วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

คุยกันเรื่องสงกรานต์


ตอนที่ 1
ประกาศสงคราม...หรือสงกรานต์ 
------------------
..........ก่อนอ่านประกาศสงกรานต์ ขอชวนอ่านประกาศผลสงครามช่วง สงกรานต์ที่ผ่านมาให้ดูกันก่อน เป็นช่วง 7-8 วัน ระหว่างสงกรานต์ 11-18 เมษายน ปี 2551 - 2558 ผมค้นหาสถิติคนตายไปพบที่เวบไซท์ ของ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เห็นตัวเลขแล้วอยากเรียกว่าสงครามซะเลย มันดุเดือดจริงๆครับ      เพราะจำนวนคนตายเยอะมาก มาดูกัน (เขาเก็บสถิติแค่ 7 วัน ช่วงวันที่ 11 - 18 เมษายน )
                    -----------------------------------------------------------

                      ปี        11-18เมย  . อุบัติเหตุ     บาดเจ็บ      ตาย 

                    ----------------------------------------------------------

                    2551       7 วัน         4243 ครั้ง       4083        368
                    2552       7 วัน         3977 ครั้ง        4332       373
                    2553       7 วัน         2516 ครั้ง        3802       361
                    2554       7 วัน           3215 ครั้ง       3476      271
                    2555       7 วัน           3129 ครั้ง       3320      320
                    2556       7 วัน          2828 ครั้ง        3040      321
                    2557       7 วัน          2992 ครั้ง        3225      322
                    2558       7 วัน          3373 ครั้ง        3559      364
                    2559      
7 วัน          3379 ครั้ง        3505      380 แก้ไข                     
                    2560       7 วัน          3919 ครั้ง        4128      478 แก้ไข
                    ----------------------------------------------------------
หมายเหตุ เข้าไปดูที่เวบ ได้ข้อมูลปี 2559 และ 2560 มาเติมให้ ส่วนปี 2561 ยังไม่ออกมา            
                    (ที่มา เวบ http://www.accident.or.th/datacenter/)

......ดูจากสถิติ อุบัติเหตุเฉลี่ยตกที่ 3409 ครั้งต่อปี สูงมากปี 2560 เห็นทางการประกาศห้ามนั่งกระบะเที่ยวสงกรานต์ นึกดีใจ แต่สู้แรงต้านไม่ไหว เห็นว่าปล่อยตามเดิมจะลดสถิติอุบัติเหตุคงยาก สถิติบาดเจ็บ เฉลี่ยอยู่ที่ 3600 ปีนี้จะลดได้ซักเท่าไร สถติตาย เฉลี่ยอยู่ 337.5 สูงมาก เอามาแสดงให้ดูเผื่อใครเห็นแล้วเกิดแนวคิด อยากช่วยลดอุบัติเหตุปีนี้ลงบ้าง ทำได้ครับ กำชับลูกหลานให้ดีใช้รถ ใช้ถนนช่วงนี้มันเหมือนสงครามโลกมาก ๆ ปีใหม่ที่ผ่านมา ผมขับรถ ไปร่วมสมรภูมิกับเขา จากปักธงชัย 5 โมงเย็น ส่งลูกสาวที่กรุงเทพ ตอนตี 2 รถมากจริงๆ เจอรถประสบอุบัติเหตุมากจริง ๆ สงกรานต์ ปีนี้เลยของดไปเยี่ยมลูกหลาน คงไปหลังสงกรานต์ดีกว่า เพราะเรา ไม่มีวันหยุด อยากหยุดเมื่อไรก็ได้ จะรีบไปแย่งเดินรถกับเขาทำไม ปล่อยพวกที่เขาต้องทำงาน อยากใช้วันหยุดกลับไปเยี่ยมบ้าน รถ บนถนนก็จะลดลง ท่าน สว ทั้งหลาย ช่วยกันครับ ลูกหลานจะเดิน ทางกลับช่วงสงกราน์ วานบอกเขาหน่อยว่าไม่จำเป็น ไปช่วงหลังกรานต์ ก็ได้ ปลอดภัยกว่า มาช่วงสงกรานต์พ่อแม่ใจหายใจคว่ำว่าพวกมึง จะถึงบ้านสภาพปกติไหม ทุกข์ใจมาก ลองคิดดูน่า ช่วยกันครับ ลดจำนวนรถบนถนนช่วงสงกรานต์ได้ อย่างอื่นก็น่าจะลดลงด้วย 



