วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ตำหนิพระสงฆ์องค์เจ้าตกนรกหมกไหม้

                                                         ไปเที่ยววัดหงส์ทอง บางปะกง
----------------------------------------------
..........เกิดมาพอรู้ความก็ได้ยินเลย ผู้เฒ่าจะสอนลูกหลานมิให้ตำหนิ ด่าว่าพระ ท่านว่าเป็นบาปมาก ผู้หญิงนี่ห้ามสัมผัสแตะต้องด้วย เป็นเด็กก็ไม่ได้ ดีนะสมัยก่อนไม่มีภาพออนไลน์ให้ดูกัน วันหนึ่งผมเห็นคุณพ่อบวชใหม่อุ้มลูกสาวถ่ายภาพ หลายคนคอมเม้นท์ว่าไม่เป็นไร ไม่ได้มีจิตลามกซะหน่อย เราอ่านก็ขำ ๆ ถ้าได้..มีโอกาสบวชจะลองกอดสีกาหน้าตาดีโดยไม่มีจิตลามกถ่ายรูปอวดซะหน่อย ไม่รู้คนจะคอมเม้นท์ว่าอะไร คงจะออกมาทำนองหลวงตาหัวงูซะมากกว่า คนสมัยก่อนท่านเคารพพระภิกษุกันมาก ไม่อยากให้ใครติเตียนท่าน แต่สมัยนี้ต้องคิดใหม่แล้วแหละ...
..........พระภิกษุ ไม่ใช่พระสงฆ์ในบทสวดมนต์ไหว้พระ ย่อมจะมีทั้งพระภิกษุธรรมดา ๆ และพวกบวชเพื่อศึกษาพระธรรม ... กว่าจะเป็นสาวกสังโฆ ก็นานอยู่  พระที่บวชแล้วก็ยังไม่เคยรู้จักศีลพระ หลายพรรษายังสวดบททำวัตรไม่ได้มักเห็นบ่อย เคยเห็นเพื่อนแทคมาให้ดู บอกว่าวัดนี้ท่านขยันทำวัตรสวดมนต์ ไลฟ์สดมาให้ดูด้วย เราก็ดูด้วยความแปลกใจ เห็นพระ 5 รูป นั่งเปิดหนังสือสวดมนต์ ข้างล่างชาวบ้านเห็นสัก10 คน นั่งเปิดหนังสือทำวัตรเย็นกัน อ้อวันพระมาจำศีล เลยทำวัตรพร้อมพระ ดูพระอายุเกิน 60 หมดคงบวชไม่นานถึงต้องอ่านหนังสือทำวัตร มีรูปหนึ่งเรารู้จัก ท่านเกษียณมาสามปีแล้ว ข่าวว่าท่านบวชไม่ได้อยู่บ้าน แสดงว่าสองพรรษาเศษแล้ว บวชพระแล้วสวดมนต์ปากเปล่าไม่ได้นี่ ไม่งามเลยนะ  รีบ ๆท่องเถอะหลวงพี่หลวงพ่อ เจอเขานิมนต์ไปสวดศพแบบทางบ้านนอกละก็ หนาวแน่ คงไม่กล้าหอบหนังสือไปอ่านสวดศพหรอกนะ
.....พระที่ทำให้เรานึกตำหนิ ได้แก่ท่านที่มีพฤติกรรมไม่สำรวม ไม่สมกับมีศีล 227เดินบิณฑบาต สะพายย่าม หนักหน่อยก็ถือถุงผ้าไปด้วย เอ...หลวงพ่อ รับบาตรก็มีข้อจำกัดอยู่มิใช่หรือ รับแค่พอฉัน หรือรับพอเต็มบาตร หยุดรับได้แล้ว มากกว่านั้นมันเป็นอาบัติทุกคำเชียวนา มีบางรูปชาวบ้านเขาใส่เงินทองลงในบาตรด้วย บาปทั้งคนใส่และคนรับแหละคุณโยม แถวหน้าบ้านมี 3 หลวงตา เขาจัดเก้าอี้ให้นั่งบิณฑบาต ข้าง ๆมีถุงปุ๋ยสองสามใบไว้ถ่ายของเวลาของเต็มบาตร เห็นภาพแล้วเราเกิดบาปทุกวัน ๆ ก็เกิดมโน      ทุจริตน่ะครับ อ้ออีกนิดที่ท่านให้พรเสียงดังลั่นเชียว คงเพื่อให้คนใส่บาตรอิ่มบุญมั้งแต่มั่นทำให้ท่านอาบัติ ทุกคำที่สวดไป คงไม่ใช่บุญของท่านแน่ บาปเหมือนกันน่ะแหละ
