นกัน ฝีในท้อง กว่าจะแสดง อาการก็เจ็บหนักแล้ว พาไปโรงพยาบาล ฟังหมออธิบาย ก็ไม่สบายใจนักหมอว่ามาช้า ไประยะสุดท้ายแล้ว ก็ลามาเฝ้าดูพ่อช่วยพวกพี่ ๆ คราวละ 5 วันแล้วก็กลับไปลาใหม่ ที่สุดพ่อก็จากไปเสียใจมากเหมือนกัน เพราะการได้เป็นข้าราชการคือสุดยอดความคาด หวังที่แกอยากให้เป็นนับแต่ส่งไปเรียน ม.1 น่าจะมีโอกาสได้ดีใจเป็นสุขนาน ๆกว่านี้ หน่อย
..........ยาวมากจริง ๆ ขอสรุปแหละนะ การทำบุญทดแทนคุณพ่อแม่นั้น ต้องทำกัน ตลอดชีวิตเลยแหละ ใช่บวชสิบห้าวันสามเดือนจะเพียงพอ ยิ่งบวชแบบไม่รู้เทคนิคการ สร้างบุญด้วยละก็ เสียเวลา พระทำบุญด้วยวิธีเดียวกับเราคือ บุญกริยาวัตถุ 3 ทำทานได้ บุญ ปฏิบัติศีล และภาวนา ได้บุญ ถามดูว่า บวช 15 วัน 3 เดือน ได้ทำบุญกี่มากน้อย ดีไม่ดีสู้ ลูกสาวอยู่กับพ่อแม่ ทำมาหากินเลี้ยงดูพ่อแม่ให้มีข้าวปลาอาหารบริโภค ให้มี เสื้อผ้านุ่งห่ม เจ็บป่วยดูแลใกล้ชิด มีโอกาสก็พาไปทำบุญทำทาน พาไปท่องเที่ยว ทำได้แบบนี้จะดีมากเลย กรทำบุญตอบแทนพ่อแม่ที่ดีมาก ๆคือการทำให้ท่านดีใจ เป็นสุข และภูมิใจในสิ่งที่เราทำ ผมขยันตั้งใจเรียนสอบได้ที่ 1 ประจำ พ่อแม่เป็นสุขและภูมิใจ ขนาดเราไม่ค่อยอยู่บ้าน พี่สาวบอกบ่นหาแต่มึง ได้ปลาตัวโต ๆ ทำปลาแดดเดียว จะ เก็บไว้ให้มึง ดีที่พี่สาวพี่ชายเข้าใจ ไม่อิจฉา ช่วงที่พ่อแบ่งมรดกให้ เราก็แจ้งพวกพี่ ๆ ว่าส่วนที่พ่อยกให้เรานั้น ยกต่อให้พี่สาวคนที่เลี้ยงดูพ่อแม่นั่นแหละ ผมเป็นครูคงไม่คิด มาทำนาหรอก ความจริงคือมันไม่มากมายอะไร ให้พี่เขาเถอะเขาอยู่กับบ้าน จบได้แล้วนะครับ ...
.
*************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น