วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2561

ไปดูเกาะสีชัง

                                                 ทิวทัศน์อ่าวเกาะสีชัง


........เพราะชอบโพสภาพลงเฟซ ใหม่ๆสด ๆ เพื่อบอกเพื่อชาวเฟซว่ากำลังไปไหนวานนี้เป็นภาพกำลังนั่งเรือข้ามฟากจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชา ไปยังเกาะสีชัง เลยถูกทักว่าคงไปเที่ยว อยากให้เล่าเรื่องราวไปเที่ยวให้ฟังหน่อย ครับถูกต้องไปเที่ยวกัน เพราะลูกหลานเขาไม่เคยไป สำหรับเราไปครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 เลยเรียกว่าไปดูเกาะว่ามันมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ก็ไม่ได้หวังว่าจะมีอะไรแปลกใหม่หรอก อย่างมากก็คงเป็นความเจริญของบ้านเมืองที่ผ่านไปเกือบสิบปีถึงได้กลับมาดูอีก
........วันศุกร์ 16 มีนาคม 2561 ครูหน่อย สุรีรัตน์ หาญบัญญัติแจ้งว่าจะแวะมารับไปดูหลานชาย คุณนัทพล เดชไทย ลูกชายครูนก เขาผ่านการคัดเลือกชิงทุนเข้าเรียน ม.1 อัสสัมชัญ ศรีราชา ประเภทนักกีฬาฟุตบอล ก็ขำ ๆนะ ตอนเด็ก ๆ ดูเกะกะเก้งก้างไม่ค่อยแข็งแรง แม่เลยพาไปสมัครฝึกฟุตบอล ตั้งแต่เรียน ป. 3 มั้ง สุขภาพก็ดีขึ้น เล่นเก่งขึ้น จนแม่พามาสมัครเข้าโครงการกับเขา ต้องเทียวมาสองสามรอบ จนสุดท้ายบอกว่าผ่านการคัดเลือก ได้เข้าเรียนแล้ว เขาให้ทุนการศึกษาจนจบ ม. 6 ถ้าประพฤติดีขยัน สม่ำเสมอ ผลการเรียนไม่ตก ก็คงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะชอบฟุตบอลอยู่แล้ว จะห่วงก็การเรียน อาจไม่ทันเพื่อนเพราะมาจากดอย ที่เขาเรียนเมืองทะเลแห่งภูเขาสุดหนาวในสยาม แต่เข้าใจว่าโดยสายเลือดแล้วไม่มีอ่อนด้อยเรื่องการเล่าเรียนหรอกน่าจะปรับตัวได้ โม้ยาวซะแล้ว เอาสั้น ๆคือจะไปแสดงความดีใจกับลูกสาวก็ครูนกนั่นแหละ กับหลานชาย ครูหน่อยจะมารับที่บ้าน

........ครูนกแจ้งว่าตอนเช้ายังไม่ได้พบหลาน เขามีกิจกรรมของโรงเรียนให้ทำ จะพบได้ก็ตอนบ่ายสามโมง แบบนี้ก็ว่างหลายชั่วโมงสิ ครูหน่อยมารับสามโมงเช้า จากแปดริ้วไปศรีราชาวิ่งบนมอเตอร์เวย์ ชั่วโมงเศษก็ถึงแล้ว เลยออกความเห็นว่า ไปเดินเล่นที่เกาะสีชังไหม ชมบรรยากาศแหล่งท่องเที่ยว ทานข้าวเที่ยงแล้วค่อยกลับมาครูหน่อยบอกครูนกเห็นว่าอยู่ว่าง ๆรอตอนบ่ายเหมือนกัน อยากจะไปดูด้วย ความจริงรู้อยู่ว่าไม่เคยไปกัน คงไม่ยอมพลาดแน่ ระยะทางจากท่าเรือศรีราชาไปเกาะสีชัง แค่
12 กิโลเมตรเอง นั่งเรือครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ตกลงไปด้วยกัน....
.......เกิดปัญหาจะเอารถไปฝากที่ไหน เพราะท่าเรือเดิมกำลังปิดซ่อม ท่าเรือใหม่คับแคบคงหาที่จอดยาก เลยพากันไปหาที่จอดที่ศูนย์การค้า แน่นเหมือนกัน เพราะเป็นวันเสาร์คนมาเที่ยวเยอะ จอดรถได้แล้วมาเจอกันหน้าห้างสรรพสินค้า ครูนกน้องเฟริสท์ แบงค์ สามคนพ่อแม่ลูกสาว ทางเราก็สามครูหน่อยกับพันธุ์ศักดิ์สามีรวมเป็น 6 คน นั่งตุ๊ก ๆสองคัน ไปท่าเรือ ไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง เรือกำลังจะออก เหลือ 12 ที่นั่ง ครูหน่อยจัดการตั๋วเสร็จก็ลงเรือกัน เขาให้ตัวใบหนึ่ง ราคา 50 บาท ก่อนโน้นเรือลำเล็กกว่านี้ ค่าเรือ สามสิบ วันนี้เรือลำใหญ่ ค่าเรือเลยแพงกว่าเก่ามั้ง...เพราะทางเท่าเดิมนี่นา หลานหัวเราะ เขาว่าโอเลี้ยงยังแพงกว่าเดิมเลยตา ก่อน10 บาทก็ว่าแพงแล้ว วันนี้เขาขาย 25 บาท แก้วเท่าเดิมนะ...เออจริงของมัน

