| รำลึกถึงความหลังครั้งเยาว์วัย | ประมาณได้สิบขวบตามวิถี |
| ยังมิเกิดวันเด็กยังไม่มี | เรียนอยู่ที่โนนสังวิทยา |
| ปีสองสี่เก้าแปดเรียนมอหนึ่ง | ยังตราตรึงเหตุการณ์นานนักหนา |
| ปีสองสี่เก้าเก้าค่อยมีมา | เขาเรียกว่าวันเด็กยังงุนงง |
| ครูสั่งให้เข้าแถวเดินขบวน | ท่านชักชวนที่ว่าการจุดประสงค์ |
| ไปพบนายอำเภอเป็นมั่นคง | จำได้ธงเขียวเหลืองของโรงเรียน |
| เขาถือคู่ธงชาตินำขบวน | มิเรรวนเรียบร้อยสถิตเสถียร |
| ยืนนิ่งฟังโอวาทนับจำเนียร | บ้างก็เพียรยืนหลับคำนับไป |
| โดนมะเหงกเคาะหัวกลัวก็ตื่น | กลับมายืนตรงบ้างยังสงสัย |
| เขกหัวกูอยากรู้มันเป็นใคร | ข้าเองใหญ่พอตัวไม่กลัวมึง |
| เสียงคุณครูประจำชั้นเพื่อนฟัวร่อ | จำต้องหงอเงียบไปไม่กล้าอึง |
| โดนอีกทีสามคราเพื่อฮาตึง | แถมโดนดึงหูเจ็บนี่กระไร |
| นานสักครึ่งชั่วโมงโอวาทจบ | ก็ถึงพบอิสระทำไฉน |
| ครูเขาปล่อยตามสบายชวนกันไป | กลับบ้านไงเจ็ดกิโลโถสุดเพลิน |
| มีทางลัดตัดตรงไปถึงบ้าน | ลัดเลาะผ่านป่าไม้ดังเขาเขิน |
| พวกป่าไผ่เต็งรังมันเจริญ | รกชัฏเกินแต่ชอบสนุกดี |
| คล้องกะปอมตลอดทางช่างขยัน | เล่นติดพันชอบใจในวิถี |
| จนบ่ายคล้อยหิวข้าวมิรอรี | ก่อไฟซีย่างกะปอมมากินกัน |
| เปิดห่อข้าวแจ่วบองต้องมีครบ | เป็นระบบมีประจำนำมาสรรพ์ |
| ผักกระโดนสะเม็ดเด็ดมาพลัน | ฝาดรสมันอร่อยดีทานคนเดียว |
| อิ่มบุกป่าฝ่าดงจับกระปอม | จวนค่ำพร้อมถึงบ้านชักหวาดเสียว |
| กลัวโดนดุเถลไถลทั้งวันเชียว | แม่ยิ่งเฮี้ยวดุเก่งทำปากดี |
| พอดุเสร็จข้าวปลาอาหารพร้อม | แม่มิยอมให้หิวอย่ากลัวหนี |
| ดุด่าเสร็จได้กินเป็นทุกที | มิเคยตีแค่หวดลมข่มให้ดู |
| ช่วงเข้าเรียนมอหนึ่งที่โนนสัง | ไปพักยั้งบ้านเขาอายอดสู |
| ยากปรับตัวทำไฉนมิใครรู้ | มิมีครูสอนให้เด็กในเมือง |
| ต้องหาบน้ำใส่ตุ่มกลุ้มจริงนัก | เดินไปตักสองกิโลให้นึกเคือง |
| ทำกิจบ้านการเรีอนมิได้เรื่อง | เขาว่าเปลืองข้าวน้ำเลี้ยงมากมาย |
| เก่งแต่เล่นเลิกเรียนมันเมามัว | ชอบทำตัวไร้สาระมันกระหาย |
| ชอบเล่นหมากเกมกระดานดูวุ่นวาย | คุณผู้ชายในตลาดชอบเล่นกัน |
| เลิกเรียนผ่านยืนดูจนรู้หมด | ฉลาดกฏกติกาจนน่าขัน |
| พอเขาว่างลองเล่นจนติดมัน | มัวติดพันอยากเล่นเกมยึดครอง |