ตัดตอนที่ 2 
มาแทรก เอาพระลง สรงน้ำพระ 
............เดือนเมษายนมาถึงแล้ว ใกล้สงกรานต์ปีใหม่ มีกิจกรรมหนึ่งที่ชาวพุทธไม่ควรจะลืม คือการเอาพระลงจากหิ้งบูชา แท่นบูชา โต๊ะหมู่บูชา แล้วแต่สถานภาพของพระพระก็มียากดีมีจนเหมือนคนนี่แหละ ดีหน่อยก็มีโต๊ะเก้าอี้ฝังมุกเชียวนะ หรือไม่ก็โต๊ะหมู่ลวดลายสวย ๆ ก็ใช้ได้ ที่มีห้องเป็นสัดส่วน ตามบ้านเรือนหายากหน่อย นอกจากจะเจอ บ้านคนชอบพระจริง ๆ พระที่ฐานะธรรมดา ๆ ก็อาจมีแท่นบูชาหรือหิ้งแขวนบนฝาสูง ๆแต่มีหลายพระเขาแขวนไว้หัวนอน เอาเถอะจะแบบไหนก็ช่างเขาเอาดอกไม้ธูปเทียนมา บูชาบ้างก็ดีแล้ว ตรงนี้แหละที่พูดถึงเอาพระลงมาซะบ้าง ปีละครั้งก็ยังดี เทศกาลปีใหม่ สงกรานต์นี่ไง เทศกาลเอาพระลงมา จะได้ทำความสะอาด สรงน้ำอบน้ำหอมให้ แต่พระ ผมไม่ต้องรอนานหรอก ดูฝุ่นสกปรกเมื่อไร ผมจัดการทันที ไม่รอหรอก โธ่ คนไม่อาบน้ำ วันเดียวก็เหนียวเหนอะหนะแล้ว เอาพระลงมาสรงน้ำวันไหนก็ได้ ไม่ต้องทางรอวัดหรอก... 
..........จะเอาพระลงมาต้องทำอย่างไร บางคนกลัวนะไม่กล้าแตะกลัวบาป ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก เอาแค่ทำด้วยความเคารพก็พอ สำหรับผมยายมีห้องพระ มีพระพุทธรูปบ้าง รูปเกจิอาจารย์บ้าง เหรียญพระเครื่องเต็มไปหมด ตอนสร้างบ้านจึงกันห้องพระไว้เป็นสัดส่วน ถือเป็นพระมีห้องส่วนตัวว่างั้นเถอะ เวลาจะเอาพระลงมาทำความสะอาด ก็ทำให้ถูกต้อง คือ ขออนุญาต เชิญลงไปอยู่ที่สำหรับสรงน้ำ ขออนุญาตสรงน้ำให้สะอาด แล้วก็เชิญกลับ 
.........ขออนุญาตเคลื่อนย้าย พระเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบ้าน มีเทพารักษ์ดูแลประจำ จะเคลื่อนย้ายเลยบอกกล่าวขออนุญาตก่อน บอกด้วยภาษาธรรมดา ๆ ก็ได้ สำหรับผมผมใช้ภาษาบาลี เพราะรู้จักจำได้ ผมเตรียมขัน 5 ดอกไม้ธูปเทียนนั่นแหละ มาบูชาแล้วก็สวดบท สัคเคกาเมจรูเป ฯลฯ เป็นการบอกกล่าวเทพาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้รับทราบวันนี้จะขออนุญาตเคลื่อนย้ายพระพุทธรูป เครื่องรางของขลังทั้งมวล ลงไปเพื่อทำความ สะอาดและสรงน้ำอบน้ำหอม ขออย่าได้มีภัยมีเวร แต่จงเกิดสวัสดีมีชัยแก่พวกเราเถิดจบก็ทะยอยนำพระออกไปวางโต๊ะที่เตรียมไว้สรงน้ำ โต๊ะไฟเบอร์แบบพับขาได้สองตัวเต็มพอดี เยอะเอาการ ยายบอกชอบสะสม ยิ่งตอนเป็นหัวหน้าตึกสงฆ์ รู้จักพระที่ท่านเจ็บป่วย มาพักรักษาตัว กลับวัดไปท่านมีโอกาสกลับมาเยี่ยมพระเณรที่เจ็บป่วย มักมีพระมาฝากประจำ เวลาออกเยี่ยมวัด ท่านก็มีพระฝากเรื่อย ที่ตึกก็มีเต็ม บางส่วนก็ขอเป็นส่วนตัวและ เอามาเก็บที่บ้าน สำหรับผมไม่มีพระสะสมหรอก ช่วงยังไม่เกษียณได้บ่อยก็ฝากให้ยายหมดเพราะเห็นว่าชอบ ไม่นึกว่าจะต้องตามมาสรงน้ำหอมให้อีกด้วย 
.........ขออนุญาตสรงน้ำ เมื่อเคลื่อนย้ายเสร็จ ก็เตรียมเครื่องเป่าฝุ่น น้ำยาล้างทำความสะอาด และน้ำหอม ก็ยกสิบนิ้ววันทา บอกล่าวว่าต่อไปนี้กระผมขออนุญาตทำความสะอาดด้วยการเป่าฝุ่นละอองก่อน จะได้ขัดล้างง่าย สุดท้ายถึงจะพรมน้ำอบน้ำหอมให้ ขออย่าได้ 
เป็นบาปกรรม แต่ขอความสวัสดีมีชัยแก่พวกกระผมด้วยเถิด แล้วก็เปิดเครื่องเป่าลมเบา ๆฝุ่นคลุ้งเลย ก็ตั้งอยู่เป็นปี เป่าจนเห็นว่าฝุ่นหมดแล้ว ถึงเริ่มล้างด้วยน้ำ ผมใช้แซมพูผสมน้ำบาง ๆพอได้ฟอง ขันตักราดแปรงขนอ่อน ๆปัดเบา ๆ ทำทีละรูป ๆ ช่วยกันสามคน เกือบเที่ยงถึงล้างเสร็จ แล้วปล่อยไว้ให้แห้ง 
.........พ่นน้ำหอม เอาน้ำหอมจริง ๆ ใส่ขวดสเปรย์พ่น แบบน้ำอบไม่เอา เพราะคราบแป้งทำให้เลอะอีก..พ่นให้ทั่วถึงแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วค่อยเชิญกลับไปเก็บที่เดิม ตอนนี้ปัดกวาดเช็ดถูให้ เรียบร้อย ดีแล้ว แถมเปลี่ยนธูปเทียนเป็นแบบใช้ไฟฟ้า ต่อไปไหว้พระเปิดแอร์ได้ ไม่กลัว สำลักควัน นั่งสมาธิก็ไม่มีกลิ่นรบกวน ห้องพระก็พัฒนาได้นา... เราใช้เอง อันไหนสะดวกก็ จัดเอาเอง 
.........เสร็จเรียบร้อยก็ทดลองไหว้พระสวดมนต์ดู ถ้าไม่มีรูปไหนประท้วงก็โอเคนะ พระประท้วงก็ เช่นตั้งไม่เรียบร้อย เอนหน้าเอนหลังบ้างยังกะเมาหมัดบ้าง บางรูปแทนที่จะนั่งก็พังพาบบ้าง ก็จัดนิมนต์เข้าที่ให้เรียบร้อย ก็เป็นอันเสร็จงาน ไปเที่ยวได้ 555 เสร็จไป 1 งาน