                                                        ท่าเรือฝั่งศรีราชา


........นั่งสบาย ๆ แถวละสิบที่นั่ง ยาวเกือบยี่สิบแถว รวมชั้นบนด้วยน่าจะมีผู้โดยสารสองชั้นรวมกันเกินสามร้อยที่นั่ง เรือออกเดินทางไม่เห็นมีใครตกใจกลัว ดูลูกหลานคุยกันเพลินก็สบายใจ คงไม่มีใครเมาคลื่นหรอก เรือมันนิ่งมาก คลื่นกระทบกระแทกมันก็ไม่กระเทือน แค่สั่นเบา ๆ ค่อยนั่งสบายหน่อย เห็นคนอื่นเขาใช้มือถือเล่นเฟซเล่นไลน์ สงสารพวกขายสัญญาณเนต สัญญาณโทรศัพท์ คงคิดตังค์ไม่หวาดไม่ไหวเรายังช่วยซื้อสัญญาณเขาเลย แต่เอาเท่าที่จำเป็น ชอบถ่ายภาพมากกว่า มองนอกหน้าต่างเรือ เห็นพวกเรือเดินทะเลกระจายไปทั่ว ไม่รู้เขาทำอะไร จะว่าจับปลาคงไม่ใช่ ลำใหญ่ยังกะตึก บางลำมีปั้นจั้นสำหรับยกของหลายชุดด้วย น่าจะเป็นเรือสินค้ามากกว่า เห็นสะพานทอดยาวลงไปในทะเลจนถึงเรือสองลำ นึกขำ ๆ ว่ามันทำสะพานยาวหลายกิโลเมตรนะนั่น เห็นมีรถวิ่งไกล ๆ ยังกะรถเด็กเล่น คงวิ่งไปหาเรือแล้วกลับเข้าฝั่ง ก็แปลกดี สักสามสิบนาทีมองเห็นฝั่งเกาะแล้ว เขาบอกนั่นเกาะขาม เรือแวะ
ส่งผู้โดยสารสี่ห้าคน คงบ้านอยู่แถวนั้น เห็นหอบข้าวของเต็มมือทุกคน


                                                 ท่าเรืองฝั่งเกาะสีชัง
.......ออกจากท่าเรือเกาะขามเรือหันหัวไปทางเสาโทรศัพท์มั้ง ครูหน่อยบอกนั่นมันประภาคาร นะตา อ๋อ เคยได้ยินชื่อ แบบนี้หรือเรียกประภาคาร สมัยก่อนคงได้พึ่งแน่ไม่รู้สมัยนี้แล่นเรือยังต้องมองหาอยู่รึเปล่า เขาทำสวยดี สูงด้วย ดูไกล ๆนึกว่าเสาโทรทัศน์ มองไปอีกด้านน่าจะเป็นวัดจีน ครูหน่อยบอกไม่ใช่ ในกูเกิลว่าเป็นศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เออง่ายดีนะสมัยนี้ สงสัยอะไรถามกูเกิลได้เลย เราก็มีนี่นา กดถามมั่งที่เที่ยวบนเกาะสีชัง เจอรูปเหมือนที่มองเห็นนั่นแหละ ใช่ศาลเจ้าจีน ใกล้กันมีวัดพระอารามหลวงด้วย เห็นว่ามีเจ้าแม่กวนอิม มีรอยพระพุทธบาทจำลอง แต่อยู่บนเขา คงได้แต่สาธุแหละ ปีนไม่ไหวหรอก เปิด     กูเกิลตามดูภาพศาลเจ้า ภาพวัด เออ ดีนะไม่ต้องปีนก็มีภาพให้เห็น


                                           ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่(CR:EDTGuide.com) 