| เอาชนะผู้ใหญ่เกมหมากฮอร์ส | มันสุดยอดลุงชอบตอบสนอง |
| เจอหน้าชวนเล่นหมากอยากจับจอง | แพ้เด็กต้องแก้มือเขาถือกัน |
| เลยต้องช่วยลุงแก้กันบ่อยบ่อย | เจ้าเด็กน้อยมีชื่อลือเล่าขัน |
| แพ้เจ้าเด็กมอหนึ่งนี่สำคัญ | แต่เด็กมันเอาจริงไม่เบามือ |
| บางร้านยังยอมแพ้ไม่แก้แล้ว | โดนเพื่อนแซวกลัวเด็กมิกล้าหือ |
| เล่นจนเขาให้นามว่าเด็กดื้อ | จนได้ชื่อแก่แดดเป็นรู้กัน |
| เป็นเด็กบ้านเศรษฐีไม่ดีนัก | มิรู้จักกิจบ้านงานเสกสรรพ์ |
| โดนบ่นว่านานาสาระพัน | มินานวันต้องลามาเดินเรียน |
| เจ็ดกอมอไกลหน่อยพอทนไหว | เช้ามืดไปเดินนานเพื่ออ่านเขียน |
| เดินอยู่สองสามเทอมมีเพื่อนเพียร | รุ่นน้องเปลี่ยนชื่อเขาร่วมทางเดิน |
| ขึ้นมอสามชวนกันไปอยู่วัด | พ่อก็จัดฝากให้มิได้เขิน |
| เป็นศิษย์วัดทุ่งสว่างทางดำเนิน | ดีเหลือเกินฝึกงานได้มากมาย |
| ทั้งหลวงพี่หลวงพ่อท่านเรียกใช้ | ตักน้ำใส่ตุ่มเต็มสนุกหลาย |
| ไปหาบน้ำถึงไกลไม่วุ่นวาย | ชอบกรีดกรายอวดสาวผิวขาวนวล |
| ที่บ่อน้ำรอคิวช่วยตักให้ | ส่งทรามวัยเรียบร้อยค่อยเหหวน |
| ตักของตัวเร็วไวไม่เรรวน | พรรคพวกชวนหาบน้ำกลับวัดไป |
| ทำวัตรเช้าจัดการสถานที่ | ตามหลวงพี่ทำวัตรขัดนิสัย |
| เตรียมบาตรส่งมือท่านให้เร็วไว | ท่านจักได้โปรดสัตว์วัตรประจำ |
| กลับมากวาดลานวัดขจัดขยะ | มินานกะไปรับมิถลำ |
| พระท่านกลับรับบาตรอุ้มเดินนำ | กิจกรรมตักบาตรบนศาลา |
| ตอนเช้าเช้าโยมเขาจะตักบาตร | ค่อยจัดถาดสำรับกับข้าวหนา |
| เจ็ดโมงเศษพระขึ้นรีบเข้ามา | จัดน้ำท่าถวายก่อนรอรับงาน |
| เขาเรียกให้ไปยกของถวาย | มิวุ่นวายปกติเชิญเรียกขาน |
| พวกเด็กวัดเราขยันทุกกิจการ | ดังลูกหลานตายายท่านเมตตา |
| พระฉันเสร็จสำรับยกกลับให้ | คุณยายได้จัดการเรียบร้อยหนา |
| ส่งถ้วยชามถาดเปล่าให้เรามา | ยกไปท่าสระน้ำล้างให้ดี |
| จัดใส่เข่งยกไปได้ผึ่งแห้ง | คุณยายแจงสำรับตามวิถี |
| แบ่งให้เด็กวัดด้วยท่านปราณี | มิรอรียกไปได้ทานกัน |
| สิบเอ็ดคนเด็กวัดยายจัดให้ | เสร็จจักได้ทำกิจอื่นพร้อมสรรพ์ |
| แปดโมงต้องไปเรียนนี่สำคัญ | มีบางวันไปสายมีหวายรอ |
| ครูมองหน้าไม่ถามไม่ต้องสอบ | รู้คำตอบเด็กวัดสายอีกหนอ |