ตอนที่ 3 อ่านประกาศ
.............ดูเรื่องอุบัติเหตุ คนเจ็บคนตายกันแล้ว มาดูเขาประกาศสงกรานต์ปี 2560 กัน มีอะไรน่าสนใจบ้าง


ประกาศสงกรานต์




อ่านประกาศสงกรานต์

.......ปู่ย่าตายายเราท่านมีความรู้เรื่องจักรวาลอันเวิ้งว้างนี้ว่า นอกจาก โลกอันแบน ๆของเรานี้แล้ว ยังมีดวงดาวสำคัญ ๆอีหลายดวง มีดวง อาทิตย์ผู้ทำให้มีกลางวันกลางคืนลีอิทธพลต่สรรพัตว์ทั้งปวง โลก เราหมุนรอบ ๆดวงอาทิตย์ เมื่อดวงอาทิตย์โคจรไปตามแนวสุริยะวิถี (Eclipse) โลกก็ตามไปด้วย เส้นทางเดินก็ผ่านกลุ่มดาวต่าง ๆ ที่ เรียกว่า 12 จักรราศี หรือ 12 นักษัตร มีข้อสังเกตว่า เรามักจะมอง เห็นกลุ่มดาว ทีละ 6 กลุ่ม เพราะเส้นทางโคจรเป็นวงกลม อีกส่วน จะถูกบัง เมื่อดวงอาทิตย์โคจผ่านไปก็จะเห็นดาวกลุ่มใหม่ผ่านเข้า มา ถ้าแบ่งพื้นที่วงกลมเป็นองศา 360 องศา กลุ่มดาวราศี 1 จะมี ความกว้าง 30 องศา ดวงอาทิตย์ใช้เวลาโคจรวันละ 1 องศา 30 วันก็ข้ามเขตกลุ่มดาวราศีไป เลยทำให้เรียกชื่อเดือนกับชื่อกลุ่มดาว สัมพันธ์กัน เช่น ดวงอาทิตย์โคจรผ่านเข้ามาเขตกลุ่มดาวราศีเมษ จะตรงช่วงเดือนเมษายน เดือนพฤษภาคม ก็ย้ายไปถึงเขตราศี พฤษภ ดังนี้เป็นต้น ราศีที่จดจำกันบ่อยคือ ราศีเมษ เพราะเป็นจุด เริ่มต้นฤดูกาลร้อนแห้งแล้ง ก่อนเข้าสูงฤดูฝนในราศีถัดไป เป็นแบบ นี้ทุกปี เลยเข้าใจว่าราศีเมษนี่เองคือเริ่มต้นปี
.......โหราจารย์กำหนดให้ช่วงเวลาวันแรกที่ดวงอาทิตย์โคจรเข้า เขตราศีเมษ องศาแรก คือวันแรก เป็นวันมหาสงกรานต์ คือการ เคลื่อนย้ายที่ยิ่งใหญ่ ต้องฉลอง วันถัดมา ดวงอาทิตย์เข้ามาเขต ราศีเมษเตมที่แล้วเลยเรียกชื่อ วันเนา วันถัดมาเปปลี่ยนตัวเลขจุศัก ศักราชเป็นปีใหม่สมบูรณ์ได้เลยเรียกว่า วันเถลิงศกขึ้นจุลศักราชใหม่ การโคจรของดวงอาทิตย์เข้าเขตราศีเมษ มักจะตกช่วงใกล้กลางเดือน เมษายนประมาณวันที่ 13-14 เลยมีการประกาศให้ 13 เมษายน เป็น วันสงกรานต์ถาวรเลย ส่วนวันมหาสงกรานต์ต้องให้โหรตรวจสอบกัน ว่าวันเวลาไหนที่ดวงอาทิตย์ย้ายเขาองศาแรกของราศีเมษ วันนั้นแหละ ประกาศเป็น วันมหาสงกรานต์ บ่อยมากตรงกับ 13 เมษายน และบ่อย เหมือนกันตรงกับ 14 เมษายน วันเนาและวันเถลิงศกก็ตามมาติด ๆ ปี 2560 วันสงกรานต์ 13 เมษายน 2560 เป็นวันหยุดไปแล้ว แต่วัน มหาสงกรานต์ตรงกับ 14 เมษายน 2560
 ........เรื่องที่นาสังเกตอีกอย่างคือ นาง สงกรานต์และคำทำนาย เกี่ยวกับลฝฟ้าอากาศความเป็นอยู่ของบ้านเมือง นางสงกรานต์คือคน อยู่เวรประจำวัน อาทิตย์..เสาร์ มี 7 นาง เล่าว่าเป็นธิดาท้าวมหาพรหม ครั้งลงมายังโลกเพื่อท้าทายธรรมปาลกุมารที่เล่าลือว่าฉลาดมาก ขนาด เอาศีรษะเป็นเดิมพัน ปัญหาที่มหาพรหมถามคือ เช้า กลางวันและเย็น ราศีของคนอยูที่ตรงไหน ธรรมปาละกุมารคิดไม่ออกจนท้อใจนึกว่าคง ต้องถวายหัวให้พรหมแน่ จึงออกเป็นเดินเล่นทุ่งนา บังเอิญไปหลับใต้ ต้นตาลมีนกอนทรีย์ผัวเมียทำรังอยู่บนนั้น พวกมันสนทนากัน ......พรุ่งนี้ไม่ต้องไปหากินไกลแล้ว ตัวผู้บอก ตัวเมียถามว่าเพราะอะไร ตัวผู้ว่าเขาพนันกันใครแพ้ตัดหัวบูชาคนชนะ พรหมกับธรรมบาลกุมาร ตัวเมียถามว่าปัญหาอะไรกัน คำตอบว่ายังไง ตัวผู้เลยเฉลยให้ฟัง ธรรมบาลกุมารแกฟังสัตว์พูดคุยกันรู้เรื่อง เลยไปตอบคำถามมหาพรหม ได้ถูกต้อง เช้าราศีอยู่หน้า กลางวันอยู่อก เย็นอยู่เท้า มหาพรหมยอม แพ้ ตัดหัวบูชา หัวมีเดชมากอาจทำให้โลกเดือดร้อนไฟลุกท่วมได้ ให้เอาไปเก็บไว้ที่ถ้ำเขาพระสุเมรุ ถึงสงกรานต์เอาออกมาแห่รอบ ๆ เขาสุเมรุ ตามเวรวันสงกรานต์ตรงวันไหน ใครเข้าเวรวันนั้นก็เอามา แห่ เลยเรียกพวกนางว่า เทพีสงกรานต์ 