........ปีนถึงปากทางแยกไปไหว้ศาลเจ้า หันมองลงไปอ่าว เห็นภาพสวยงามมากเห็นสะพานเทียบเรือหลายแห่ง มีเรือเทียบสะพานอยู่หลายลำ ไกลออกไปเป็นประภาคาร นึกว่าภาพศาลพระภูมินั่นแหละ บ้านเรือนแน่นชายฝั่ง ไกลออกไปมีบ้านคนกระจัดกระจายไป ไม่รู้จักชื่อหมู่บ้านตำบลอะไร เด็ก ๆเขามาสะกิดให้ไปทานข้าวเที่ยงที่ร้านใกล้ ๆก่อนค่อยไปเที่ยว เขาถามกินอะไร กระเพราไก่ ตอบโดยลืมคิดว่ามาทะเลยังจะกินไก่ เลยขอเปลี่ยนเป็นกระเพราทะเลราดข้าวแล้วกัน เคยสั่งนะ เขาผัดกระเพรา หมึก กุ้ง เนื้อปลา บางทีมีหอยแกมมาด้วย สั่งง่ายดี คนอื่นเขาสั่งตามแบบที่เขาชอบ เราได้ก่อนเลยลงมือก่อน อิ่มพอดีคนที่หกเพิ่งได้รับ แม่ค้าใจเย็นจริง ๆ กับข้าวก็อร่อยนะ อิ่มแล้วก็ออกมายืนรอที่ถนนหน้าร้านนั่นแหละ ครูหนึ่งรถสกายแลป ตุ๊ก ๆ แบบเฉพาะที่ใช้บนเกาะสีชัง นั่งหกคนสบาย ๆ เครื่องยนต์ยังกะเครื่อง
รถปิคอัพ แรงมาก ๆ ปีนเขาลงเขาสบาย ๆ คนขับเรียกค่าบริการพาเที่ยวรอบเกาะ 250 บาท พาไปส่งจุดท่องเที่ยว ปลอยให้เที่ยว เสร็จแล้วเรียกรถไปต่อ ก็สะดวกดีแกบอกจะพาไปชม ช่องเขาขาด สะพานอัษฎางค์ พระที่นั่งจุฑาธุชราชฐาน แหลมจักรพงษ์และหาดถ้ำพัง ส่วนศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ถ้าจะไปก็เชิญปีนตอนนี้ได้เลยไม่มีใครอยากปีน ขอให้พาไปชมช่องเขาขาดหรือช่องอิศริยาภรณ์ก่อน




                                              ช่องเขาขาด(CR:EDTGuide.com)

.........สกายแลปพาห้อยังกะนั่งม้าแข่ง โยกเยก ๆ ลัดเลาะไปตามถนน ปีนเนินลงเนินจนน่าเวียนหัว พักหนึ่งก็บอกว่าถึงแล้วครับ เดินไปทางโน้น ทิวทัศน์งดงามมาก คนชอบมาถ่ายภาพกัน กดมือถือถามกูเกิล ช่องเขาขาด มีทั้งภาพและข้อความ ถึงจะชื่อเขาขาดอีกชื่อเพราะมากคือ ช่องเขาอิศริยาภรณ์ มีลักษณะเป็นแนวเขายื่นลงไปในทะเล ยืนอยู่ด้านบน มองลงไปตรงปลายแหลม ช่วงพระอาทิตย์ตกจะได้ภาพงดงามมาก นักท่องเที่ยวที่มาค้างคืนมิยอมพลาดมาเก็บภาพพระอาทิตย์ตกที่ช่องเขาขาด ดูภาพจากกูเกิล
แทนแล้วกัน นอกจากความงดงามของป่าไม้บนยอดแหลมแล้ว บริเวณชายหาด ยังเต็มไปด้วยก้อนหินที่ลมคลื่นซัดมากองอยู่ ทำให้มีรูปกลมเกลี้ยง จนชาวบ้านเรียกหาดหินกลม บริเวณนี้รัชกาลที่ห้า เคยมาประทับพักผ่อน ชมความงามของธรรมชาติ เท่าที่สังเกตดูก็เชื่อตามที่กูเกิ้ลโม้นั่นแหละ งดงามจริง ๆ เสียดายไม่มีปัญญาเดินไปสุดปลายแหลม ไกลขนาดนั้นวัยรุ่นอย่างเราไม่ไปหรอก


                                          หาดหินกลม(CR:EDTGuide.com)