| คนละสามไม่เรียวตีแค่พอ | ระเบียบขอเบาเบาครูเข้าใจ |
| มิได้สายเพราะชอบจะเตร็ดเตร่ | มัวโอ้เอ้ชักช้ามาสายไฉน |
| แต่กิจวัดบางครามาสายไป | ต้องรับใช้วัดก่อนค่อยมาเรียน |
| อยู่มอหนึ่งสองสามที่โนนสัง | ตอนนั้นยังแห่งเดียวสอนอ่านเขียน |
| เอกชนท่านจัดมาจำเนียร | ได้พากเพียรศึกษาวิชชาการ |
| เขาสอนเป็นชั่วโมงแปลกใจนัก | ได้รู้จักคุณครูสอนประสาน |
| ครูละเรื่องวิชาตามเชี่ยวชาญ | ครูบางท่านสอนคณิตวิทยา |
| สอนพีชสังคมภาษาไทย | บางคาบได้เรียนอังกฤษประสิทธิ์การ |
| คัดเขียนไทยเรียงความและวาดภาพ | มิเคยทราบลูกเสือสนุกสนาน |
| ปีหนึ่งมีสามเทอมสอบประมาณ | สามครั้งผ่านสอบซ้อมพร้อมประเมิน |
| สอบประเมินเลื่อนชั้นเรียกสอบไล่ | ต้องสอบได้เลื่อนชั้นสรรเสริญ |
| ญาติพี่น้องยินดีพ่อจำเริญ | สอบตกเกินเจ็บอกกว่าตกตาล |
| ต้องซ้ำขั้นหนึ่งปีมันเจ็บปวด | สมัยทวดเขาประเมินจัดสอบสาน |
| เราสอบได้ที่หนึ่งมานับนาน | ประถมผ่านที่หนึ่งมาสี่ปี |
| มัธยมเป็นหนึ่งยึดไว้ได้ | สบายใจเรื่องเรียนเพียรวิถี |
| เขาจัดเรียนกวดวิชาเรามิมี | ค่าเรียนชี้แพงไปไม่มีเงิน |
| แต่ผลสอบที่หนึ่งประจำเสมอ | พวกเพื่อนเกลอมันล้อจนนึกเขิน |
| มึงรู้จักข้อสอบดีเหลือเกิน | ที่หนึ่งเพลินทุกทีบักหมีดำ |
| ความจริงเรืองเรียนดีเคยมีชื่อ | นามระบือสอบปอสี่นี่น่าขำ |
| คะแนนสูงที่หนึ่งยังจดจำ | ที่อำเภอกมลาไสยชนะมา |
| เขาให้สิทธิ์เรียนต่อหกปีครบ | เรียนจนจบมัธยมกิจศึกษา |
| แต่ก็พลาดครอบครัวย้ายอำลา | สืบเสาะหาที่ทำกินย้ายถิ่นเดิม |
| กาฬสินธุ์ถิ่นเก่ากมลาไสย | เก้าแปดได้ย้ายมาศึกษาเสริม |
| มัธยมโนนสังเรียนต่อเติม | ตอนนี้เริ่มเป็นคนเมืองอุดร |
| สามปีจบมอสามตามที่หมาย | พ่อให้ย้ายเรียนเกษตรอนุสสรณ์ |
| สองพันห้าร้อยหนึ่งจึงต้องจร | แบบกินนอนที่ชัยภูมิประจำการ |
| เขารับเด็กสองห้องเก้าสิบคน | ห้องแรกผลจากคัดตามที่ขาน |
| นักเรียนทุนเรียนดีคัดคนชาญ | จังหวัดผ่านแผนเขตเกษตรกรรม |
| เหลือสอบเลือกทั่วไปสี่สิบห้า | พ่อเราพาไปสอบยังนึกขำ |
| ได้ที่สามสิบเก้ายังจดจำ | เจ็บใจซ้ำมิเคยโหล่โง่หรือเรา |
| แต่นั้นมาตั้งใจใฝ่ศึกษา | อ่านตำรามากมายให้หายเขลา |
| ห้องสมุดโรงเรียนก็มิเบา | อ่านจบเมาแทบทุกเล่มสบายสบาย |