ตอนที่ 4 เที่ยวเยี่ยมญาติพี่น้องอยู่ไหน
------------------------
.......... .....เขาประกาศสงกรานต์ไปแล้ว ต่อไปก็หน้าที่เราไปเที่ยวสงกรานต์ ก่อนไปขอเตรียมตัวก่อนว่ามีภาระอะไรบ้างไหมที่ต้องจัดการ ทำให้ เรียบร้อย จะได้เที่ยวด้วยความสบายใจ สิ่งแรกคงเป็นฝากของให้ญาติ พี่น้อง ถือเป็นภาระครับทำทุกปี ไม่ทำก็ไม่สบายใจ ญาติก็ 2 พวก พวกตัวเป็น ๆกับพวกที่ตายไปแล้ว ถึงวันนี้ญาติพี่น้องก็กระจายไปทั่ว จักรวาลแล้วมั้ง อยู่ตรงไหนบ้างล่ะ .....เข้านิพพานไปแล้ว พวกที่เกิดทันพระพุทธเจ้า หลายท่านคงโชค ดีบรรลุอรหันต์ นิพพานไป ก็จบไม่ต้องวิ่งเหมือนพวกเรา ได้แต่อนุโมทนา สาธุไปกับพวกท่าน ที่เหลือบางท่านก็เป็นอริยะบุคคล ระดับอนาคามี สกิทาคามีและโสดาบัน คงกระจายอยู่พรหมโลกบ้าง สวรรค์บ้างแล้ว แต่บุญบารมี ญาติพี่น้องบางท่านติดสมถวิปัสสนา โดยเฉพาะติดใน ณานสมาบัติก็คงแวะอยู่แถวรูปพรหม 16 ชั้น หรือไม่ก็อยู่ไกลหน่อย ที่อรูปพรหม 4 ชั้น มากที่สุดคงเป็นญาติพี่น้องที่ขยันทำบุญทำทาน บุญบารมีส่งผลให้ไปเกิดใน ฉ กามาพจรสวรรค์ 6 ชั้น ต่ำสุดก็จาตุม มหาราชิกา สูงไปก็ดาวดิงส์ ยามา ดุสิตา นิมมานรดี และปรนิมมิตวัตติ ส่วนพวกอยู่มนุสภูมินี่ถือว่ายังมีชีวิติยู่ ก็คงไม่น้อยเหมือนกัน
 ........พวกตกอับบาปมากบุญน้อย ก็ถงเตร่ไปเที่ยวทุคติกัน มี 4 ภพ ภูมิเช่นกัน ดิรัจฉานภูมิ นี่ดีหน่อยที่มองเห็นกันได้กับมนุษย์แต่สื่อสาร กันไม่รู้เรื่อง ถ้าสื่อกันได้อาจมีควายบางตัวเดินมาประท้วงว่ากูเป็น เพื่อนมึงมาก่อนนะ ...ยุ่งตายห่าแลยแหละ อีก 3 ทุคติภูมิก็ อสุรกาย เปรต และนรกเปรตและอสุรกายนี่เล่าว่าอยู่ไม่ห่างไกลมนุษย์ บางที หลงมามนุษย์ภูมิแบบญาติพระเจ้าพิมพิสาร นี่ก็ว่าเปรต ส่วนนรกเห็น เล่าอยู่ไกลมาก หลัก ๆ ก็ แปด หลุม และมีแยกย่อยอีกหลายสิบหลุม เช่น มหานรก 8 อุสสทนรก 8 ยมโลก 10 และโลกันตนรก 1 หลุม