......ถ่ายภาพกันอิ่มใจแล้วพอละ ไปเที่ยวกันต่อ ถามสกายแลปเขาว่าจะพาไปชมสะพานอัษฎางค์และกลุ่มพระจุฑาธุชราชฐาน มันเป็นยังไงเหรอ กูรูเกิ้ล กดสองสามคลิกออกมาอ๋อ ภาพสะพานสีขาว ๆยื่นลงไปในทะเล กับอาคารต่าง ๆ กูเกิลบอกเล่าไว้ ยาวยืดเชียว ขอสรุปย่อ ๆแล้วกัน
.......สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานเทียบเรือ สร้างโดยรัชกาลที่ 5 และพระราชทานนามนี้ไว้เป็นที่ระลึกโอกาสที่เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุฒิ พระโอรสหายประชวร ขณะที่เสด็จมาประทับพักผ่อนที่เกาะนี้ มีพิธีเปิดเมือ 23 สิงหาคม 2434 สะพานสีขาวที่เห็นปัจจุบันสร้างแทนของเดิมที่ชำรุดไปแล้ว


                                         สะพานอัษฎางค์ (CR:EDTGuide.com)

........บริเวณที่ตั้งพระจุฑาธุชราชฐาน นอกจากสะพานที่ยืนลงไปในทะเลแล้ว บนฝั่งยังมีอาคารที่เรียก ตึก พลับพลาอีกหลายหลัง สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้วยเช่นกันเพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน เช่นตึกวัฒนา พระตำหนักทรงปั้นหยา เรือนไม้ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรี หรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์ มีร่องรอยฐานตึกถามผู้รู้เขาว่าเป็นฐานพระราชวังเก่า ถูกรื้อเอาไม้ไปสร้างใหม่ที่กรุงเทพฯคือพระที่นั่งวิมานเมฆ และพร้อมกันนี้ได้สร้างวัดอัษฎางค์นิมิต ที่มองเห็นบนเขาในช่วงเวลาเดียวกันนี้ด้วยเดินชมกันไป ถ่ายรูปจนพอใจ แล้วก็กลับ จะรีบไปดูหลายชายซ้อมบอล


                                    ตำหนักบริเวณจุฑาธุชราชฐาน(CR:Google)

........ยังขาดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ หาดถ้ำพัง เคยไปมาแล้วสองครั้ง หาดทรายสะอาด น้ำใส คนนิยมไปเล่นน้ำกันมากมาย ร้านค้าขายอาหารขายของที่ระลึกมากองกันอยู่ที่หาดนี้ เพราะนักท่องเที่ยวจะมาชุมนุมกันที่นี่ สกายแลปจ้างเหมา 250 บาท เขารวมทั้งหาดถ้ำพังด้วย เมื่อเรางดไม่ไปแกคงบ่นเหมือนกัน แต่ยังจ่ายเท่าเดิมนั่นแหละ บ่นเสียดายแทนเราไม่ไปดูที่ที่สวยงาม เขาพามาส่งท่าเรือที่เดิม เรือลำใหญ่จอดรออยู่ติดแอร์ทั้งลำ มีสองชั้น จุผู้โดยสารได้มากกว่าสามร้อย ค่าโดยสาร 50 บาท เท่าเดิมได้ตั๋วก็ไปจับจองที่นั่งสบาย ๆ คนยังไม่มาก ได้เวลาเรือออกก็ยังไม่เต็ม

                                                 หาดถ้ำพัง(CR:ชายสามหยด)