| เว้นเฉพาะภาษาต่างประเทศ | มันมีเหตุอ่านมิออกยากเหลือหลาย |
| ภาษาไทยอ่านได้มีมากมาย | จนกลับกลายเป็นหนอนแทะตำรา |
| ห้องสมุดโรงเรียนหมดสนุก | อ่านทุกเล่มอ่านไวด้วยเชียวหนา |
| สามร้อยใบต่อวันคืออัตรา | ฝึกปรือมาต้องทำประจำวัน |
| พวกการตูนนิยายช่วยได้มาก | มิลำบากสามร้อยยังนึกขัน |
| หนังสือภาพเปิดดูนับหน้ามัน | สามร้อยนั่นน้อยไปไม่เยากเย็น |
| พอสอบไล่แปลกดีได้ที่หนึ่ง | แถมยังตรึงเอาไว้ให้ได้เห็น |
| คนเรียนเก่งของจริงต้องเรียนเป็น | ดูเปอร์เซ็นต์แปดสิบบวกทุกเทอมไป |
| สามปีจบเกษตรได้ที่หนึ่ง | แต่ก็ถึงตอนจบเหตุไฉน |
| ปีสองห้าศูนย์สามเขารับให้ | มีสิทธิ์ได้สอบรับราชการ |
| ครูมอหกประถมรุ่นสุดท้าย | อีกมากมายเพื่อนเราเขาประสาน |
| พวกเกษตรตำบลคนทำงาน | ขาดคนท่านรักเพิ่มมอหกไป |
| เสียดายเราอายุต่ำกว่าเกณฑ์ | แค่รู้เห็นมิมีสิทธิ์ทำไฉน |
| ยังมิขึ้นทะเบียนทหารไง | สิบแปดไซร้เขารับเข้าทำงาน |
| ต้องรออีกสองปีถึงมีสิทธิ์ | แต่เขาปิดรับแล้วฟังว่าขาน |
| เลิกรับครูมอหกประจำการ | จะต้องผ่านปอกอศอประกาศมี |
| พวกเกษตรตำบลรับสูงขึ้น | จนชักมึนทำไฉนในวิถี |
| เคยวาดหวังเอาไว้สิบแปดปี | คงเปรมปรีดิ์ได้สอบระบอบการ |
| เป็นอันจบไม่มีที่ให้สอบ | ถึงมิชอบอยู่เรือนเพื่อเขาขาน |
| ถามอยู่เรื่อยเมื่อไรจะได้งาน | อายนะท่านเรียนจบว่างวันวัน |
| สาระพัดสำเนียงเสียงติฉิน | ยินเขาว่าเรียนไปไม่สร้างสรรค์ |
| เสียเงินทองมากมายนับหมื่นพัน | งานสักอันก็ไม่มีไม่สมควร |
| มิอยากยินก็ต้องฟังพลังตก | ยากจักยกใจสู้ดูน่าสรวล |
| คงเป็นช่วงตกอับกลับนึกชวน | ให้ทบทวนชีวิตอนิจจัง |
| ปีสองห้าหนึ่งศูนย์พูนสวัสดิ์ | อัตคัตชีวิตที่ผิดหวัง |
| ถึงคราวเปลียนทางดีคงจีรัง | ได้ขึ้นฝั่งโลกธรรมบรรพขา |
| ได้เข้าบวชเป็นพระละเคหาสน์ | ฝึกฉลาดทางธรรมนำศึกษา |
| ตรีโทเอกเปรียญพากเพียรมา | เป็นมหาสี่ประโยคโชคชำนาญ |
| มีโอกาสช่วยศาสนกิจ | สั่งสอนศิษย์นักธรรมนำประสาน |
| สอนเปรียญสองสามกระทำการ | รักทำงานตอบแทนคุณธรรม |
| เป็นเลขาเจ้าคณะอยู่สามปี | จบกันที่หนึ่งหกตกตอนขำ |
| ลาสิกขาบรรจุครูประจำ | ประกอบกรรมจนเกษียณหกสิบปี |
| | |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น