.......ที่เล่ามาคือแหล่งท่องเที่ยวของพวกเราที่เขาเรียกสังสารวัฏฏะ แยกเป็น ทุคติ 4 สุคติ 4 และนิพพาน 1 ท่องเที่ยวไปมาได้ด้วยผล แห่งกรรมที่มีผลต่อการท่องไปมี 2 คือ กุศลกรรมสำหรับจองตั๋วไป ทางสุคติ ส่วนอกุศลกรรมใช้เมื่อจะไปทางทุกคติ ส่วนนิพพานแปลก ต้องละทิ้งหมดกิเลสด้วยบาปบุญด้วย ถึงจะบรรลุโมกขธรรมถึงนิพพาน ครับก็ฟังหลวงพ่อท่านสอนมาแบบนี้แหละ เมื่อญาติพี่น้องกระจายไป ทั่วแบบนี้ ของฝากก็ต้องจัด 2 กลุ่ม สำหรับพวกที่ล่วงลับไปแล้ว ก็ต้อง จัดเตรียมบุญส่งให้ ท่านที่ยังชีพอยู่ก็ไปเยี่ยมด้วยของปัจจัยสี่แหละ บุญกุศลส่งไปทางสุคติ เข้าใจได้ว่าทางสุคติกินบุญกันเป็นส่วนมาก ยกเว้นมนุษย์กินวัตถุดิบบุญ แต่ทุคตินี่ส่งบุญไปให้เอาไปทำอะไร เห็นเล่าว่ายากอยู่ เว้นแต่โชคดีมีโอกาสได้อนุโมทนารับส่วนบุญ บุญ จะช่วยให้ทุกข์ทัณฑ์เบาบางลง โทษสั้นลง แสดงว่าควรส่งบุญนั่นแหละ ให้ทางทุคติ ........ลำบากมากก็คงเป็นดิรัจฉานภูมิเพราะสื่อกันไม่เข้าใจ แต่ก็ทำด้วยการให้รักความเมตตาบางอย่างให้ปัจจัยยังชีพด้วยก็ได้ หว่านๆไป ให้แบบไม่เจาะจง
...........สรุปว่าเตรียมบุญสำหรับญาติพี่น้องส่วนมาก เตรียมข้าวของ สำหรับส่วนน้อย ส่วนมากนี่ง่ายตักบาตรคงไม่พอ ไปบริจาคช่วย กองทุนมูลนิธิแล้วกัน ที่ไหนมีรับบริจาคประเภทนี้ละก็สบายเลย หยอด ตู้เขาซักห้าร้อย พอไหม ไม่พอก็เพิ่มอีก จนคิดว่าได้บุญมากพอ ฮ้า เตรียมบุญสำหรับคนส่วนมากนี่ง่ายดายจริงๆ พันบาทซื้อของตักบาตร ได้เป็นเดือนเลยนะอย่าคิดว่าบุญจะน้อย เหลือเฟือเลยแหละ ได้บุญ แล้วก็ส่งผ่านการแผ่ส่วนบุญครับ สวดมนต์เสร็จก็นั่งแผ่เมตตาซักสิบนาที ทำติดต่อกัน 7 วันก็คิดว่าพอนะ คนที่อยู่นิสัยจะอนุโมทนาได้ คงได้ รับกันหมด คนที่ไม่อยู่ในวิสัยก็จนใจครับ ส่วนพี่นอ้งอีกกลุ่ม เราจะจัด ปัจจัยสี่สำหรับไปเยี่ยมญาติพี่น้องก็จัดหาตามสบายครับ มีขาย    ทุกอยาง ที่เราอยากได้ ได้แล้วก็เดินทางไปเยี่ยมกันตามสบาย สงกรานต์หยุด หลายวันอยู่นี่นา  ช่วงนี้หลายคนคิดตรงกันทำให้รถบนถนนแน่นมากหากไปก่อนหรือหลังสงกรานต์ รถคงไม่มากสะดวกและ
ปลอดภัยมากกว่าครับ