........ขึ้นฝั่งตุ๊ก ๆ รออยู่แล้วหกสิบบาทพาwปส่งที่ศูนย์การค้า รถเราจอดรอที่นั่น รีบเข้าไปที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา เด็ก ๆกำลังซ้อมฟุตบอลกันอยู่พอดี ครูหนึ่งหลานชายได้พัก ฟังโคชเขาสอนกันอยู่ เอ้อมีโคชพูดไม่รู้เรืองด้วยคนหนึ่ง พูดไม่หยุด พอหยุดก็มีคนแปลให้เด็ก ๆ ฟัง ถามเขาบอกว่าเป็นโคชญี่ปุ่น มิน่ามันไม่พูดไทย เลิกซ้อมถึงได้พบหลานชายคุณนัทพล เดชไทย บอกว่าสบายดี พออยู่กับเขาได้ หอพักติดแอร์ทั้งหลัง ห้องอาหารอยู่ชั้นล่าง อาคารอยู่ติดสนามซ้อม อาคารเรียนเดินไปไม่ไกล ดูแล้วก็ไม่น่าจะลำบากอะไร น่าจะสู้ไหว ไม่นานครูหน่อยก็ตามมา ทักทายกันครู่ใหญ่ก็ลาเพราะหกโมงเศษแล้ว
.......เขาถามทางกลับ ก็บอกว่าเนวิเกเตอร์รู้ดี ถามดูสิ มันบอกเลี้ยวซ้ายเลี่ยวขวา ก็ไปตามนั้นแหละ สมัยนี้ไม่นิยมหลงทางกันหรอก ถ้ารถไม่ติดไว้ก็เปิดมือถือดูได้ ครู่ใหญ่ ก็ทะลุออกมอเตอร์เวย์ เห็นด่านบางแสน รับบัตรแล้วก็ห้อแรดสบาย ๆรถไม่มากผ่านด่านพานทองที่ยกเลิกไปแล้วแต่ยังไม่รื้อ ค่อย ๆวิ่งลอดช่องเก็บเงินมา จนถึงด่านบางปะกง ทางออกไปฉะเชิงเทรา มืดแล้วสองข้างทางมีแต่ไฟรถวิ่งกัน ถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา รถมากประจำเพราะตัดตรงไปถนนสุวินทวงศ์เข้ากรุงเทพฯได้ วิ่งมาไม่ถึงยี่สิบนาทีแวะถนนหน้าวัดโสธร จะไปทานข้าวต้มหน้าวัด วันนี้ไม่มาขาย เลยมาถึงหน้าบ้านค่อยไปกินร้านเจ้าประจำ สองทุ่มเศษหน่อยกับหลานเขยก็ลากลับ ขอบใจที่มารับไปเที่ยวทั้งวัน สนุกดี ทีหลังอย่าลืมมาชวนไปอีกล่ะ


 ภาพที่ถ่ายกันเอง


                        ท่าเรือไปเกาะสีชัง หลักกิโลบอก 12 กิโลเมตร ไม่ไกลแต่น้ำลึก ต้องนั่งเรือ

                                           ตู้ฮ้าง ๆ แต่ขายตั๋วเรือไปเกาะสีชังแน่

                                            ถ่ายเป็นหลักฐานว่ามาแถวนี้จริง

                                นั่งเรือไม่มีไรทำ ถ่ายเรือเดินสมุทรไว้ดูเล่น

                             ครูหน่อยกลัวตาเมาเรือ นั่งประกบ ตาก็เมาจริง เมาแต่ดูข้างหน้าต่างเรือ


              ใกล้เกาะสีชัง เรือพวกนี้จอดนิ่งติดกันเป็แพ ไม่รู้มันทำไรกัน

ลำนี้น่าจะเป็นเรือสินค้า หรือไม่ก็เรือบรรทุกหินๆปขายให้เขาก่อสร้างมั้ง  ปั้นจั่นเยอะนักนี่

                                  นั่งสกายแลป ถ่ายภาพเฟริสท์ไว้เป็นหลักฐาน

                                                    ในเรือข้ามฟาก

                                                     ในเรือข้ามฟาก

                                                            ในเรือข้ามฟาก


                                 ดูมันขู่เรา ไปแล้วไม่รับคืน กูจะได้กลับบ้านไหมนี่

                                                   บันทึกไว้เป็นหลักฐาน


                                              ขึ้นท่าเรือ ยังไม่ได้ไปไหน

                                    ภาพแทรกมาจากสะพานอัษฎางค์ เป็นลิบ ๆ

                                       ท่าเรือฝั่งเกาะสีชัง เห็นประภาคารลิบ ๆ

                                                             จุฑาธุชราชฐาน

                                                             จุฑาธุชราชฐาน

                                                             จุฑาธุชราชฐาน

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                 สะพานอัษฎางค์


                                                 สะพานอัษฎางค์

                                                  เขตจุฑาธุชราชฐาน

                                                  เขตจุฑาธุชราชฐาน

                                                  เขตจุฑาธุชราชฐาน

                                                  เขตจุฑาธุชราชฐาน

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)
                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                                                  ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                            พ่อ แม่ และลูก ที่ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                            ครูหน่อยชอบใจได้ถ่ายรูปคู่กัปตันเรือหาย ที่ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                             ครูหน่อยชอบใจได้ถ่ายรูปคู่กัปตันเรือหาย ที่ช่องเขาขาด(อิศริยาภรณ์)

                             ส่วนนี่ผู้เฒ่า ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)

                             ส่วนนี่ผู้เฒ่า ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)

                             ส่วนนี่ผู้เฒ่า ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)

                             ส่วนนี่ผู้เฒ่า ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)

                             กัปตันเรือหาย ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)


                             กัปตันเรือหาย ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)


                             กัปตันเรือหาย ติดอยูบนฝั่ง ช่องเขาขาด(ช่องอิศริยาภรณ์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น