.........พระที่ไม่สำรวมระวังอาบัติหนัก เห็นเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ สมัยผมเป็นพระ รู้ว่าพระได้รับเงินอุดหนุน มีสำนักเรียนปริยัติธรรม มีนักเรียน จะได้รับเงินบำรุง เอาถวายเจ้าอาวาส และครูผู้สอน เจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล ยังไม่มีนิตยภัต ผมได้รับนิตยภัตครั้งแรก เดือนละ 60 บาท ในตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะอำเภอ ดีใจแทบตาย ปี 2516 ก่อนสึกมี บัญชีนิตยภัตเจ้าอาวาสทุกวัด ได้รับด้วย รู้สึกจะเป็นเดือนละ 100 บาท ยังนึกอิจฉาเลย ดีกว่าเป็นเลขานุการ เจ้าคณะอำเภออีก แต่มันมีปัญหาเกิดขึ้นน่ะครับ มีคนมาถามหาวัดร้าง คือวัดที่ไม่มีพระจำพรรษา แต่ยังไม่ได้ยกฐานะเป็นวัดร้าง ชาวบ้านพยายามหาพระไปอยู่ไม่อยากให้ร้าง เจ้าคณะตำบลก็แจ้งให้ทราบ และขอให้ชะลอเวลาไว้จนเข้าพรรษา ไม่มีพระอยู่จริง ๆ ก็เข้าทะเบียนวัดร้างได้ ถามเขาจะเอาชื่อวัดไม่มีพระไปทำอะไร เขาบอกจะหาเจ้าอาวาสไปอยู่ให้ เจ้าคณะจังหวัดเป็นคนลงนามคำสั่งแต่ตั้งเจ้าอาวาสนี่ จะยากอะไร มีบัญชีรายการถวายท่านก็ลงนามให้หมดแหละ แสดงว่ากลั่นกรองมาระดับตำบล อำเภอมาแล้ว มารู้ทีหลังว่าเจ้าอาวาสรับนิตยภัตทุกเดือน แต่ไม่ได้ไปอยู่วัดเลย สมัยนั้น 100 บาทเองนะ แต่วันนี้ทราบว่า เป็น 1200 บาทแล้ว คงมีพระไม่สำรวมโดนปาราชิกาบัติเป็นว่าเล่นเพราะ เกิน 300 บาท ตั้ง 4 เท่า(อาบัติปาราชิก บัญญัติไว้ ลัก โกง 5 มาสก เป็นอาบัติ และ เทียบค่าเงินปัจจุบัน เท่ากับ 300 บาท)
.........พูดถึงแต่เรื่องเสียหาย เรื่องดี ๆ ของพระไม่มีหรือไง มีสิครับ เยอะด้วย จนเขาเรียกว่าพระนั่นแหละ พระ คำนี้ เป็นคำเดียวกับคำว่า พร หรือ วร ที่แปลว่าเลิศ ประเสริฐ ดีงาม จากคนดิบ ๆ บวชเสร็จเรียก พระ ทันทีเลย แสดงว่าเป็นพระนี่ มีอะไรดีแน่ ถึงมั่นใจว่า บวชแล้ว เป็น พระ ได้ ความจริงมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอก เพราะผ่านพิธีกรรมที่จะเป็น พระ แล้ว ต่อไปก็ทำให้เป็นพระซะสิ จะได้เป็นพระจริง ๆ ทำอย่างไรถึงเป็นพระได้ล่ะ ตอนบวชท่านก็บอกแล้วนะ ไม่จำเอง มีอะไรบ้าง
.........1. เธอต้องเคารพนับถือพระศาสดานะ (นะโม ตัสสะ ภควะโต อรหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 หน)
.........2. เธอต้องนับถือพระรัตนตรัย เป็น ที่พึ่ง คือเป็น สรณะ ทุกศาสนามี สรณะต่างกันไป ศาสนาพุทธ มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ( พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิสังฆัง สรณัง คัจฉามิ 3จบ)
.........3. เธอต้องบรรพชาเป็นสามเณร สมาทานศีล 10 ข้อก่อน
.........4. คณะสงฆ์จะประชุมรับเธอเข้าพวก ด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจา ถ้าผ่านสังฆกรรมนี้ไปก็เป็นพระภิกษุและถือศีล 227 ข้อได้
..........กว่าจะเป็นพระ ไม่ง่ายนะ เป็นแล้วก็อย่าลืมล่ะ เทวรูปสีดำ ๆ ห้อยคออยู่เมื่อก่อนก็ปลดออกซะ คนละศาสนา พวกผ้าเขียวผ้้าแดง คาดต้นโพธิ์ก็อย่าไปช่วยเขาทำ นั่นมันวิธีนับถือผีสางของชาวบ้าน ศาลพระภูมิที่ชาวบ้านตั้งในวัด ก็เรียกเก็บค่าเช่าด้วย นั่นมันเอาศาสนาผีมารุกรานวัดนี่นา ยอมได้ไง ตั้งใจฝึกอบรมการเป็นพระให้ดี.....
..........พระมีศีล 227 ข้อ ขาดข้อเดียวก็ไม่ได้ อย่าไปเชื่อพวกมักง่ายที่บอกบางข้อเล็ก ๆน้อย ๆ อย่าไปสนใจ....เล็กน้อยแต่ก็ทำให้ครบ 227 นา ไม่สนใจก็ไม่ครบสิ ดูทองสิอยากได้ทอง 100 % ทั้งนั้นแหละ ขาดเหลือ 90 % ก็ไม่ชอบ พระไม่ครบ 227 ข้อ ไม่ดีแน่ ต้องรีบศึกษาและนำมาปฏิบัติโดยด่วน แบบบวชหลายพรรษาแล้วยังมีหน้ามาถามว่ายิ้มให้สีกาก็อาบัติหรือ....ตำรามีทำไมไม่อ่าน ยิ้มแบบคนมีเมตตากรุณา กับยิ้มแบบเจ้าชู้มัน ต่างกันอย่างไร สาว ๆ เข้ารู้ดีกว่าหลวงพี่น่า...
.........พระมีภาระสำคัญคือประกอบพิธีกรรมต่าง ๆให้ชาวบ้าน ใช้บทสวดคำบาลีทั้งนั้นจนมีหนังสือเจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน คำบาลีที่ต้องใช้อยู่ในนั่นหมด ต้องท่องให้ได้ภายในสามเดือนแรกที่บวช งานที่ต้องสวด ก็ทำบุญวันพระ ทำบุญบ้าน งานศพ งานอื่นๆก็อาจมีมาเช่นสวดสีมา สวดสังฆกรรมต่าง ๆ เคยเห็นหลวง พ่อหอบตำราไปสวด ไม่ขำเลยนะหลวงพ่อ รีบ ๆท่องเข้าเถอะ อายเขา
.........พระต้องเรียนคำสอนศาสนา ไว้เป็นแนวปฏิบัติของตนเอง และสอนชาวบ้านหลักสูตรนักธรรมตรี โท เอก จะมีสาระสำคัญ 3 เรื่องคือ หลักธรรม หลักวินัย และพุทธประวัติ/อนุพุทธประวัติ ควรหาตำรามาศึกษาเล่าเรียน เพราะวันหนึ่งอาจต้องเทศน์สอนคนอื่น ...ไม่มีความรู้เลย เอาอะไรไปสอน เคยเห็นหลวงพ่อบวชหลายพรรษาแล้ว สอนชาวบ้านขำจะตายเพราะท่านสอน ให้ชาวบ้านนับถือโลกธรรม 4 ฝ่ายอิฏฐารมณ์ บอกว่าทำบุญกุศลมากไว้ จะช่วยให้มี ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข กรรมจริง ๆ เพราะไม่รู้จึงสอนอย่างมั่นใจ บาปนะหลวงตา เพราะฉะนั้นการศึกษาหลักคำสอนจึงจำเป็น อย่างน้อยก็ปฏิบัติถูก จะแนะนำคนอื่นก็แนะนำถูก
.........พระต้องศึกษาประเพณีวัฒนธรรมของชาวบ้าน ประเพณีส่วนมากก็จะเกี่ยวข้องกับการเกิดไปจนถึงการตาย อีสานง่ายหน่อยมี ฮีตสิบสองคลองสิบสี่ให้ศึกษา เดือนอ้ายปริวาสกรรม เดือนยี่ทำบุญคูณลาน เดือนสามบุญข้าวจี่ เดือนสี่บุญมหาชาติ เดือนห้าบุญสงกรานต์ เดือนหกบุญบั้งไฟ เดือนเจ็ดบุญเบิกบ้าน เดือนแปดบุญเข้าพรรษา เดือนเก้าบุญข้าวประดับดิน เดือนสิบบุญข้าวสาก เดือนสิบเอ็ดบุญออกพรรษา เดือนสิบสองบุญกฐินต้องมีความรู้ทุกประเพณี เพราะชาวบ้านเขาจะให้พระร่วมทุกประเพณีแหละ ต้องมีความรู้แนะนำชาวบ้านได้ด้วย
.........เขียนถึงการตำหนิพระว่าจะเขียนสั้น ๆ แต่มันยาวจนได้ พระแบบที่เขียนถึงเป็นพระที่อยู่ตามวัดวาอารามหมู่บ้านต่าง ๆ ได้ข้อมูลแบบประเพณีอีสาน เนื้อหาเลยออกไปทางฮีตสิบสองคลองสิบสี่ ส่วนประเพณีภูมิภาคอื่น ๆ ไม่ค่อยรู้จัก เลยไม่กล้าเขียนถึงกลัวจะไม่ใช่น่ะครับ คงจบไว้แค่นี้ ล่ะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น