ตอนที่ 5 กิจกรรมที่ควรทำ
             

ไปสรงอัฐิ สรงธาตุ สรงเจดีย์

.......สมัยก่อนนิยมเก็บอัฐิคนที่เคารพนับถือไว้ที่บ้าน ใส่โกฐิไว้ ใส่ขวดหรือแม้แต่ใส่ฐานพระบูชา บางคนก็สร้างเจดีย์ สร้างธาตุ ไว้ที่วัด ที่นาที่สวน ก็จะเก็บไว้ที่ไหนก็ตามสบายครับ แต่ที่ไม่ค่อยสบายคือการดูแลสมกับเป็นสิ่งที่เราเคารพบูชา อยู่ที่บ้านก็ง่ายหน่อยไหว้พระสวดมนต์ก็ถือ โอกาสแผ่บุญกุศลให้ท่านด้วย ส่วนที่อยู่นอกบ้านนาน ๆถึงจะไปดูแล ทำความสะอาดให้ ส่วนการทำบุญชักธาตุ ชักอัฐิ หมายถึงการทำบุญปรารภธาตุหรืออัฐิ ทำได้ไม่ยุ่งยากอะไร
......อัฐิอยู่ที่บ้าน ผมก็จัดพานดอกไม้ที่เรียกขัน 5 มาไหว้พระสวดมนต์ตอนเย็น จบแล้วก็บอกกล่าวไปถึงเทพารักษ์ ว่ากระผมอยากทำบุญกุศลให้แก่คุณตาทวด คุณย่าทวด และอีกหลาย ๆ ท่าน วันพรุ่งนี้เช้าจะทำบุญตักบาตรพระ ตอนสายจะไปทำบุญที่วัด เสร็จจากที่วัดจะไปทำบุญที่โรงพยาบาล ขอความเมตตาจากทวยเทพได้แจ้งสาร ให้ญาติ ๆ ของกระผมได้รับทราบ และโปรดได้ไปอนุโมทนารับส่วนบุญโดยทั่วถึงกันด้วย ผมบอกล่วงหน้าเกรงจะสื่อสารไม่ทั่วถึง....เช้าวันถัดมาก็ไปตักบาตรหน้าบ้าน พระสัก 9 รูปพอ เพราะจะไปจังหันที่วัดอีก วัดที่บ้านผมรู้จักดี ไปโรงครัว ยก
กับข้าวให้แม่ครัว เขาจัดแบ่งใส่สำรับถวายพระเณรรูปละ ชุด พระที่วัด 70 รูป เอง มีคนไปช่วยแบบเราแต่ละวันหลายรายแม่ครัวบอกสบายมาก จัดให้จากนั้นก็แวะไปกราบพระอาจารย์บนศาลา ท่านมักลงมาก่อนเพื่อดูแลความเรียบร้อย ไม่นานเคาะระฆังพระเณรลงมาเต็มศาลา ช่วยประเคนสำรับแล้วนั่งดูพระฉัน จนเสร็จกิจของท่านก็รับพร อุทิศส่วนบุญให้ญาติพี่น้องไป
........ชักธาตุ เจดีย์ ส่งลูกหลานไปทำความสะอาดธาตุหรือเจดีย์เพราะไม่ค่อยได้มาบ่อย หญ้า คราบสกปรก ต้องการแรงงาน 3 คน ไปดูแล้วมาบอกว่าต้องการทาสีด้วยไหม ต้องเรียบร้อยก่อน 1 วัน ค่าแรงคนละ 200ทำไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จ ถ้าทาสีด้วยก็เพิ่มเป็น 300 บาท เราเองก็เตรียมของทำบุญถวายพระ 4 รูป ดอกไม้ธูปเทียน สายสิญจน์ น้ำอบน้ำหอม...ชวนลูกหลานไป เห็นมากันทั้งโคตรเลยแหละอยากดูว่าทำแบบไหน มาเห็นเจีดย์ใหม่เอี่ยมดีใจกันมาก ให้คนหนึ่งไปนิมนต์พระมาชักธาตุ 4 รูปที่เหลือเอากระดูกออกมาพรมน้ำหอมแล้วผึ่งลมไว้ พระมาก็กราบเรียนให้พระทราบว่ามาสรงเจดีย์ของใคร แล้วนิมนต์ท่านสวดได้เลย บางหลวงพ่อไม่ยอมอย่างย่อให้ทำเต็มรูป ตอนนี้ดอกไม้ธูปเทียนบางบูชารอบเจดีย์แล้วก็แค่สวดมนต์ไหว้พระรับศีล จบศีลหลวงพ่อก็ เรียกเอาสายสิญจ์แล้วก็
สวด อนิจจา วตสังขาราอุปาทาวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ สังวูปสโม สุโข 3 จบ ถวายจตุปัจจัยที่เตรียมมา พระก็ให้พร เราก็กรวดน้ำอุทิศกุศลญาติที่บอกกล่าวไว้ก็มาร่วมอนุโมทนา จบการสวดชักธาตุ เก็บอัฐิเข้าที่เดิม เก็บขยะและกลับบ้านได้
...........ไปบ้านก็ทำบุญอีก เพราะสั่งทำน้ำยาขนมจีนไว้ 3 ชุด น้ำยาปลาน้ำยาไก่ น้ำยาเนื้อหมูบด ส่วนเส้นเราติดรถมา 15 กิโลกรัม ผักกับขนมจีนพวกลูกหลานมาหามากันทั้งเด็กผู้ใหญ่เสียบุญให้เราแลกขนมจีน เอาให้จุใจ ช่วงสงกรานต์มันโทรมาทวงว่าปีนี้พาไปชักธาตุอีกนะ พ่อใหญ่ พ่อตา พ่อปู่ น้า อา ก็เราคนเดียวนั่นแหละ ลูกหลานมันเรียกขานต่างกันไป ปีนี้บอกแล้วว่าไปล่ากลัวรถติดสงกรานต์
........ก็จบได้แล้วมั้งชักธาตุ ลูกหลานใครอยากทำก็ลองชวนกันไปทำดูรับรองเป็นบุญกุศลแน่นอน ไม่มีบาปหรอก รับรอง




(อ้อภาพประกอบจากกูเกิลครับ)

3. สรงน้ำคนที่เราเคารพนับถือ


4. ท่องเที่ยว พักผอน









อ่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น